'ราชบัลลังก์ควรเป็นของเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ หรือราชสกุลมหิดล'


เพิ่มเพื่อน    

วันนี้ขออธิบายสถานะของเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ เพราะมีไอ้โม้งขาเม้าส์ชอบปล่อยข่าวลือทำนองว่า ราชบัลลังก์ควรเป็นของเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ ไม่ใช่ราชสกุลมหิดล

เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ เป็นพระราชโอรสของในหลวงรัชกาลที่ 5 แต่พระมารดาเป็นพระมเหสีชั้นลูกหลวงตำแหน่ง พระนางเจ้า พระราชเทวี หรือพูดแบบชาวบ้านได้ว่า ไม่ได้ทรงเป็นพระมเหสีเอก

เมื่อในรัชกาลที่ 6 ครองราชย์ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์คือผู้มีอาวุโสสูงสุดในจำนวนพี่น้อง โดยมีพระชนมพรรษาน้อยกว่า 1 ปี แถมดำรงตำแหน่งหน้าที่การงานสำคัญ และทรงมีปรีชาสามารถมากเป็นที่ประจักษ์

เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 6 สวรรคต ทรงเขียนพินัยกรรมเอาไว้ว่าถ้าได้ลูกสาว ให้เจ้าฟ้าประชาธิปกฯ น้องชายร่วมพระมารดาเป็นพระเจ้าอยู่หัว

แต่เจ้าฟ้าประชาธิปกฯ ทรงมีพระชนมพรรษาน้อยกว่ามาก รวมทั้งทรงมีความรู้และมีประสบการณ์ในการทำราชการน้อยกว่าเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ ทำให้เจ้าฟ้าประชาธิปกฯ ออกปากยกพระราชบัลลังก์ถวายให้เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ ที่พระบรมวงศานุวงศ์และขุนนางทุกคนรู้ว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถมาก

แต่เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ ทรงลงก้มกราบ เจ้าฟ้าประชาธิปกฯ ซึ่งเป็นน้องชาย และกล่าวปฏิเสธ และขอให้เป็นไปตามพินัยกรรม

............................................................................
สถานะของเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ เปรียบเทียบได้คล้ายๆ กรณีของกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ที่พระมารดาไม่ได้เป็นพระมเหสีเอก แต่มีพระปรีชาสามารถมาก และรับราชการในตำแหน่งสำคัญ

แต่ที่ต่างกันคือ เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 2 สวรรคต ทรงไม่ได้เขียนพินัยกรรมว่าให้ผู้ใดครองราชย์ต่อ พระบรมวงศานุวงศ์และขุนนางจึงพร้อมใจกันทูลเชิญกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ขึ้นเป็นในหลวงรัชกาลที่ 3

ในขณะที่เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 6 สวรรคต ทรงเขียนพินัยกรรมไว้ชัดเจนว่าให้เจ้าฟ้าประชาธิปกฯ ครองราชย์ต่อ

และถึงแม้เจ้าฟ้าประชาธิปกฯ จะถวายพระราชบัลลังก์ให้เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ เพราะเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ ทรงรอบรู้และมีประสบการณ์ในงานราชการมาก

แต่เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ ทรงปฏิเสธ เพราะต้องการให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของในหลวงรัชกาลที่ 6

............................................................................
หลังจากในหลวงรัชกาลที่ 7 สละราชสมบัติ ใครคือรัชทายาท?

หลังจากในหลวงรัชกาลที่ 7 สละราชสมบัติ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล คือลำดับที่ 1 ของลำดับโปเจียม พระองค์เจ้าภูมิพลคือลำดับที่ 2 เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ คือลำดับที่ 3

ทำไมเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ ไม่ใช่ลำดับที่ 1?

เพราะผู้ที่เป็นลำดับที่ 1 พระองค์จริงคือ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช ซึ่งมีพระมารดาเป็นพระมเหสีเอก ที่ความจริง ถ้าในหลวงรัชกาลที่ 6 ไม่เขียนพินัยกรรมเอาไว้ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดชก็มีสิทธิ์มีพระราชบัลลังก์ต่อจากในหลวงรัชกาลที่ 6 ในลำดับแรก

เมื่อเจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดชสวรรคต พระโอรสของพระองค์ คือพระองค์เจ้าอานันทมหิดลจึงได้สิทธิ์ในราชบัลลังก์

............................................................................
แล้วเมื่อเจ้าฟ้าประชาธิปกฯ ขึ้นครองราชย์เป็นในหลวงรัชกาลที่ 7 เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ เป็นทรงทำราชการในตำแหน่งที่สูงที่สุด โดยเป็นรองเพียงพระเจ้าอยู่หัว

แล้วเมื่อคณะราษฏร์ปฏิวัติ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ฯ โดนจับเป็นตัวประกันคนสำคัญ สุดท้ายต้องลี้ภัยการเมืองไปอินโดนีเซีย และคณะราษฏร์ยึดบ้านของท่าน เอาไปทำเป็นที่ทำการธนาคารแห่งประเทศไทย

ซึ่งถือได้ว่า คณะราษฏร์ยึดทรัพย์สมาชิกพระราชวงศ์จักรีมาเป็นของรัฐบาล

............................................................................
เฉกเช่นเดียวกับที่ยึดทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เอาไปตั้งเป็น “สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” โดยตั้งชื่อนี้ให้ประชาชนเกิดความสับสนว่า เป็นทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ ที่ไม่ยอมเสียภาษี

ทั้งๆ สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ของพระมหากษัตริย์ แต่ถูดยึดไปเป็นของรัฐบาล และรัฐบาลไม่เก็บภาษีสำนักทรัพย์สินของรัฐบาลเอง

............................................................................
พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ในราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ ล้วนซื่อสัตย์สุจริต รักเกียรติยศ ยึดมั่นคุณธรรม ไม่เห็นแก่อำนาจ และผลประโยชน์ส่วนตนเหมือนกับนักการเมืองในยุคประชาธิปไตย

เราจึงมีประวัติศาสตร์หน้าสำคัญที่เจ้าฟ้าชายองค์น้อง ผู้ที่เป็นองค์รัชทายาทโดยชอบธรรม ย่อมหลีกทางให้เจ้าฟ้าชายองค์พี่ ที่มีประสบการณ์สูงกว่า แต่เจ้าฟ้าชายองค์พี่ก็ไม่รับ เพื่อรักษาให้เป็นไปตามครรลองแห่งจารีตประเพณี

ถ้าเป็นนักการเมืองในยุคประชาธิปไตย มีแต่แก่งแย่งอำนาจ แม้ตนไม่มีสิทธิ์ก็ยังพยายามทวงสิทธิ์

............................................................................
หยุดดึงพระมหากษัตริย์ลงมาเล่นการเมือง
ถ้าอยากดึงพระมหากษัตริย์ลงมาเล่นการเมืองจริง ก็ถวายคืนพระราชอำนาจไปเสียเลย

............................................................................
อัษฎางค์ ยมนาค
รวบรวม เรียบเรียง

https://www.facebook.com/AtsadangYommanak

 

“ราชบัลลังก์ควรเป็นของเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ หรือราชสกุลมหิดล” วันนี้ขออธิบายสถานะของเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์...

โพสต์โดย อัษฎางค์ ยมนาค เมื่อ วันอังคารที่ 22 กันยายน 2020


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"