26 ก.ย.63 - น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ ส.ว. ชอบอ้างว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นรัฐธรรมนูญประชาชน เพราะผ่านประชามติ 7 สิงหาคม 2559 แต่ถ้าสืบค้นข้อมูลจะพบว่า หลังจากลงประชามติได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมโดยสภานิติบัญญัติที่มาจากการรัฐประหาร ในช่วงเดือนมกราคม 2560 ซึ่งหลังการแก้ไขไม่มีการลงประชามติอีกครั้ง ดังนั้นจะอ้างว่าเป็น รัฐธรรมนูญประชาชนผ่านการลงประชามติจะใช่หรือ เพราะสภาที่แก้ไขรัฐธรรมนูญหลังลงประชามติก็แต่งตั้งจากคณะรัฐประหาร คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560 ก็มาจากคณะรัฐประหาร ดังนั้น ควรเรียกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า รัฐธรรมนูญรัฐประหาร คสช. มากกว่า
อีกทั้งกระบวนการลงประชามติเมื่อปี 2559 สืบค้นข้อมูลดูจะพบว่าเป็นการลวงประชาชนให้ลงมติ เพราะในการลงประชามติครั้งนั้นรัฐบาลใช้การประชาสัมพันธ์ว่า ให้ลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญเพื่อจะได้เลือกตั้ง แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ รู้อยู่แก่ใจมานานแล้วว่า ประชาชนเอือมระอาการบริหารประเทศที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มาจากการรัฐประหารยึดอำนาจ ซึ่งมีผลงานเด่นในการสร้างคนจนเพิ่มขึ้นเกือบสองล้านคนจากการบริหารประเทศ 2-3 ปีแรก จะเห็นได้จากตัวชีวัดจำนวนคนจนที่เพิ่มขึ้นจากการประเมินสถิติอย่างเป็นทางการของภาครัฐ ระหว่างปี 2558 ถึงปี 2561 อัตราความยากจนของประเทศไทยเพิ่มขึ้น 2 สองครั้งในปี 2559 และปี 2561 โดยอัตราความยากจนของประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 7.21% เป็น 9.85% ตามลำดับ และค่าสัมบูรณ์ของประชากรที่อยู่ในภาวะยากจนเพิ่มสูงขึ้นจาก 4,850,000 คน เป็นมากกว่า 6,700,000 คน นี่คือผลงานการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่บริหารประเทศทำให้คนจนเพิ่มขึ้นเกือบสองล้านคน ซึ่งประชาชนรับไม่ได้ ที่สำคัญภูมิภาคที่นักการเมืองส่วนหนึ่งสนับสนุนการยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์อย่างภาคใต้ได้มีข้อมูลรายงานว่า ในปี 2561 นับเป็นครั้งแรกที่ภาคใต้เป็นภูมิภาคที่มีอัตราความยากจนสูงที่สุดในประเทศ นี่คืออีกหนึ่งผลงานที่ พล.อ.ประยุทธ์ มอบให้ผู้สนับสนุนการเข้ามาสู่อำนาจ
ไม่น่าแปลกใจที่ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ทนให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในอำนาจบริหารประเทศต่อไปไม่ไหว แม้แต่เยาวชนยังออกมาขับไล่ ถ้ารัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เชื่อว่ากระแสหลักของประเทศในขณะนี้ไม่ต้องการรัฐบาลที่ไม่มีความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจให้ประชาชนอยู่ดีกินดีได้ ให้ไปย้อนดูการตอบคำถามประกวดมิสแกรนด์รอบ 5 คนสุดท้าย ซึ่งทั้ง 5 ผู้เข้ารอบตอบคำถามไปในแนวทางสนับสนุนเยาวชนผู้ชุมนุมขับไล่รัฐบาล ถ้ากระแสการปฏิเสธรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์และต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ใช่กระแสสูง มิสแกรนด์ทั้ง 5 คงไม่ตอบคำถามออกมาในแนวเดียวกัน รวมทั้งมิสแกรนด์ระนองที่ประกาศขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ บนเวทีคงไม่ได้รับการยอมรับด้วยเสียงปรบมือทั้งหอประชุม รวมทั้งไม่ได้รับเลือกจากกรรมการให้เป็นมิสแกรนด์ประเทศไทยด้วย
“ด้วยความหวังดี ขอเตือนคุณประยุทธ์ตรงๆ ว่ายอมถอยออกจากอำนาจในเวลาที่มีโอกาสถอย ดีกว่าการดันทุรังจนถอยไม่ได้ และประเทศพังพินาศเพราะความหวงอำนาจของคุณประยุทธ์ เพราะคุณประยุทธ์ชอบอ้างว่ารักชาติมาก ก็ขอให้เสียสละออกจากอำนาจก่อนที่ต้องออกจากอำนาจพร้อมการพังทลายของประเทศ และหมดที่ยืนในประเทศ ซึ่งคุณประยุทธ์น่าจะรู้ตัวดีว่าไม่สามารถที่จะเป็นประชาชนโลกได้อย่างใครๆ ที่มีความสามารถรอบตัวที่คุณคิดแข่งขันกับเค้าแต่สู้ไม่ได้” น.ส.เกศปรียา กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |