23 ก.ย.63 - นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า เสียง ส.ว. 1 ใน 3 หาไม่ยาก หากเรื่องนั้นเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติจริง ได้อ่านรายงานการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ อนุกรรมาธิการฯชุดนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลยรู้ชุดความคิด หากปล่อยให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อันตรายอย่างยิ่ง เพราะอนุกรรมาธิการบางคนเสนอ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เสนอให้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใน 30 วัน แต่มีการเสนอให้การนำคดีสู่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง ควรกำหนดให้การฟ้องคดี ต้องฟ้องที่ศาลอุทธรณ์เป็นศาลชั้นแรก แสดงว่ากำลังจะทำคดีทุจริตลงไปที่ศาลอุทธรณ์อีกแล้ว และถ้าต้องการฎีกา ก็ให้ฎีกาโดยองค์คณะที่มาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ซึ่งเป็นการแก้ไขหลักการของรัฐธรรมนูญปราบโกง รวมทั้งสภาฯสามารถเรียกผู้พิพากษา ตุลาการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระมาแถลงข้อเท็จจริงในสิ่งที่ทำ หรือศึกษาอยู่ได้

"สิ่งนี้กำลังบอกว่าถ้าไม่พอใจกกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ปปช. ก็กำลังจะใช้สภาฯแทรกแซงใช่หรือไม่ สิ่งนี้ปรากฎในรายงาน 278 หน้าของนายไพบูลย์ อย่างนี้ก็รู้ว่าทำไมถึงอยากแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยยกร่างใหม่ทั้งฉบับ แทนที่จะแก้รายมาตรา"

นายสมชาย กล่าวอีกว่า ถ้าเอามวลชนเคลื่อนลงถนน ไม่เคยมีทางสำเร็จ ในการปฏิวัติประชาชน แต่จะเกิดปฏิวัติรัฐประหาร ล้มตายของผู้คน ขอร้อง ถ้าอยากแก้รัฐธรรมนูญ ชวนกลับมา อย่าทำในสิ่งที่เกินเลย เพราะวันนี้กำลังทำสิ่งที่ขัดรัฐธรรมนูญหลายเรื่อง แต่ขอถามว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไร รัฐธรรมนูญ 279 มาตรา มีปัญหาเล็กน้อย ทำไมต้องเผาบ้านทั้งหมด สภาฯกำลังไปผิดทิศ ผิดทาง เราฝ่าฟันสิ่งต่างๆมาเยอะ ไม่อยากลงมติว่าไม่เห็นด้วย อยากชวนเพื่อนสมาชิกว่า ในอนาคตไปร่างใหม่ ไปศึกษาก่อน ถ้าจะแก้อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ผมเห็นชอบ แต่ในวันนี้ไม่เห็นชอบ