เครือข่ายวัดธรรมกายยื่น บก.ปปป.ปลด "พงศ์พร" พ้น ผอ.พศ. โวยทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ ขณะที่นายกฯ ตอกกลับ จะเคลื่อนไหวอะไรนักหนา ผอ.พศ.ทำผิดอะไร ชี้ปมทุจริตเริ่มจาก ขรก.ต้องสอบว่าเงินไปอยู่ที่ไหน ย้ำเคารพพระสงฆ์ทุกรูป ผิด-ถูกว่าไปตามกฎหมาย "สุวพันธุ์" ยันพงศ์พรทำตามหน้าที่ เชื่อพระผู้ใหญ่เข้าใจ
ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เวลา 10.00 น. วันที่ 24 เมษายน นายจรูญ วรรณกสิณานนท์ พร้อมด้วย น.อ. วินัย เสวกวิ และตัวแทนกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เดินทางมายื่นเอกสารต่อ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เพื่อเอาผิด พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) ในความผิดฐาน ม.157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีได้เข้าร้องทุกข์กล่าวหาพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูปมีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตเงินทอนวัด ล็อต 3
โดยนายจรูญกล่าวว่า วันนี้มาร้องเรียนต่อ ปปป.กรณี พ.ต.ท.พงศ์พร หลังจากปฏิบัติหน้าที่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ในตำแหน่ง ผอ.พศ. ซึ่งกฎหมายมิได้มอบอำนาจไว้ มีเจตนาทำให้วงการคณะสงฆ์เกิดความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นที่ดูหมิ่นเหยียดหยามจากประชาชนทั่วไป เป็นเหตุให้เกิดวิกฤติศรัทธาขึ้นต่อพระสงฆ์ และอันตรายต่อความมั่นคงต่อสถาบันศาสนา
"การตรวจสอบทุจริตนั้นมีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งคณะสงฆ์มีธรรมวินัยเพื่อดำเนินการตรวจสอบพระสงฆ์ด้วยกันเอง และฆราวาสไม่มีสิทธิ์กล่าวโทษหรือวินิจฉัยแทน โดยทาง พศ.เป็นหน่วยงานสนองงานเพื่อพระพุทธศาสนาไม่ใช่มาตรวจสอบว่าถูกหรือผิดเสียเอง ทั้งนี้ หาก ผอ.พศ.จะร้องทุกข์กล่าวโทษ ก็ควรถอดเครื่องแบบราชการออก และมาในฐานะประชาชนธรรมดาจะดีกว่า" นายจรูญกล่าว
ด้าน น.อ.วินัยกล่าวว่า ศาสนาเป็น 1 ใน 3 สถาบันหลักของชาติ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ โดยเรื่องเงินทอนนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเงินมาถวายพระ และนำเงินกลับไป แต่สุดท้ายมาโยนความผิดให้พระสงฆ์ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ผอ.พศ.และพระสงฆ์ควรเป็นโจทก์ยื่นฟ้องหาผู้กระทำความผิดมากกว่า ไม่ใช่มาดำเนินคดีกับพระสงฆ์
ส่วน พล.ต.ต.กมลกล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ตรวจสอบ และให้พนักงานสอบสวน ปปป.ดำเนินการสอบคำให้การผู้ร้องทุกข์ ก่อนพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรบนายจรูญ เป็นเครือข่ายเดียวกับนายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย และ ร.ท.บรรจบ บรรณรุจิ อาจารย์ภาควิชาภาษาตะวันออก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับวัดในสายธรรมกาย อาทิ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดสามพระยา ที่เคยเคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ต.ท.พงศ์พรมาแล้ว
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินหน้าปราบทุจริตเงินทอนวัดรอบใหม่ ที่เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากพระสงฆ์บางกลุ่มว่า ต้องย้อนกลับไปดูว่าเรื่องนี้เริ่มมาจากการทุจริตในสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะถูกหรือผิดก็ต้องว่ากันไป แต่ในทางกฎหมายก็ต้องสอบสวนว่าเงินเหล่านี้ไปอยู่ที่ไหนบ้าง บัญชีเป็นของใคร เขายังไม่ได้ว่าใครผิดหรือถูกเลย แล้วจะมาเคลื่อนไหวอะไรกันนักหนา ถ้าชี้แจงได้และถูกต้องตามกฎหมาย ก็จบไป
“ผมเคารพพระทุกรูปที่อยู่ในกระบวนการทุกองค์ ผมเป็นคนศาสนาพุทธ นับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น การที่จะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน ก็ต้องดูว่าการเคลื่อนไหวนี้มันถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขั้นตอน กระบวนการตรวจสอบเป็นอย่างไร ผมบอกแล้วว่ามันเริ่มมาจากข้าราชการ มาจากสำนักพุทธฯ ก็ต้องไปดูว่าเงินไปที่ไหน ก็ไปสอบที่นั่น ก็แค่นั้น อย่าตีกันไปตีกันมา และที่สุดก็ไปลงโทษเฉพาะข้าราชการ อย่างนี้มันก็ไม่เป็นธรรมน่ะซิ มันต้องเป็นธรรม กฎหมายบังคับใช้กับทุกคน ผมไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น ถ้าตัวเองรู้ว่ามันจะเกิดความวุ่นวายก็อย่าทำ ก็แค่นั้นเอง กฎหมายมันมีอยู่”
ส่วนที่กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดินเรียกร้องให้ปลด พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ พ้นจาก ผอ.พศ.นั้น นายกฯ กล่าวว่า ผอ.พศ.เขามีความผิดอะไรหรือยัง เขาทำผิดหรือทำนอกกติกาหรือยัง ก็ยัง มันเป็นเพียงขั้นตอนการนำเข้าสู่การตรวจสอบเท่านั้น ถือเป็นต้นทางของกระบวนการ ซึ่งเราก็ต้องหาคนดี คนซื่อสัตย์ คนที่ซื่อตรงมาทำงานตรงนี้ และกระบวนการยุติธรรมในการสอบสวนก็ต้องว่ากันไป ยืนยันว่าตนเคารพพระสงฆ์ทุกรูป
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงาน พศ. กล่าวถึงกรณีกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดินยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี, บก.ปปป., ป.ป.ช. ให้เอาผิด พ.ต.ท.พงศ์พร ทำหน้าที่เกินอำนาจของผู้อำนวยการ พศ. ว่า ตนได้ให้ พ.ต.ท.พงศ์พรทำงานในหน้าที่อย่างเต็มที่ และสนับสนุนการดำเนินการในหน้าที่อย่างเต็มที่ ส่วนที่มีข่าวว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้อำนวยการ พศ.นั้น ตนกลับได้ยินมาคนละอย่าง เพราะได้ยินมาว่าทุกอย่างราบรื่นดี ที่สำคัญ ในที่ประชุมวันนั้นมีแค่ มส.กับ พ.ต.ท.พงศ์พรเท่านั้น ไม่มีคนอื่น และพระผู้ใหญ่ระบุว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ดังนั้นข่าวดังกล่าวออกมาได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวต่อต้าน พ.ต.ท.พงศ์พรกลับมาอีกครั้งหนึ่ง จะกลายมาเป็นการกดดันรัฐบาลในเรื่องนี้อีกหรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า “ผมคิดว่าท่านพงศ์พร ณ วันนี้เขาทำตามอำนาจหน้าที่ที่เขามีอยู่ ผมคิดว่าอย่างนั้น” ส่วนกลุ่มที่ต่อต้านระบุว่า พ.ต.ท.พงศ์พรทำเกินหน้าที่ตัวเองนั้น นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นอะไร และอยากจะเห็นหนังสือที่เขายื่นมาก่อน
เมื่อถามว่า จะต้องเป็นกาวใจให้ พ.ต.ท.พงศ์พร กับพระผู้ใหญ่อีกหรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ไม่หรอก ตนสามารถติดต่อประสานงานกับพระผู้ใหญ่ได้อยู่ เรื่องนี้ไม่มีอะไร เมื่อถามย้ำว่าทางพระผู้ใหญ่เข้าใจการตรวจสอบในครั้งนี้หรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า เข้าใจ อะไรที่ถูกว่าไปตามถูก อะไรที่ไม่ถูกให้ว่าไปตามนั้น ทางคณะสงฆ์ไม่มีอะไร
ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า เตรียมโห่อีกทีครับพี่น้อง! ขบวนการเงินทอนโกงวัด โกง เงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรม ทั้งหัวโล้นหัวดำลำพองหนัก กำลังเตรียมยื่นเรื่องถึงนายก ขอถอดถอน ผอ.พศ.ออกจากตำแหน่งอีกแล้ว คอยจับตาว่าใครชงเรื่องถึงนายก ว่าจะเดินเกมอย่างไร ยังไม่เข็ดๆ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |