หลังๆ นี้...หลายบ้าน หลายเมือง ชักเต็มไปด้วยข่าวคราวการป่วย การติดเชื้อ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของท่านโคโรนาไวรัส COVID-19 ที่เริ่มหวนกลับมาแรง แซงโค้ง กันใหม่อีกรอบ ไม่ว่าจะเป็นรอบสอง รอบสาม หรือรอบไหนๆ ก็แล้วแต่ ขณะที่บ้านเราที่ออกจะเก่งกว่าใครเขาเพื่อน แม้ยังไม่ถึงกับต้องตาเหลือก ตาลีตาลาน มากมายเกินไปนัก แต่ก็คงไม่อาจ ดูเบา ได้เป็นเด็ดขาด...
-----------------------------------------------
คือไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน ฯลฯ ในช่วงนี้ ถึงขั้นบางประเทศ...กำลังต้องคิดๆ ว่าอาจต้องหวนกลับไปปิดบ้าน-ปิดเมือง กลับไป ล็อกดาวน์ กันใหม่อีกรอบเอาเลยก็ไม่แน่ๆ เช่นประเทศอังกฤษของนายกฯ หัวกระเซิง นาย บอริส จอห์สัน เป็นต้น จากเดิมทีทำท่าว่าอาจเปิดโอกาสให้บรรดา ฮูลิแกน ไม่ว่า แฟนผี หรือ แฟนหงส์ กลับไปนั่งแหกปาก ตะโกนเชียร์ในสนามได้อย่างเป็นระบบและเป็นกิจการ แต่มาหลังๆ นี้...แค่คิดไปรวมตัวในผับ ในบาร์ ฯลฯ ก็คงไม่น่าจะ เข้าท่า ต่อไปอีกแล้ว ส่วนฝรั่งเศสที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อวันเดียว หรือภายใน 24 ชั่วโมง ปาเข้าไปเป็นหมื่นๆ ก็น่าจะก่อให้เกิดบรรยากาศแทบไม่ได้ผิดแผกแตกต่างอะไรมากมายนัก...
-----------------------------------------------
ส่วนอิสราเอลของนายกรัฐมนตรี เนทันยาฮู ตกลงก็ต้องหันไป ล็อกดาวน์ รอบใหม่อย่างเป็นทางการกันอีกครั้ง ไม่ต่างไปจากประเทศ คู่กัด อย่างอิหร่าน นั่นเห็นว่ากำลังเจอกับ การระบาดระลอกสาม เอาเลยถึงขั้นนั้น ถ้าฟังน้ำเสียงจากผู้บริหารองค์กรต่อต้านการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส อย่างหน่วยงานที่เรียกย่อๆ ว่า ISNA ขณะประเทศที่ติดเชื้อ ที่แพร่ระบาดในอันดับต้นๆ ก็แทบไม่ต้องเสียเวลาพูดถึงอเมริกา บราซิล อินตะระเดีย กำลังแข่งกันติด แข่งกันตาย ชนิดน่าขนหัวลุก ขนคอตั้ง อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้...
-------------------------------------------------
ขณะที่บ้านเรานั้น...ด้วยเหตุเพราะจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ตาย แทบจะเป็นศูนย์ หรือเหลือศูนย์ อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอมานานแล้ว ความกลัวการ อดตาย มากกว่าที่จะกลัว ป่วยตาย มันจึงเริ่มมาแรง แซงโค้ง เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ ถึงขั้นว่า...กำลังเริ่มคิดๆ เปิดบ้าน-เปิดเมือง ให้กับบรรดา นักท่องเที่ยว เข้ามากิน เข้ามาดื่ม เข้ามาเดินทางท่องเที่ยว ในลักษณะที่คงต้องมี ข้อจำกัด ควบคู่เอาไว้ด้วย เช่นเปิดให้มีการทำ วีซ่านักท่องเที่ยว ที่สามารถเข้ามาอยู่ในเมืองไทยได้ไม่น้อยกว่า 90 วัน หรืออยู่ไป-อยู่มาถ้ายังไม่ไอ ไม่จามฟุดๆ ฟิดๆ ไม่เหนื่อยหอบ หรือไม่ติดเชื้อโควิด ก็อาจต่อให้ลากยาวไปถึง 270 วันเอาเลยถึงขั้นนั้น...
--------------------------------------------------
ซึ่งก็คงต้องยอมรับ...ว่าออกจะเป็นมาตรการที่ เก๋ มิใช่น้อย โดยเฉพาะสำหรับประเทศเล็กๆ ที่อยู่ได้ หรือพออยู่รอด ปลอดภัย เพราะรายได้จากบรรดานักท่องเที่ยวมานานแล้วและโดยตลอด แม้ว่าถ้าจะว่ากันใน ทางปฏิบัติ ออกจะเป็นอะไรที่เก้ๆ กังๆ อยู่พอสมควร คือกว่าที่บรรดานักท่องเที่ยวจะต้องถูกกักตัว กักโรค เอาไว้ในประเทศตัวเองไม่น้อยกว่า 14 วัน ถึงอาจมีโอกาสได้รับวีซ่านักท่องเที่ยวจากประเทศไทย เพียงเท่านี้...อารมณ์อยากเที่ยว อยากกิน อยากดื่ม มันน่าจะหายๆ กันไปพอสมควรแล้ว...
---------------------------------------------------
หรือถึงยังกระหายใคร่อยาก ยังพยายามดิ้นรน กระวนกระวาย อยากจะเข้ามาดู ซี-แซนด์-และเซ็กซ์ ในประเทศไทยให้จงได้ แต่ระหว่างที่อยู่ภายในประเทศไทยประมาณ 90 วัน หรือ 270 วันก็แล้วแต่ โอกาสที่อาจต้องไป ติดเชื้อ จากพวกเมียนมา พวกกะเหรี่ยงคอยาว พวกปะหล่ง ปะหล่อง ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ที่ยังคงสามารถอาศัยช่องทางธรรมชาติ เล็ดลอดเข้ามาในเมืองไทยได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ แม้ว่าจะมีตำรวจ-ทหารตรึงชายแดนเอาไว้ทุกช่อง ทุกด้าน เพียงใดก็แล้วแต่ เพราะช่วงระหว่างนี้เชื้อโควิดในเมียนมา ก็ออกจะมาแรง แซงโค้ง ถึงขั้นต้องปิดเมืองย่างกุ้งกันไปแล้วถึงขั้นนั้น...
-------------------------------------------------------
ความพยายามที่จะเทียวไป-เทียวมา หาทาง ท่องเที่ยว กันให้จงได้ จึงเป็นอะไรที่ออกจะเก้ๆ กังๆ อย่างที่ว่า ไม่ได้ถึงกับ เก๋ มากมายซักเท่าไหร่ แม้จะต้องหันมาให้ ไทยเที่ยวไทย อย่างเป็นระบบและกิจการ จนทำให้ วันหยุดยาว ยิ่งยาวว์ว์ว์อีเหลนเป๋นยิ่งเข้าไปทุกที ทำงานแค่วัน-สองวัน ก็หยุดให้ เที่ยว กันอีกซะแร้นน์น์น์ ด้วยเหตุเพราะโอกาสจะพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างประเทศแทบเป็นไปไม่ได้เอาเลยในทุกวันนี้ แต่ก็นั่นแหละด้วยเหตุเพราะ ความกลัว นั่นแหละเป็นต้นเหตุ ไม่ว่าจะ กลัวป่วยตาย หรือ กลัวอดตาย ก็แล้วแต่ แต่ถ้าลอง กลัว ซะอย่างแล้ว ย่อมมีโอกาสนำมาซึ่ง ความเสื่อม ต่างๆ นานาได้เสมอๆ...
----------------------------------------------------
ซึ่งก็เอาเถอะ...จะ กลัว กันไปในลักษณะไหน อย่างไร แต่ถ้ายังไม่ถึงกับ หูแหก-ตาแหก จนเกินไป ก็คงต้องแล้วแต่จะว่ากันไป แต่อันที่จริงแล้ว...ภายใต้การเผชิญหน้ากับสภาวะที่น่าเกลียด น่ากลัว ไม่ว่าจากเชื้อโควิด จากปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือจากปัญหาทางการเมือง อันเต็มไปด้วย ช่องว่าง ระหว่างวัย ระหว่างความรวย-ความจน หรือระหว่างโอกาสใดๆ สิ่งที่สำคัญเอามากๆ ก็น่าจะเป็น ความกล้า นั่นแหละ ต้องกล้าที่จะหั่น ที่จะฟัน กล้าที่จะเป็น สี จิ้นผิง มาเอง ให้มากๆ เข้าไว้ อะไรก็ตามที่มันไม่ชอบมาพากล ต้องกล้าที่จะชักดาบตัดหัว คั่วแห้ง กันไปให้พ้นๆ มันถึงจะพอก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ความร่วมมือ-ร่วมใจ หรือ ความรู้-รัก-สามัคคี อันถือเป็น เครือข่ายป้องกันทางสังคม ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดขึ้นมาได้จริงๆ...
--------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก “Russ Quaglia” และ “Doug Hall” (อีกครั้ง)... “Fear is just excitement in need of an attitude adjustment. - ความกลัว...เป็นเพียงความตื่นเต้นที่ควรปรับแต่งท่าทีเล็กน้อย...”.
---------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |