การเมืองช่วงนี้ดูผิดฝาผิดตัวไปบ้างในบางคราว แต่มันคือ...การเมือง 
    ดูเหมือนรัฐบาล คสช.เป็นฝ่ายตั้งรับ ปล่อยให้นักการเมืองปล่อยหมัดชุดใส่ 
    ไม่น็อก ไม่น่วม แต่...กกหูแดงเถือกไปเหมือนกัน! 
    แล้วก็ได้คู่จิ้นเฉพาะกิจ "เจี๊ยบ-แจ็ค" ถึงจะดูไม่เข้ากันสักเท่าไหร่ แต่สถานการณ์ก็พาให้กลมกลืนในระดับหนึ่ง 
    วันก่อน "วัชระ เพชรทอง" ท้า "ลุงตู่" ไปสาบานหน้าวัดพระแก้ว ใน ๗ วัน พร้อมนั่งยันนอนยัน มีแน่นอน ระดมทุน ๔ หมื่นล้านสนับสนุนพรรคทหาร 
    ก็ยากที่ "ลุงตู่" จะรับคำท้า เพราะไทยแลนด์ ๔.๐ ยังจะมาท้าสาบานกันอีก 
    คงใช่เรื่อง!
    เห็นทาง "ลุงตู่" บอกว่าจะไปศาล แทนไปวัดพระแก้ว ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ 
    แต่ "หมวดเจี๊ยบ" เป็นเดือดเป็นร้อนแทน 
    "การดึงการเมืองกลับไปสู่ระบบมุ้งระบบก๊วนเพื่อต่อรองโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีต่างๆ เป็นการเมืองที่สกปรกอย่างไร หากเราปล่อยให้นักการเมืองที่กล้าวิจารณ์ผู้มีอำนาจถูกดำเนินคดี สุดท้ายหากมีการเลือกตั้งในอนาคต ในสภาจะมีแต่ ส.ส.ที่เป็นเด็กในคาถาของ คสช. และเห็นดีเห็นงามกับ พล.อ.ประยุทธ์ ทุกเรื่อง แม้จะทำในสิ่งที่ผิด เพราะพวกเขาต้องการแค่มีตำแหน่งในสภา ไม่ได้ตั้งใจทำงานเพื่อชาวบ้าน หรือสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศดีขึ้น แล้วใครจะคอยปกป้องผลประโยชน์ของชาวบ้าน แบบนี้ไม่ใช่บรรทัดฐานที่ถูกต้องและไม่ใช่การปฏิรูปประเทศที่แท้จริง"
    ที่จริงนางก็พูดถูก เพราะสมัยรัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ก็เป็นแบบนี้ 
    ต่อรองเก้าอี้กันอย่างบ้าคลั่ง
    มุ้ง กทม. แก๊งเจ๊  
    กลุ่มภาคเหนือ อีสาน แยกย่อยอีสานเหนือ อีสานใต้ 
    หรือแม้กระทั่ง เจ๊ชนเจ๊ เห็นมาหมดแล้ว 
    รัฐบาลเลือกตั้งทำเรื่องพวกนี้ใช่ว่าจะสนใจประชาชน นั่นเพราะการเลือกตั้งต้องใช้เงิน  
    ผู้สมัคร ส.ส.รับเงินจากเจ๊ๆ ทั้งหลาย 
    พอสอบได้เป็น ส.ส.ก็เข้าไปอยู่ในคอกเจ๊ เป็นเด็กในคาถาเจ๊ ตามแต่เจ๊จะจูงจมูกไป
    ที่เห็นชัดก็ตั้งกลุ่มตั้งก๊วน ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี นั่นล่ะ 
    ฉะนั้นสิ่งที่ "หมวดเจี๊ยบ" พูดมาตรงหมด 
    ไม่ใช่บรรทัดฐานที่ถูกต้อง และไม่ใช่การปฏิรูปประเทศที่แท้จริง
    ครับ...ที่น่ากังวลคือ นักการเมืองเวลาเป็นรัฐบาล มีอำนาจอยู่ในมือพูดอย่างหนึ่ง
    แต่พอสิ้นอำนาจ หรือตกเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายต้าน ก็จะพูดอีกอย่าง หากแก้ไขเรื่องพวกนี้ไม่ได้ อย่าฝันว่าการเมืองจะได้รับการปฏิรูป.