25 เม.ย. 61 - เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ศาลจังหวัดพล อ.พล จ.ขอนแก่น นายปกาญจน์  นพศรี ทนายความฝ่ายโจทก์ เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดพลได้เสร็จสิ้นกระบวนการการนัดสอบพยานฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในคดีที่สื่อมวลชน จ.ขอนแก่น 5 คน ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ นพ.เปรมศักดิ์  เพียยุระ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จำเลยที่ 1 และ ร.ต.บัวทอง  โลขันธ์ อดีตเลขานุการนายกรัศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จำเลยที่ 2  ในข้อกล่าวหากระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัน จากกรณีการจับผู้สื่อข่าวแก้ผ้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2559 ภายในห้องปฎิบัตีราชการนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

โดยองค์คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดพล ได้มีการนัดสอบคำให้การพยานฝ่ายจำเลย แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งทีมทนายความฝ่ายจำเลยได้เบิกตัวผู้ต้องหา คือจำเยที่ 1 และ จำเลยที่ 2 รวมทั้งพยานอีก 2 คน ประกอบด้วย นายอลงกต  จินารักษ์ อายุ 23 ปี ขณะเกิดเหตุเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่  และ น.ส.อัมพะวัน  สันเพาะ อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองบ้านไผ่ ขึ้นให้การต่อศาล

“ขั้นตอนการพิจารณาคดีในคดีความดังกล่าวที่มีสื่อมวลชนทั้ง 5 คน เป็นโจทก์นั้น ศาลจังหวัดพลได้สอบคำให้การพยานฝ่ายโจทก์ และ พยานฝ่ายจำเลยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในขั้นตอนของกระบวนการพิจารณาทนายทั้ง 2 ฝ่าย พนักงานอัยการได้ซักค้านและดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายมีการนำพยานและหลักฐานต่างๆมาต่อสู้กันในชั้นศาล ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นทนายความฝ่ายโจทก์ หรือฝ่ายสื่อมวลชน ยอมรับว่าคำให้การของฝ่ายโจทก์ และพยานฝ่ายโจทก์ มีน้ำหนักมากกว่า และคำให้การก็เป็นไปในทางเดียวกัน ทุกคนได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว โดยองค์คณะผู้พิพากษาได้นัดทั้ง 2 ฝ่าย มารับฟังคำตัดสินในวันที่ 21 มิ.ย.2561 เวลา 09.00 น. ที่ ศาล จ.พล” นายปกาญจน์ ระบุ

ทั้งนี้ ผลการพิจารณาคดีจะออกมาในรูปแบบนั้นทุกฝ่ายพร้อมที่จะน้อมรับและปฎิบัติตาม ที่ผ่านมาสื่อมวลชน ทนายความและพนักงานอัยการได้ดำเนินการกันอย่างเต็มที่และต่อสู้ไปตามขั้นตอนและกรอบของกฎหมาย ซึ่งขณะนี้คงเหลือเพียงคำตัดสินของศาลเท่านั้น และมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดกับผู้กระทำผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2559 โดยผู้สื่อข่าวจาก 5 สำนักข่าวในจังหวัดขอนแก่น ได้ติดตามทำข่าว กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพทางโซเชียลมีเดีย เป็นภาพ นพ.เปรมศักดิ์ นั่งคู่กับหญิงสาวชั้น ม.5 โดยที่ด้านหน้ามีพานใส่ธนบัตรจำนวนหนึ่ง และมีสำเนาทะเบียนรถยนต์เล่มสีน้ำเงินวางอยู่ 1 เล่ม พร้อมพระพุทธรูปโดยมีคนเฒ่าคนแก่กำลังผูกแขน คล้ายมีพิธีหมั้นหรือพิธีมงคลสมรสของภาคอีสาน โดยผู้สื่อข่าวทั้งหมดได้ขอพบและสัมภาษณ์หมอเปรม ภายในที่ทำการสำนักงานเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับหมอเปรมเป็นอย่างมาก

หมอเปรมจึงได้วางแผนหลอกให้ผู้สื่อข่าวทั้ง 5 สำนักเข้าไปภายในห้องทำงานของนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ประกอบด้วย นายก่อสิทธิ์  กองโฉม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์,นายปราโมทย์  ศรีบุระ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 , น.ส.จิตติมา  จันพรม  ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์คมชัดลึกและเนชั่น ทีวี,นายสุพล  บุญชื่นชม ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชนและข่าวสด และ นายปรัญชา  เทพสกุล ช่างภาพสถานีโทรทัศน์เคเคซีเคเบิ้ล ทีวี โดย เมื่อผู้สื่อข่าวทั้งหมดเข้าไปภายในห้อง กลับถูก นพ.เปรมสั่งเจ้าหน้าที่เทศบาลซึ่งเป็นลูกน้อง เก็บโทรศัพท์ มือถือ กล้องถ่ายภาพของ ผู้สื่อข่าวทั้งหมด พร้อมกับล็อกตัวผู้สื่อข่าว นายก่อสิทธิ์ แก้ผ้าประจานทันที

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับ นพ.เปรมศักดิ์ พร้อมพวกรวม 7 คน ที่ สภ.บ้านไผ่ ในข้อหา “ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ทำการกักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับข่มขืนจิตใจ ให้กระทำการใด หรือไม่กระทำการ และกระทำการอนาจารต่อหน้าธารกำนัล“ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ได้สรุปสำนวนส่งให้กับอัยการจังหวัดพลไปตั้งแต่กลางเดือน พ.ย. 2559   จากนั้นเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 60 อัยการจังหวัดพลได้มีความเห็นสั่งฟ้อง นพ.เปรมศักดิ์ กับ ร.ต.บัวทอง โลขันธ์  รวม 2 คน โดยมีนายก่อสิทธิ์ กองโฉม ผู้สื่อเดลินิวส์ ที่โดนถอดกางเกงเป็นผู้เสียหาย ในคดีกระทำการอนาจารต่อหน้าธารกำนัล  โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 – 18 เม.ย.ที่ผ่านมาศาลจังหวัดพลได้ทำการสอบปากคำนายก่อสิทธิ์   ผู้เสียหาย และผู้สื่อข่าวจาก 4 สำนักซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุในฐานะพยานเสร็จเรียบร้อยแล้ว.