ควงปืนชิงทอง6ล. โลตัสเจอครั้งที่3


เพิ่มเพื่อน    

 โจรควงปืนบุกเดี่ยวชิงทองในห้างโลตัสวังหิน กวาดทองรูปพรรณหนัก 200 บาท ค่าเกือบ 6 ล้าน เผ่นหนีลอยนวล รอง ผบ.ตรงรุดตรวจจุดเกิดเหตุ ได้เบาะแสคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิด
    เมื่อเวลา 10.30น. วันที่ 27 กันยายนนี้ ร.ต.ท.ธนพล มโนษร รองสารวัตร (สอบสวน) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาวังหิน แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ รอง ผบก.น.4, พ.ต.อ.พรทวี สมวงษ์ ผกก.สน.โชคชัย, พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตร์ ผกก.สส.บก.น.4 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปรามจำนวนหนึ่ง ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัส ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าออกของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว พบพนักงานยืนรอให้การด้วยความตื่นตระหนก จากการสอบสวนพนักงานให้การว่า คนร้ายเป็นชาย มีปืนเป็นอาวุธ เมื่อมาถึงก็ได้กระโดดเข้าไปบนกระจกภายในร้าน ก่อนจะทุบกระจกตู้โชว์ กวาดทองในถาดไปจำนวน 5 ถาด รวมน้ำหนักทองรูปพรรณประมาณ 200 บาท มูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท
    พยานที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ตนเดินเข้ามาในห้าง คนร้ายก็เดินเข้ามาคู่กัน จากการสังเกตคนร้ายสวมเสื้อยืดสีขาว สวมหมวกกันน็อกสีชมพูครึ่งใบ ใส่แมสก์ปิดบังในหน้า เมื่อเดินมาถึงหน้าร้านทอง คนร้ายได้ผลักตนให้พ้นทาง จากนั้นคนร้ายกระโดดขึ้นบนตู้กระจก และข้ามไปยังภายในร้าน หลังจากนั้นตนได้ยินเสียงกระจกแตก จึงหันกลับไปมอง พบคนร้ายใช้อาวุธปืนกวาดไปมา รปภ.ของห้างจะเข้ามาช่วย แต่คนร้ายข่มขู่ รปภ.ว่าอย่ามายุ่ง ด้วยความตกใจตนจึงรีบหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ
    ยังมีพยานอีกคนที่เปิดร้านขายของใกล้เคียงที่เกิดเหตุ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตนสังเกตเห็นบุคคลซึ่งคาดว่าเป็นคนร้าย เป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อแขนยาวสีเทาขาว รูปร่างไม่ผอมไม่อ้วน สะพายกระเป๋าข้างสีดำ สวมหมวกกันน็อกครึ่งใบสีแดง สวมหน้ากากอนามัย และมีลักษณะเหมือนไส่วิกผมสีน้ำตาลเป็นลอนยาวเพื่ออำพรางตัว นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นว่าคนร้ายถือปืนลูกโม่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม หลังก่อเหตุวิ่งเลี้ยวซ้ายและหลบหนีไปด้านหลังของห้างสรรพสินค้า ไปขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ข้ามสะพานคลองลาดพร้าว สามารถขี่ทะลุไปออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนลาดปลาเค้าและถนนพหลโยธิน
    ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับรถคนร้าย พาหนะที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนีตามเส้นทางที่พยานให้การ พร้อมประสานสถานีตำรวจใกล้เคียงช่วยสกัดจับ แต่ไร้วี่แวว
    มีรายงานว่า คนร้ายมีการดูลาดเลาก่อนลงมือชิงทรัพย์ ซึ่งก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 09.30 น. มีชายรูปร่างสูงใหญ่ สวมหน้ากากอนามัย ลักษณะคล้ายคนร้ายที่ก่อเหตุ เข้ามาสอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยว่าร้านทองดังกล่าวเปิด-ปิดกี่โมง ซึ่งพนักงานรักษาความปลอดภัยก็บอกกับชายคนดังกล่าวว่าร้านทองเปิด-ปิดตามเวลาห้าง
    พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เชื่อว่าคนร้ายมาดูลาดเลาก่อนก่อเหตุ ซึ่งหลักฐานที่ได้มาตอนนี้ พอจะทราบรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย พนักงานสอบสวนได้นำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นได้ข้อมูลยี่ห้อและรุ่นรถแล้ว ส่วนป้ายทะเบียนยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ รวมถึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าคนร้ายหลบหนีไปเส้นทางใด พร้อมยืนยันว่ากล้องวงจรปิดของทางร้านและบริเวณใกล้เคียงสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ทั้งหมด ส่วนน้ำหนักทองที่คนร้ายได้ไปคาดว่าน้ำหนักเกือบ 200 บาท มูลค่าเบื้องต้น 6 ล้านบาท สำหรับอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่ ซึ่งเป็นปืนจริงหรือปลอมยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
    มีรายงานว่า ห้างเทสโก้ โลตัส สาขาวังหิน ก่อนหน้านี้มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธชิงทองมาแล้ว 2 ครั้งในปีเดียวกัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยเหตุการณ์ทั้ง 2 ครั้ง เกิดขึ้นที่ร้านห้างทองเยาวราชเอเชีย สาขาเจซี เป็นอาคารแถวชั้นเดียว อยู่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างเทสโก้ โลตัส ครั้งแรกเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ต.ค.62 โดยคนร้ายได้ขอถ่ายภาพสร้อยทองน้ำหนัก 5 บาท 1 เส้น เพื่อส่งให้เพื่อนดูผ่านไลน์ ก่อนจะกำสร้อยทองวิ่งหนี แต่โจรวิ่งชนประตูอัตโนมัติก่อนหันมาบอกว่า "ล้อเล่น" โดยคนร้ายได้ทองรูปพรรณหนัก 24 บาท มูลค่าประมาณ 500,000 บาท แล้ววิ่งหลบหนีไปขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มุ่งหน้าถนนลาดปลาเค้า หลังจากนั้น 3 วันก็ถูกจับกุมตัวได้ คือนายวุฒินันท์ สันติกุลสุข อายุ 22 ปี
    เหตุการณ์ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรกประมาณ 2 เดือน ช่วงค่ำวันที่ 17 ธ.ค.62 คนร้ายทราบชื่อต่อมาคือนายนิพัฒน์ ใจชอบสันเที๊ยะ อายุ 31 ปี ใช้อาวุธปืนยิงกระจกหน้าร้านก่อนเข้าไปชิงทองประมาณ 40 เส้น น้ำหนักกว่า 120 บาท มูลค่ากว่า 2.4 ล้านบาท แล้วขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีดำคาดแดง ไม่ทราบเลขทะเบียน หลบหนี ชุดสืบสวนตามแกะรอยจนพบข้ามไปเล่นกาสิโนฝั่งเมียนมา ก่อนบุกรวบตัวได้ที่จุดท่าข้ามไปฝั่งเมียนมา บริเวณบ้านท่าอาจ หมู่ที่ 4 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ยึดสร้อยทองของกลางได้เพียง 2 เส้นเท่านั้น.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"