25 ก.ย.63 - นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า การที่รัฐสภา ได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการ เพื่อศึกษาก่อนรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไปอีก 30 วันนั้น ถือเป็นการเปิดโอกาส การทำงานร่วมกันของ 2 สภา ซึ่งต้องร่วมหารือ และให้เวลาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ศึกษาก่อน เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงการศึกษาในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เท่านั้น ซึ่งส.ส. เอง ก็ไม่ได้มีโอกาสพิจารณาร่วมกับส.ว. หรือศึกษาร่วมกัน
ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐ จึงมองว่าการที่เราตั้งกรรมาธิการ ศึกษาก่อนรับร่างแก้รธน. ครั้งนี้ จะเป็นการเปิดกว้างให้ส.ว.ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพราะในการที่จะรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยหลักการแล้ว ต้องใช้เสียงของส.ว. 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิก ดังนั้นจึงต้องให้เวลากับ ส.ว. ในการศึกษาร่างอย่างถี่ถ้วนด้วย และถือเป็นความคุ้มค่า ที่จะได้อภิปรายอย่างหลากหลายมากขึ้น จากผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีจุดมุ่งหมายสิ่งเดียวกัน คือ เพื่อประเทศชาติ
"การตั้งกรรมาธิการ ศึกษาก่อนรับร่างแก้รธน. ไม่ได้มีความพยายามถ่วงเวลา แต่เรามองว่าสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เกิดความเข้าใจถึงช่องว่างของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ก่อนที่จะมีการแก้ไข" โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
นางสาวพัชรินทร์ ระบุว่า แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ทางฝ่ายค้าน ออกมาระบุที่จะไม่ร่วมสังฆกรรม กับกรรมาธิการชุดดังกล่าว เพราะเราคาดหวังว่าการตั้งกรรมาธิการฯ ครั้งนี้ ทั้งฝั่งรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน จะได้นำร่างทั้งหมด เข้ามาหารือกันก่อน มารวมให้เกิดเป็นร่างเดียว ที่จะส่งเสนอสภาฯต่อไป จึงน่าเสียดาย ที่ฝ่ายค้าน จะไม่ให้ความร่วมมือในครั้งนี้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |