25 เม.ย. 61 - ที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น ชั้น 3 ศาลากลาง จ.ขอนแก่น นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมือง จ.ขอนแก่น นำคณะกรรมการและสมาชิกองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมือง จ.ขอนแก่น เข้ายื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น เพื่อส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ในการปกป้องข้าราชการผู้ปฎิบัติหน้าที่โดยสุจริตและกระทำตามกฎหมายบ้านเมือง โดยมีนายรัฐวิชญ์ พาฉิมพลี รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น รับหนังสือแทน โดยทำการลงรับหนังสือตามระบบราชการและประสานงานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและหน่วยงานที่รับผิดชอบตามลำดับขั้นตอน
นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นภาคพลเมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การสืบสวนสอบสวนในความผิดคดีทุจริตเงินทอนวัดที่ในขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการตามกรอบของกฎหมายและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามการมทุจริตคอร์รัปชัน แต่กลับมีกลุ่มบุคคลที่มีผลประโยชน์และมีเจตนาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและศีลธรรมอันดีของพลเมือง มาทำการคุกคามและเรียกร้องให้มีการย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร พรามณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้งยังคงมีการคุกคามการทำงานของข้าราชการที่ปฎิบัติหน้าที่ตามกำหมาย และทำตามระเบียบของทางราชการอันถูกต้องชอบธรรม ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นและเป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วทั้งประเทศในคดีการทุจริตเงินทอนวัด ทำให้ภาคพลเมือง จึงจำเป็นต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้อง จึงรวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ในการปกป้องข้าราชการที่ปฎิบัติหน้าที่โดยสุจริต ยึดกฎหมายและระเบียบทางราชการอย่างถูกต้องชอบธรรม และไม่ควรให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายและหลักธรรมาภิบาล
“ข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อที่ได้มีการส่งหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น นั้น สำคัญที่สุดคือการให้กำลังใจ พ.ต.ท.พงศ์พร พรามณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และให้ นายกรัฐมนตรีปกป้อง ให้กำลังใจคณะทำงานทุกคนที่ยืนหยัดต่อสู้และทำตามระเบียบขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งขณะนี้การดำเนินคดีทางอาญานั้นก็มีความคืบหน้าอย่างมากและมีการเปิดเผยราชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะพระชั้นผู้ใหญ่มาแล้ว ซึ่งในเรื่องของการดำเนินคดีตามกฎหมายนั้นภาคพลเมืองคงไม่อาจก้าวล่วงอำนาจหน้าที่ใดๆได้ แต่การพร้อมใจยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้สำคัญที่สุดคือการดำเนินคดีกับพระเถระทุกรูปที่กระทำผิดกฎมายโดยไม่ละเว้นไม่ว่าชั้นยศใด โดยไม่ต้องเกรงกลัวต่ออิทธิพลใดๆทั้งสิ้น รวมทั้งดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่ละเมิดกฎหมายในเรื่องดังกล่าวทุกคน เพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอีกด้วย”
นายตุลย์ กล่าวต่อว่า ภาคพลเมืองชาวขอนแก่นทุกคนให้กำลัง พ.ต.ท.พงศ์พร พรามณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่กระทำการอย่างถูกต้อง ทำจริง ทำตามระเบียบและขั้นตอนของกฎหมายและต้องการให้อยู่ปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้ต่อไป เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ โดยในเรื่องของคดีความนั้นเป็นการทำงานที่ชัดเจนร่วมกันทุกฝ่าย ที่วันนี้มีความคืบหน้าไปมาก และยังคงไม่ถึงการที่นายกรัฐมนตรีจะใช้ ม.44 มาจัดการในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มคนที่มารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ปลด พ.ต.ท.พงศ์พร ออกจากตำแหน่งนั้นพบว่าเป็นกลุ่มจัดตั้งที่ภาคพลเมืองไม่อยากจะบอกว่ามีมาเฟียพระหนุนหลัง รวมไปถึงผู้ที่เสียผลประโยชน์จากการาตรวจสอบดังกล่าว ดังนั้นวันนี้คือการทำงานภายใต้กรอบของกฎหมายและทำตามระเบียบให้ถูกต้องจนนำไปสู่การเอาคนผิดที่เกี่ยวกับการทุจริตเงินทอนวันมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ทั้งหมด และครบทุกคน ทั้งพระและฆราวาส.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |