แช่แข็งเลือก 'กสทช.' ทุกหมากเดินตามแผน คสช.


เพิ่มเพื่อน    

     ลำพังแค่มติที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ล้มกระดานการเลือก 7 อรหันต์ กสทช.ชุดใหม่ อันเป็นการล้มพร้อมกับกระแสข่าว ใบสั่ง ที่มาพร้อมกับ คลิปเสียง ในเชิง นายกฯ ไม่แฮปปี้รายชื่อ 14 คนรอบสุดท้ายที่ส่งให้ สนช.โหวตเลือกให้เหลือ 7 ชื่อ บนกระแสข่าวที่ว่าเพราะ คสช.มองว่า หลายรายชื่อที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็น กสทช.ชุดใหม่ 6 ปี ในระยะยาวไม่ส่งผลดีต่อ คสช. โดยเฉพาะในช่วงเลือกตั้ง-การจัดตั้งรัฐบาล ที่จะมีเรื่องของ สงครามข้อมูลข่าวสาร เยอะมาก โดยเฉพาะในสื่อโซเชียลมีเดียที่ คสช.ต้องการคุมให้ได้ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จึงต้องการได้ กสทช.ที่ คสช.

      "คุยได้-ต่อรองได้-สั่งได้"

      และเมื่อดูจาก 14 ชื่อที่ส่งไปให้ สนช. หลายคนนอกจากคุณสมบัติมีปัญหาแล้ว คสช.อาจคุมไม่ได้  ไม่เหมือนกับ กสทช.ชุดปัจจุบัน-รักษาการ ที่รู้กันดีใน ตึก กสทช.-ซอยสายลม ว่าทำงานตอบสนอง  คสช.ทุกเรื่องและทำอย่างรวดเร็ว

  เมื่อทุกองค์ประกอบพร้อม เพราะหลายชื่อใน 14 คนคุณสมบัติมีปัญหา-คสช.เกรงสั่งไม่ได้  คุมไม่อยู่ อีกทั้ง กสทช.ชุดรักษาการปัจจุบันก็ทำงานสนอง คสช.ทุกเรื่อง มันก็เลยเข้าทางให้ สนช.ล้มกระดานเลือก กสทช.เสียเลย ท่ามกลางกระแสข่าว คสช.ไฟเขียวเห็นด้วย เพื่อให้กลับไปนับหนึ่งใหม่ ดึงเรื่องลากยาวออกไป

ยิ่งเมื่อล่าสุด บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้มาตรา 44 จัดการ แช่แข็งกระบวนการสรรหา กสทช. ด้วยการออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 7/2561 เรื่องการยกเลิกและระงับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็น กสทช.

        เนื้อหาใจความของคำสั่งดังกล่าวมีสาระสำคัญสรุปได้หลักๆ ก็คือ หลังมีการแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ เมื่อปี 2560 ที่ก็คือแก้ในยุค คสช.และในยุค สนช.ปัจจุบัน ที่มีการปรับปรุงโครงสร้างและอํานาจหน้าที่ ตลอดจนกําหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม รวมทั้งวิธีการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็น กสทช. และปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งดังกล่าว

แต่โดยที่ปรากฏว่าได้เกิดสภาพปัญหาในทางปฏิบัติเป็นอย่างมาก ทําให้การสรรหาและคัดเลือกบุคคลไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่ต้องการให้ผู้ได้รับการสรรหาและคัดเลือกเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่

ประกอบกับปรากฏข้อร้องเรียนเป็นจํานวนมากเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ผ่านการสรรหาเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งดังกล่าว จึงเป็นการสมควรที่จะต้องระงับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกไว้ก่อน เพื่อให้มีการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบและเหมาะสมเพื่อให้ได้มาซึ่งบุคคลที่มีคุณสมบัติและมีความสามารถที่เหมาะสมต่อการปฏิบัติหน้าที่ อันเป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์แก่การปฏิรูปการกํากับดูแลการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชนคำสั่งดังกล่าวระบุในตอนหนึ่ง

ผลในทางปฏิบัติของคำสั่งนี้ก็คือ ทำให้กรรมการสรรหา กสทช.ที่มี อุดมศักดิ์ นิติมนตรี เป็นประธานจะมีการประชุมกันในสัปดาห์นี้ เพื่อเตรียมเปิดรับสมัครคัดเลือก กสทช.กันใหม่ สรุปว่าล้มหมด ไม่ต้องทำแล้ว ให้ยกเลิกไป แช่แข็งกระบวนการนี้ไว้ก่อนจนกว่าหัวหน้า คสช.จะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น

อีกประเด็นสำคัญของคำสั่งดังกล่าวคือ ให้ กสทช.ชุดปัจจุบันที่ครบวาระแล้วและอยู่ระหว่างการรักษาการ ยังคงดํารงตําแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่จําเป็นไปพลางก่อน

ประเด็นสำคัญสุดท้ายคือ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหา กสทช.

ข้อสุดท้ายดังกล่าวเป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาล-สนช.คงต้องร่วมกันหาทางออก ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ อีกรอบ ทั้งที่แก้มาแล้วในยุค สนช.

เมื่อมีการ แช่แข็งการได้มาซึ่ง 7 กสทช.ชุดใหม่ ที่ยังไม่รู้ว่าจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ดูแล้วหากต้องมีการแก้ไขกฎหมาย-กว่าจะรับสมัคร คัดเลือกและส่งไปยัง สนช.อาจใช้เวลาเป็นปี คำถามก็คือแล้วภารกิจสำคัญที่รอ กสทช.ตัดสินใจ เช่น การประมูลคลื่น 1800 ของดีแทค ที่ 3 กลุ่มทุนใหญ่ เอไอเอส-ดีแทค-ทรู จ้องตาเป็นมัน กับผลประโยชน์นับแสนล้านบาท ตกลงจะให้ กสทช.ชุดรักษาการดำเนินการใช่หรือไม่ และเหมาะสมหรือไม่?

ขณะเดียวกันการทำหน้าที่ของ กสทช.ชุดรักษาการ ที่ก็จะอยู่ในตำแหน่งไปอีกนานแสนนาน จะรักษาความเป็นกลาง ไม่ขึ้นกับ คสช.ได้หรือไม่?

เพราะเรื่องนี้อดีตคนในตึก กสทช.อย่าง สุภิญญา กลางณรงค์ อดีต กสทช. เล่าประสบการณ์สมัยเป็น กสทช.ให้ฟังเองว่า กสทช.ชุด คสช.เป็นยุคที่อำนาจรัฐว่าไปทางไหน กสทช.ก็ต้องว่าไปทางนั้น  และรัฐบาลชุดนี้พยายามใช้งาน กสทช.ตลอดเวลา เช่นการขอให้ปิดสื่อ ให้กำกับดูแลเสรีภาพของสื่อ หรือเรื่องอื่นๆ ที่จะตอบสนองนโยบายรัฐบาล เช่นเมื่อ คสช.ทำจดหมายถึง กสทช.ให้ปิดสื่อที่ชอบวิจารณ์ คสช. กสทช.ก็รีบดำเนินการให้แบบรวดเร็วฉับไว แต่พอเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภคเช่นบริการมือถือ กสทช.จะช้าแล้วช้าอีกกว่าจะลงมติ

  หมากล้มกระดานเลือก 7 กสทช.ชุดใหม่จึงเห็นได้ชัดว่า วิน-วินกันหมด ทั้ง คสช.-กสทช.ชุดรักษาการ-สนช. หรืออาจจะรวมถึงกลุ่มทุนโทรคมนาคม-ทุนธุรกิจสื่อด้วยก็เป็นได้!!!

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"