'แก้วสรร'ออกบทความ'แด่...ม็อบมุ้งมิ้ง'!


เพิ่มเพื่อน    

21 ก.ย. 63 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "แด่...ม็อบมุ้งมิ้ง" ผ่าน www.thaipost.net โดยมีเนื้อหาดังนี้                                                                      

ถาม เห็นการชุมนุม ๑๙ กันยา  ยุติลงโดยสงบอย่างนี้แล้ว คิดอย่างไรที่อาจารย์ไปคัดค้านเขา

ตอบ ดีใจครับ..ทั้งในฐานะประชาชนที่ไม่เกิดจลาจลวุ่นวาย  และในฐานะศิษย์เก่าธรรมศาสตร์จำนวนหนึ่ง ก็พอใจที่เห็นธรรมศาสตร์ไม่ถูกใช้ในงานนี้  งานนี้มีข้อสรุปหลายอย่างที่นักศึกษาควรจะได้เรียนรู้

ถาม มีอะไรบ้าง

ตอบ การชุมนุมในสังคมประชาธิปไตยจะต้องโปร่งใส   นักศึกษาต้องรวมตัวจริงๆ ไม่ใช่มีแค่ไม่กี่คนอย่างนี้   จัดในนามองค์การนักศึกษาได้ยิ่งดี  ทางความคิดต้องคิดจริงๆ ว่าเป้าหมายและเหตุผลคืออะไร จะปฏิรูปสถาบันกษัตริย์หรือจะแก้รัฐธรรมนูญล้มระบอบประยุทธ์ก็บอกมา พร้อมเหตุผลและทฤษฎีที่อธิบายได้เป็นเรื่องเป็นราว   คนเขาจะได้คิดแย้งคิดคล้อยได้ ข้อสุดท้ายคือความโปร่งใส ข้อนี้สำคัญที่สุด

ถาม เขาไม่โปร่งใสอย่างไร

ตอบ ข้อแรกต่อไปถ้าอยากใช้สนามหลวง ก็ต้องไปขอเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายชุมนุมสาธารณะให้ชัดเจน ไม่ใช่มาเลี่ยงกฎหมายอ้างว่าชุมนุมในธรรมศาสตร์ แล้วคนล้นออกสนามหลวงไปเองอย่างนี้  เห็นชัดเลยว่าพังประตูเอาหางแหย่เข้าไปในธรรมศาสตร์ ไม่กี่นาทีและไม่กี่คน แล้วก็รีบมายึดสนามหลวง ประกาศเป็นสนามราษฎร์แล้วฝังหมุดในวันรุ่งขึ้นเลย

ถาม เขาเลี่ยงกฎหมายอย่างไร

ตอบ ในกฎหมายชุมนุมสาธารณะเขายกเว้นไว้ว่าไม่ใช้บังคับกับการชุมนุมในสถาบันการศึกษา  เมื่อพวกเขาไม่ต้องการชุมนุมโดยโปร่งใสตามที่กฎหมายนั้นได้กำหนดไว้ เขาไม่ต้องการเปิดตัวผู้รับผิดชอบทั้งหมด ช่วงเวลาและแผนการเคลื่อนไหว วัตถุประสงค์และกิจกรรมที่จะทำ ไม่ต้องการวางแผนรักษาความปลอดภัยร่วมกับตำรวจ เขาก็เลี่ยงมาใช้ธรรมศาสตร์ กฎเกณฑ์ตามกฎหมายทั้งหมดนี้ ถ้าเขายอมทำตาม ขออนุญาตให้ชัดเจนโปร่งใส  สังคมก็ไม่แตกตื่นวุ่นวาย  พวกแดงรุนแรงก็ไม่ต้องมาร่วมแล้วผิดหวังว่าทำไมมุ้งมิ้งอย่างนี้วะ คนที่เห็นด้วยเขาก็มาร่วมฟังร่วมแสดงออกด้วย  จบลงด้วยดีด้วยการยื่นข้อเสนอต่อผู้เกี่ยวข้อง  สงบทั้งบ้านเมืองและการชุมนุม

ถาม กฎหมายชุมนุมสาธารณะต้องการเห็นอย่างนี้

ตอบ ถูกต้องครับ   ต้องการการชุมนุมเพื่อแสดงออกซึ่งความเห็นที่แท้จริง  สงบ และโปร่งใส ไม่มีใครต้องแตกตื่น    จัดอภิปรายใหญ่คนมาเป็นสามหมื่นจบอภิปรายแล้วก็เลิก    สภาก็รับกระแสจากที่ชุมนุมไปเข้าระบบ  ไม่ต้องมาคุยว่าเบิ้มๆ หรือมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ หรือเผด็จการจะได้แผลลึก อย่างในครั้งนี้ ทำได้อย่างนี้ความสับสนก็ไม่เกิด ทั้งในสังคมและในการชุมนุมเองก็ตาม ตำรวจทหารก็ไม่ต้องเหนื่อย  ธรรมศาสตร์หรือทำเนียบก็ไม่ต้องปิด   Human Right ก็ไม่ต้องโผล่มาเสือก

ถาม ในที่ชุมนุมเอง สับสนอย่างไร

ตอบ งานนี้ผู้จัดชุมนุมต้องการแสดงทางสัญลักษณ์ยกนิ้วให้สถาบันกษัตริย์  แต่คนที่เห็นด้วยหรือมาร่วมชุมนุมกลับต้องการขับไล่รัฐบาล    ต่างกันอย่างนี้ก็ยุ่งแล้วครับ  เห็นชัดว่าในที่ชุมนุม ๑๙ กันยานั้น มวลชน กับเวที  มีช่องว่างมากมายไม่สนใจกันเลย  ไม่มีการสื่อสารทางความคิดสมกับเป็นการชุมนุมเลย  เป็นแค่ให้เสื้อแดงไปดูอีเวนต์นักศึกษาเท่านั้น

ถาม นักศึกษาควรปรับตัวอย่างไร

ตอบ ควรจัดอภิปรายในมหาวิทยาลัย  ให้เป็นเรื่องเป็นราวในทางวิชาการว่า สถาบันกษัตริย์กับระบอบประชาธิปไตย  มีปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างไร อะไรคือจุดอ่อนจุดแข็ง   มันมีทฤษฎีในโลกวิชาการให้คิดอ่านได้เพียงพอทีเดียว

ถาม ตัวอาจารย์ขึ้นเวทีนี้ได้ไหม

ตอบ ผมเห็นด้วยกับคำอธิบายของ  Walter Bagehot  นักกฎหมายรัฐธรรมนูญเรืองนามยุคคลาสสิกของอังกฤษ  ที่ยืนยันถึงคุณูปการของสถาบันกษัตริย์ ในรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยไว้อย่างชัดเจนจากประสบการณ์จริงของสังคมของเขา   เป็นวิธีคิดวิธีมองที่เอามาอธิบายในบริบทของไทยได้ ถ้าเขาจัดเป็นอภิปรายทางวิชาการจริงๆ  ไม่โห่มีฮาไม่มีจัดตั้ง เป็นเวทีแลกเปลี่ยนทางความคิดได้จริงๆ  ผมยินดีร่วมด้วย คุณปิยะบุตรร่วมด้วยยิ่งดี

ถาม เด็กพวกนี้จะจัดได้หรือครับ เวทีทางปัญญาแบบนี้  นี่เป็นเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้นะครับ

ตอบ ผมยังมีความหวังว่า  พวกเขาอาจจะได้คิดรู้จักและตระหนักถึงเสรีภาพทางความคิดขึ้นมาได้ว่า   เสรีภาพนี้ต่างจากเสรีภาพที่จะพูดอะไรก็ได้อย่างไร ถ้าคิดได้เขาก็จะเปลี่ยนไปได้ ถ้าคิดได้แค่จัดอีเวนต์ ตอกหมุดและถวายฎีกาท้าทายใครต่อใครเขา ก็อย่าขอโผล่มาให้รำคาญเมืองอีกเลย  อาจารย์ที่ปรึกษาก็ช่วยชี้แนะด้วย อย่าให้เด็กเอาชื่อไปใช้เฉยๆ เลยนะครับ  มันน่าจะน่าอดสูมากทีเดียว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"