นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ยุคใหม่สมัยนี้ต้องการคนที่ทำงานอย่างทุ่มเทหนักมากเพราะเราอยู่ภายใต้ 3 สถานการณ์วิกฤตระดับโลกนั่นคือค่าการค่าเงินบาทแข็งค่า สงครามการค้าและโรคระบาดโควิด-19 ดังนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับทั้ง 3 สถานการณ์ และขณะนี้ก็ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนและภาคเกษตรเป็นอย่างดี ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต้องปรับตัวเพื่อรองรับการทำงานที่หนักมากกว่าเดิมหลายเท่าและเมื่อวันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2563 ณ โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา นายจุรินทร์ ได้ไปมอบนโยบายให้กรมการค้าภายในหน่วยงานหลักอีกหน่วยของกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องขับเคลื่อนนโยบายเกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต"
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายจุรินทร์ ต้องการให้ไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารที่สาคัญของโลก โดยในปี 2562 ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารอันดับที่ 11 ของโลกมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่ง ในตลาดโลกร้อยละ 2.51 และคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 16.5 ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทยและใน 5 เดือน แรกของปี 2563 มีสัดส่วนถึงร้อยละ 17.4 ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย โดยได้ตั้งเป้าหมาย 1 สร้าง 3 เพิ่ม คือ สร้างประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพของโลก เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่ม GDP ประเทศ และเพิ่มรายได้เกษตรกรและผู้ประกอบการทุกระดับ และมีพันธกิจร่วม 4 ด้านคือสร้าง Single Big Data สนับสนุนข้อมูลราคา ความต้องการสินค้า แนวโน้มด้านการตลาด ต่อยอดจากศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (National Agricultural Big Data Center : NABC) ใน 5 รายการสินค้า หลัก (ข้าว ยางพารา ปาล์มน้ามัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง) และจะขยายเพิ่มอีก 8 สินค้า สร้างแพลตฟอร์มกลางส่งเสริมการซื้อขายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ในรูปแบบออนไลน์ สร้างความเชื่อมั่นด้วยคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัยและการตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อผลักดันให้สินค้าเกษตรได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน เช่น GAP HACCP มาตรฐานสินค้าอินทรีย์ และพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการของตลาด รวมทั้งอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ
นายจุรินทร์ให้เดินหน้าแบบ "พาณิชย์ทันสมัย" เน้นการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยี ขยายตลาดในประเทศเชิงรุก สร้างทีมเซลล์แมนจังหวัด ซึ่งประกอบด้วยพาณิชย์จังหวัดและผู้ประกอบการในจังหวัด เพิ่มช่องทางการตลาดให้หลากหลาย เพิ่มโอกาสทางการตลาดด้านออนไลน์ ส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มรายสินค้า อีคอมเมิร์ซ รวมทั้งการสร้างองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการและผู้ส่งออก และส่งเสริมการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทุกรูปแบบ อาทิ การทำ online business matching การจัด online instore promotion การจัดงานแสดงสินค้าออนไลน์เสมือนจริง(Virtual trade show) ด้านช่องทางออฟไลน์ จะส่งเสริมการขยายตลาดผ่านโมเดิร์นเทรด โมบายมาร์เก็ต ตลาดกลาง ตลาดต้องชม ร้านค้าธงฟ้า สมาร์ทโชห่วย ฯลฯ นอกจากนี้ จะส่งเสริมการทำเกษตรพันธสัญญา ที่ขณะนี้มีพระราชบัญญัติกำหนดไว้แล้ว เพื่อหาผู้รับซื้อสินค้าเกษตรจากเกษตรกรโดยตรง และสร้างความชัดเจนเรื่องปริมาณและราคา ต่อยอดจาก “อมก๋อยโมเดล" ซึ่งนายจุรินทร์นำเอากติกานี้ไปจัดการด้านเกษตรพันธสัญญาเพื่อเกษตรกรบนพื้นที่ไกลให้เป็นตัวอย่างของทุกจังหวัดและเกิดการซื้อขายจริงตามสัญญาการซื้อขาย ส่วนกระทรวงมีหน้าที่ติดตามการส่งมอบให้เกิดความเป็นธรรมและจะส่งเสริมการทำเคาน์เตอร์เทรด เพื่อให้เกิดการสร้างเวทีจับคู่แลกเปลี่ยนสินค้า โดยเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้จัดงาน “เซลส์แมนจังหวัด จัดซื้อขายแลกเปลี่ยน Counter Trade” สามารถสร้างยอดซื้อขายแลกเปลี่ยนได้รวม 3,244 ล้านบาท โดยภารกิจนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายทีมเซลล์แมนจังหวัด นำโดยพาณิชย์จังหวัด ให้ทำงานล่วงหน้าจนทำให้ได้มูลค่าการซื้อขายแลกเปลี่ยน 778 ล้านบาท และมาต่อยอดกับมูลค่าการจับคู่ธุรกิจในงานอีก 2,466 ล้านบาท เราจะเดินหน้าเรื่องนี้แต่ทีมพาณิชย์จังหวัดต้องทำงานเหนื่อยหน่อย
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ขึ้นมาแล้วโดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามร่วม เป็นสองรัฐมนตรีจากสองกระทรวง ที่แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต โดยมีปลัดจากทั้งสองกระทรวงเป็นผู้แต่งตั้งอนุกรรมการ 4 คณะมาเพื่อขับเคลื่อนงานจากคณะกรรมการร่วมข้างต้น โดยทั้งคณะอนุกรรมการทั้ง 4 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างและใช้ข้อมูลจากฐานเดียวกัน (Single Big Data) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างแพลตฟอร์มกลาง “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัยและการ ตรวจสอบย้อนกลับ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด
นายจุรินทร์ มอบภารกิจหลักของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องขับเคลื่อนต่อเนื่องเพื่อดูแลเกษตรกรผู้ประกอบการผู้บริโภค ทั้งดูแลราคาสินค้าเกษตรในโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร เพิ่มช่องทางตลาดสินค้าเกษตร ส่งเสริมและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตร การพัฒนากลไกตลาด พัฒนาตลาดเดิมให้เข้มแข็ง ขยายตลาดใหม่ เชื่อมโยงการซื้อขายสินค้า เพิ่มศักยภาพ ผู้ขาย ผู้ประกอบการตลาด และเกษตรกร ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก โดยสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น ร้านค้าชุมชน ร้านค้าปลีกรายย่อย ให้ดูแลราคาสินค้าและบริการ โดยดูแลต้นทุนสินค้าให้เหมาะสม ดูแลสถานการณ์ราคาให้สอดคล้องกับต้นทุน ตรวจสอบภาวะการค้าและรับเรื่องร้องเรียน กำกับดูแลการชั่งตวงวัดเพื่อความเป็นธรรมแก่ประชาชนช่วยลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน ด้วยการจัดกิจกรรมลดค่าครองชีพอย่างสม่ำเสมอ ตามนโยบายพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ซึ่งในช่วงปี 2562 และครึ่งปีแรกของ 2563 เป็นนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ประชาชนพอใจเป็นอันดับต้นๆ เรื่องนี้อยู่ในดีเอ็นเอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ชื่อ"จุรินทร์" ที่จะต้องเดินหน้าต่อไป
ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นางมัลลิกา บอกว่า โชคดีที่รัฐบาลชุดนี้มี "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เพราะเป็นคนมีวิสัยทัศน์สามารถทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนได้เป็นอย่างดี มีความนอบน้อมและบูรณาการ มีประสบการณ์เป็นรัฐมนตรีมาหลายยุคสมัย จึงเข้าใจกลไกทุกอย่างของรัฐ การเดินหน้าประเทศด้วยภารกิจแต่ละเรื่องจึงกระชับฉับไว "ทำได้ไว ทำได้จริง" ทำให้คณะทำงานทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นข้าราชการการเมืองหรือข้าราชการประจำและทัพหน้าอย่างภาคเอกชนต้องปรับตัวและตามให้ทัน ทุกอย่างต้องทันต่อความเดือดร้อนของประชาชน ตรงตามเป้าหมายของนโยบายรัฐบาลและโปร่งใสตามแนวทางของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |