ชีวิตอยู่ยาก..อาหารปนเปื้อนพลาสติก


เพิ่มเพื่อน    


    การวิจัยใหม่พบว่าคุณกำลังกินพลาสติกในอาหารทุกชิ้น โดยเมื่อเร็วๆ นี้มีการเรียกคืนอาหารหลายรายการ เนื่องจากมีร่องรอยของพลาสติกปนเปื้อนในอาหารบางชนิด ตัวอย่างเช่น นักเก็ตไก่ยี่ห้อ Pilgrim's Pride ที่คิดเป็นมูลค่าเกือบ 60,000 ปอนด์ ถูกเรียกคืนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากอาจมีพลาสติกปนเปื้อน ที่น่าสนใจนักวิทยาศาสตร์ยังพบพลาสติกในสิ่งที่ไม่ได้ถูกเรียกคืน เช่น ใช้ผงโปรตีน (แม้แต่แบรนด์ออร์แกนิก) และการศึกษาใหม่ล่าสุดได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเศษพลาสติกปนเปื้อนในอาหารทะเลจากลวดเย็บกระดาษของซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งด้วยเช่นกัน
    นักวิทยาศาสตร์ของสถาบัน QUEX ได้เผยแพร่ข้อมูลเพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมอย่าง “Environmental Science & Technology” ได้ค้นพบไมโครพลาสติกหรือเศษชิ้นส่วนพลาสติกขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าในปูม้า หอยนางรม กุ้ง ปลาหมึกกล้วย และปลาซาร์ดีน ที่หยิบมาจากในตลาดออสเตรเลีย พลาสติกชนิดนี้มีขนาดไม่เกิน 5 มิลลิเมตร หรือมีขนาดใกล้เคียงกับเมล็ดงาตามรายงานข่าวที่ระบุไว้เมื่อเร็วๆ นี้
    ด้านผู้เขียนงานวิจัยดังกล่าว นามว่า “ฟรานเชสสิกา โรบีโอ” บอกว่า จากการวิจัยนั้นทำให้เราได้ค้นพบว่า โดยเฉลี่ยแล้วมีผู้ที่บริโภคอาหารทะเลไปพร้อมๆ กับเศษพลาสติกขนาดเล็กคิดเป็นประมาณ 0.7 มิลลิกรัม ในหอยนางรมและปลาหมึกกล้วย ที่น่าสนใจนั้น ในปลาซาร์ดีนจะมีเศษไมโครพลาสติกปนเปื้อนสูงถึง 30 มิลลิกรัมเลยทีเดียว”
    ที่น่าสนใจนักวิจัยสาวคนดังกล่าวยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า นักวิทยาศาสตร์รู้สึกประหลาดใจมากที่สุดกับปริมาณพลาสติกในปลาซาร์ดีน ซึ่งเวลาที่คุณรับประทานปลาที่กินสัตว์น้ำขนาดเล็กที่ปนเปื้อนเศษพลาสติกเข้าไป ก็จะทำให้คุณบริโภคพลาสติก คิดเป็นหลอดดูดน้ำ 1 อัน โดยที่คุณคาดไม่ถึง
    ซึ่งการศึกษานี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องเดียวที่พบสารพิษในอาหารยอดนิยมในชีวิตประจำวันช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ยังมีการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งที่ค้นพบว่า กระดาษห่ออาหารจานด่วนมีสารเคมีที่เรียกว่า PFAS ในปริมาณสูง หรือสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้อาหารไม่ติดกระทะและภาชนะ หรืออาหารทนต่อไขมันและน้ำ ดังนั้นหากครั้งต่อไปคุณต้องการสั่งอาหารฟาสต์ฟู้ด อย่างแฮมเบอร์เกอร์ และขนมปังแซนด์วิช ก็ขอให้คิดอย่างถี่ถ้วน 
    สำหรับสารเคมีที่เรียกว่า PFAS ที่นำมาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารติดกับวัสดุต่างๆ นั้น เริ่มนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ช่วงปี 1940 ซึ่งเป็นการสังเคราะห์โดยรวมเอาคาร์บอนและสารฟลูออรีนที่มีคุณสมบัติแข็งตัว นั่นจึงทำให้ภาชนะบรรจุอาหารที่ทำจากทั้ง 2 สารสังเคราะห์นั้นทนต่อความชื้นและความร้อนของอาหารได้ นั่นจึงทำให้อาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดอย่างแฮมเบอร์เกอร์ ที่ห่อด้วยกระดาษสังเคราะห์จากสารทั้ง 2 ประเภทนั้น ไม่เลอะเปื้อนกระดาษที่ห่อ หรือบางครั้งกล่องใส่อาหารที่สามารถนำไปเวฟได้ และทำมาจากสารสังเคราะห์ดังกล่าวเช่นกัน ก็ทำให้อาหารสดใหม่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
    ด้าน “เดวิด แอนดรูส์” นักวิทยาศาสตร์อาวุโสผู้ทำการศึกษาดังกล่าว บอกว่า “สารเคมีสังเคราะห์อย่าง PFAS มักถูกเรียกว่า "สารเคมีตลอดกาล" เนื่องจากมีชีวิตที่ยาวนานและอยู่ในแหล่งน้ำของเรานานหลังจากเรากำจัดทิ้ง และจากรายงานของ National Geographic โดยการทดสอบก๊อกน้ำ 44 แห่งใน 31 รัฐ พบว่ามี 43 แห่งพบสารดังกล่าวปะปนในก๊อกน้ำเกินขีดจำกัด และเกินมาตรฐานความปลอดภัยของรัฐ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์อาวุโสบอกว่า เขาคิดว่ามันเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งในการดื่มน้ำ ที่ผู้คนไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และอาจดื่มน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมีดังกล่าวเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว”. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"