20 ก.ย. 2563 เมื่อ6.00 น.บรรยากาศช่วงเช้าที่ท้องสนามหลวง ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการเมือง บริเวณท้องสนามหลวง ได้เริ่มทำกิจกรรมวันที่2 และมีการแจกจ่ายหนังสือ”ปกแดง”ปรากฏการณ์สะท้านฟ้า10 ข้อเรียกร้องว่าด้วยสถาบันกษัตริย์ นอกจากนั้นบริเวณด้านหน้าเวทีมีการขุดพื้นปูนซีเมนต์ เพื่อเตรียมปักหมุดทองเหลือง11.6 นิ้ว และอ่านแถลงการณ์คณะราษฎรฉบับที่2

พร้อมกันนั้นได้ มีการนำเหรียญที่ระลึกจำลองหมุดคณะราษฎรเป็นรูปชูสามนิ้ว มาจำหน่ายโดยให้ผู้ประสงค์จะซื้อเหรียญดังกล่าวสามารถจ่ายเงินเท่าใดก็ได้โดยเหรียญดังกล่าวจารึกอักษรว่า “ที่นี่ของราษฎรได้แสดงเจตนารมณ์ ประเทศนี้เป็นของราษฎร ไม่ใช่สมบัติของกษัตริย์ ตามที่เขาหลอกลวง”

จากนั้น 6.27 น. แพนกวิน หรือ พริษฐ์  ชิวารักษ์ ได้กล่าวถึงคุโณปการณ์ของ ปรีดี พนมยงค์ จอมพล ป. พิบูลสงคราม หัวหอกหลัก ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง นายครอง จันดาวงษ์ จารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อน นศ. วันที่ 6 ตค. วีรชน 35 ฯลฯ “ถ้าท่านเกิดเป็นเทวดา จงเหาะเหิน มาณ ที่นี้ ตัวท่านตายแต่ความคิดไม่สูญหายหาย จอเชิญวิญญาณของวีรชนที่เอ่ยน้ำและไม่ได้เอ่ยนาม เป็นสักขีพยานกับคณะราษฎรที่ยังไม่มีวันตาย”

พร้อมขออัญเชิญพระไพรีพินาศ ร.4 จัดทำขึ้น ผู้ที่ทำร้ายต่อแผ่นดินจะต้องพินาศ และขอความศักดิ์สิทธ์ของ หลักเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง ขอให้คุ้มครองชาติ ซึ่งไม่ใช่ของใครคนใด ขอให้สิ่งศักดิ์ สถิตย์ในหมุดคณะราษฎรนี้ด้วยเทอญ 
ต่อจากนั้นได้ขอให้ผู้ชุมนุมชู 3 นิ้ว6 วินาทีเพื่อระลึกถึงหลัก6 ประการของคณะราษฎร

และในเวลา 6.39 น.จึงได้ทำพิธึปักหมุดและยึดหมุด ตอกลงพื้นด้านหน้าเวที ซึ่งด้านหลังเวทีเป็นตำแหน่งของต้นมะขามในตำแหน่งที่มีการแขวนคอ นศ. เมื่อเหตุการณ์ 6 ตค.19