21 ก.ย. 2563 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 22 ก.ย. นี้ สศค. จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ประกอบด้วย โครงการคนละครึ่ง แจกเงิน 3,000 บาท ให้ประชาชนทั่วไป 10 ล้านคน และโครงการเพิ่มวงเงินซื้อของกินของใช้ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ จำนวน 14 ล้านคน จาก 200-300 บาท เป็นคนละ 700-800 บาท หรือเพิ่มให้ 500 บาทต่อคน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2563 หรือคนละ 1,500 บาทต่อคน
ทั้งนี้มาตรการที่จะเสนอ ครม. พิจารณานั้น จะใช้วงเงินดำเนินการ 5.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภคของประเทศในไตรมาสสุดท้ายของปีให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และเป็นการช่วยเหลือคนให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นถึง 24 ล้านคน
โดยรัฐบาลจะเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com ในวันที่ 1 ต.ค. 2563 ซึ่งจะต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย เน้นร้านของกินหรือซื้อของใช้นิดหน่อยตามโชห่วยหรือร้านธงฟ้า ส่วนร้านค้าขนาดใหญ่ที่เป็นนิติบุคคล ร้านสะดวกซื้อ รัฐไม่เปิดให้เข้าร่วมโครงกา และในวันที่ 16 ต.ค. 2563 เวลา 06.00-23.00 น. จะเปิดให้ประชาชน ที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จองสิทธิผ่าน WWW.คนละครึ่ง.com โดยระบบจะเปิดรับต่อเนื่อง 10 ล้านคน หากวันแรกไม่เต็มก็จะเปิดรับวันต่อ ๆ ไปจนเต็มตามจำนวน
ทั้งนี้ หลังลงทะเบียนแล้วภายใน 2 วัน ผู้ลงทะเบียนจะได้รับข้อความ SMS แจ้งว่าผ่านการพิจารณาหรือไม่ ผู้ที่ผ่านก็ให้โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งรัฐบาลจะโอนวงเงิน 3,000 บาท ให้กับผู้ได้สิทธิ เพื่อนำไปซื้อของกินของใช้จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งร้านค้าจะมีแอปพลิเคชันถุงเงิน โดยผู้ได้สิทธิก็ต้องโอนเงินส่วนที่จะซื้อของเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตังของตัวเองด้วย เพราะมาตรการนี้เป็นการร่วมจ่ายกันคนละครึ่ง
สำหรับผู้ได้สิทธิเริ่มใช้จ่ายในโครงการได้ในวันที่ 23 ต.ค. 2563 ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 โดยรัฐบาลกำหนดช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าวันละไม่เกิน 100 บาท หรือ ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งการไปซื้อสินค้าจะต้องจ่ายเงินผ่าน แอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น โดยนำแอปพลิเคชันเป๋าตังไปสแกนกับแอปพลิเคชันถุงเงินของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
"ระบบการลงทะเบียนและการใช้เงิน จะทำได้เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน เพราะระบบต้องหยุดเพื่อประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะการจ่ายเงินให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการต่อไป โดยโครงนี้ผู้ได้สิทธิต้องจ่ายเงินชำระสินค้าผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังซึ่งผู้ได้สิทธิก็ต้องเตรียมเงินไว้ให้เพียงพอกับซื้อสินค้าด้วย ไม่สามาระชำระเป็นเงินสด เพื่อป้องกันการทุจริต" นายลวรณ กล่าว
นายลวรณ กล่าวว่า ผู้ที่ได้สิทธิแล้ว จะต้องเริ่มใช้เงินภายใน 14 วัน หลังจากได้รับ SMS หากไม่ใช้เงินระบบจะตัดชื่อออก เพื่อให้คนอื่นเข้ามาจองสิทธิ์ใหม่ โดยผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ก็ยังสามารถมาลงทะเบียนใหม่ โดยโครงการนี้ต้องการให้เกิดการใช้จ่ายจริงๆ ไม่ต้องการให้มีการของกักสิทธิของผู้อื่นที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ
สำหรับการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการโดยให้วงเงินซื้อสินค้าเพิ่มอีกเดือนละ 500 บาท จากที่ได้รับเดือนละ 200 กับ 300 บาท ก็จะได้รับเดือนละ 700 บาท กับ 800 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2563 หรือเท่ากับได้เงินเพิ่มอีก 1,500 บาท เนื่องจากรัฐบาลเห็นว่าคนกลุ่มนี้เข้าถึงเทคโนโลยีลำบาก ทำให้ไม่สะดวกที่จะไปจองสิทธิรับเงิน 3,000 บาท จึงให้ความช่วยแยกออก เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มมากขึ้น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |