โดนดราม่าหาว่ามีสามีรวยกำมะลอ หลังคนในสังคมมองว่าเป็นคนรวย เพราะตอนงานแต่งงานที่ประเทศมาเลเซีย จัดใหญ่และมีพระราชินีเสด็จมาร่วมงาน ทำให้อดีตนักร้องสาว นุ๊ก-สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ต้องขอชี้แจงผ่านรายการ คุยแซ่บShow ว่าสามีตนไม่ใช่คนรวย
"แต่งงานกันมา 2 ปีแล้วค่ะ แรกๆคนจะเข้าใจว่าเราแต่งงานกับเศรษฐีเพราะว่ามีพระราชินีเสด็จ เราก็พยายามประกาศในอินสตาแกรมของตัวเอง ที่ประกาศไม่ใช่อะไรหรอกค่ะไม่อยากให้คนเข้าใจผิด ไปไหนก็ไม่อยากให้คนมาทรีทสามีเรา เราก็พยายามประกาศตลอดว่าไม่ได้เป็นมหาเศรษฐี ที่งานแต่งงานดูยิ่งใหญ่อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเป็นตากล้องได้ทำงานในวังด้วยค่ะ เป็นที่รักที่เอ็นดูของผู้ใหญ่ที่ติดต่อประสานงานในนั้น พอรู้ว่าจะแต่งงานผู้ใหญ่ก็เมตตาค่ะ เขาช่วยเหลือให้งานแต่งงานจัดขึ้นได้ค่ะ
ไม่ได้เกาะนะ ตอนนี้เขายังทำงานอยู่เลย ก็ได้เขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำธุรกิจของเราด้วยค่ะ ตอนที่เขาย้ายมาเมืองไทยใหม่ๆยังไม่มีงาน ด้วยภาษาก็ยังไม่ได้ หน้าที่ของเขาก็คือดูแลลูก อยู่บ้านช่วยเรา และเราก็อยู่เมืองไทยบ้านเรา คอนเนคชั่นต่างๆที่เรามีมันก็เยอะค่ะ เราก็เป็นฝ่ายออกไปทำงานนอกบ้าน แต่ดูเขาทำงานหนักกว่าเราอีกนะคะ เขาจะตื่นตีห้า พาลูกเราไปอาบน้ำ ไปรับไปส่งที่โรงเรียน เขาน้อยใจไหม มี เหมือนเขาทิ้งทั้งชีวิตเลย อาชีพเขาเป็นตากล้อง ทิ้งทุกอย่างเพื่อมาอยู่กับเราค่ะ ถือว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่แล้ว เราก็ต้องให้กำลังใจเขา ถ้าไม่มีเขาเราก็ออกไปทำงานข้างนอกไม่ได้เหมือนกัน
ต้องบอกว่า ฐานะทางบ้านเขาไม่ได้มั่งมีอะไรนะคะ แต่ว่าเขาก็อยู่ได้ในสไตล์ของเขา การที่เขาทิ้งทางบ้านมา มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของฐานะทั้งหมด อาจจะเป็นในเรื่องของการใช้ชีวิตกับคนที่เขารัก ตอนที่เขาจะมากับเรา คุณพ่อเขาร้องไห้ คุณพ่อก็พูดกับเราว่าลูกเขาตั้งแต่เกิดจนถึงทุกวันนี้ไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจเลย และไม่เคยไปนอนที่ไหนไกลบ้าน เราก็รู้สึกว่าไปพรากลูกเขามารึเปล่า พ่อแม่เขาก็มีบินมาตอนที่หลานเกิดใหม่ๆค่ะ แล้วก็มีบินกลับไปบ้าง
สุดท้ายคือชีวิตคนเราก็ไม่มีอะไร บางคนคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างในโลก ชีวิตเรายังไม่รู้อะไรเลย สิ่งสำคัญในโลกก็คือทุกคนอยากมีความสุขอ่ะ ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เมื่อก่อนเราไม่ค่อยเข้าใจว่ามันคืออะไร แต่พอเราโตเราก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าจริงๆเราต้องการแบบไหน มันอยู่ที่ว่าความสุขของแต่ละคนโอเคแบบไหนมากกว่า
ลูกๆสองคนโอเคกับสามีมากค่ะ โชคดีที่ว่าเราเลือกสามีคนนี้เพราะอะไร ไม่ใช่ว่าเพราะความรักผู้หญิงกับผู้ชายแน่นอน แต่มันมากกว่านั้น ตอนแรกเรากะไม่แต่งงาน แต่เรามาคิดว่า เราหาพาร์ทเนอร์ที่มาช่วยดูแลลูก มันเลยเป็นโจทย์ที่ทำให้เราอยากมีครอบครัวอีกครั้งค่ะ แล้วเป็นโจทย์ที่ทำให้เราได้เลือกเขามาเป็นสามี
อายุห่างกันแค่ 15 ปีเองค่ะ เขาอาจจะมีความรับผิดชอบสูง แต่เราไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องช่วงวัยนะคะ แปลกเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะว่าด้วยพื้นฐานดั้งเดิมหรือครอบครัวที่เขามา เป็นยุคเดียวกับเรา แบบเดียวกับเราค่ะ เรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเขาไม่ค่อยขอค่ะ เขาจะขอครั้งละ 1,000 เติมน้ำมันค่ะ เขาไม่ค่อยใช้อะไรนะคะ ถ้าเขาไม่มีก็จะมาขอ 1,000 เราก็ให้แค่นั้น พอนุ๊กเปิดธุรกิจเขาก็มาทำงานช่วย เราก็ไม่ได้ให้เงินเดือนเพราะเขาไม่ได้ขอ"
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจากอินสตาแกรม @hakim.azahar @nook_suttida
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |