ก่อนที่จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 25 ก.ย.นั้น วันที่ 23-24 ก.ย.นี้ มีการประชุมนัดหยุดโลกการเมือง โดยสมาชิกรัฐสภา อันประกอบด้วย ส.ส. 487 คน และ ส.ว. 250 คน จะประชุมร่วมกัน

      เรียกว่าประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 6 ญัตติ แต่ญัตติที่ส่อจะโดนโจมตี คือ 4 ญัตติของฝ่ายค้าน

      1.แก้ไขมาตรา 272 และมาตรา 159 เพื่อยกเลิกอำนาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี และเพิ่มเติมในมาตรา 159 ว่า ในการเลือกนายกรัฐมนตรีหากไม่สามารถเลือกจากบัญชีของพรรคการเมือง ก็สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีที่เป็นจาก ส.ส.ได้ และปิดทางการเลือกนายกฯ จากคนนอก

      2.แก้ไขมาตรา 270-271 เกี่ยวกับอำนาจของวุฒิสภาในเรื่องการปฏิรูปประเทศ และอำนาจยับยั้งกฎหมาย

      3.แก้ไขมาตรา 279 ซึ่งเป็นบทเฉพาะกาลที่ทำให้ประกาศคำสั่งและการกระทำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อยู่เหนือกว่าบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน

      4.แก้ไขระบบเลือกตั้งด้วยการยกเลิกมาตรา 83, 85, 88, 90, 92, 94 และ 105 โดยแก้ไขระบบเลือกตั้งให้เป็นไปตามแนวทางของรัฐธรรมนูญปี 2540 ใช้บัตร 2 ใบ เลือกคนและเลือกพรรค เพื่อให้เป็นไปตามเจตนาของประชาชนในการออกเสียงเลือกตั้งอย่างแท้จริง รวมทั้งตัดปัญหาบัตรเกิน บัตรเขย่ง

      โดย “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โหมโรงตีรวน ระบุว่า 4 ญัตติข้างต้นส่อขัดรัฐธรรมนูญ

      ดังนั้นจึงขอให้ “ชวน หลีกภัย” ในฐานะประธานรัฐสภา บรรจุญัตติเพื่อขอมติจากที่ประชุมรัฐสภาส่ง 4 ญัตติดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เนื่องจากมี ส.ส.ลงชื่อซ้ำกันกับญัตติอื่นๆ     

      ทว่า “ไพบูลย์” ออกมาโวยวายที่ประธานรัฐสภาไม่ยอมบรรจุญัตติของตัวเองเข้าสู่วาระการประชุม และจะฟ้องทุกคนที่เกี่ยวข้อง

      ฐานผิดอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

      งานนี้บอกได้เลยว่ามีป่วนตั้งแต่เปิดประชุม เพราะ “ไพบูลย์” ประกาศแต่แรกแล้วว่าจะถามถึงเหตุผลที่ไม่บรรจุ รวมทั้งจะถามประเด็นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ทั้งของพรรคร่วมฝ่ายค้านและพรรครวมรัฐบาลไม่มีการทำประชามติก่อน ทำให้ขัดรัฐธรรมนูญอีกด้วย

      คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับ “ชวน” และ “พรเพชร วิชิตชลชัย” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมแล้วว่าจะรับมือกับเกมตีรวนได้หรือไม่

      และอย่าลืมว่าที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อเตรียมความพร้อมการประชุมครั้งนี้ ตกลงกันว่าถ้าฝ่ายใดลุกขึ้นประท้วงก็จะตัดเวลาของฝ่ายนั้น

        อย่างไรก็ตาม ในฝั่ง ส.ว.ก็ใช่ย่อย ทราบว่าเตรียมแผนเตะถ่วงไว้เช่นกัน

      ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอรัฐบาลกดปุ่มว่าจะเอาอย่างไร คว่ำทุกญัตติหรือรับเฉพาะญัตติของฝ่ายรัฐบาล

      นอกจากนี้ นอกรั้วรัฐสภาก็มีถึง 2 ม็อบออกมาเรียกร้อง!!!

      โดยวันที่ 23 ก.ย. กลุ่มไทยภักดีนำรายชื่อ 130,000 รายชื่อ มอบต่อประธานสภาฯ เพื่อเป็นการแสดงพลังคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

      ส่วนวันที่ 24 ก.ย. กลุ่มนิสิต นักศึกษา ประชาชน นำโดย “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ นัดหมายชุมนุมหน้ารัฐสภา เกาะติดการอภิปรายและผลการลงมติของท่านผู้ทรงเกียรติ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป

      ข้อเรียกร้องหลักๆ คือ ต้องโหวตรับหลักการแก้ไข ม.256 เพื่อตั้งสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และ ส.ส.ร.ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงเท่านั้น 

        ดังนั้น ส.ส. ส.ว. คิดอ่านอย่างไร ขอความกรุณาอย่าทำให้บ้านเมืองเดินไปถึงทางตัน เกิดเหตุวุ่นวายร้ายแรง

        หรือตอกย้ำเศรษฐกิจของประเทศ.