เริ่มแล้วศาลสีเขียว ปธ.ศาลฎีกา นำผู้พิพากษา-จนท. 400 คน ปลูกป่าพื้นที่ภาค 3 ชดใช้สังคมกรณีโดนครหาบ้านป่าแหว่ง


เพิ่มเพื่อน    

18 ก.ย.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่แปลงปลูกต้นไม้ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม สาขาปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นายไสลเกษ  วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการกิจกรรมปลูกป่า สืบเนื่องจากนโยบายประธานศาลฎีกาด้านการสนับสนุนบทบาทของศาลในการบังคับใช้กฎหมายที่ส่งเสริมรักษาสิ่งแวดล้อม และไม่ก่อภาระหรือเป็นผลร้ายต่อประชาชนและสังคม โดยสนับสนุนบทบาทของศาลในการส่งเสริมรักษาสิ่งแวดล้อม ประกอบกับประธานศาลฎีกาได้มีดำริให้ก่อสร้างสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมแห่งที่ 2 สาขาปากช่อง ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา  โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลของสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 3 มี นายวีรภัทร ไพบูลย์วัฒนกิจ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 3 กล่าวรายงาน

นายไสลเกษ กล่าวว่า พิธีเปิดโครงการกิจกรรมปลูกป่า สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมแห่งที่ 2 สาขาปากช่อง ที่อำเภอปากช่องในวันนี้ นับได้ว่า การปลูกป่าในวันนี้เป็นการสนับสนุนของศาล ในการส่งเสริมรักษาสิ่งแวดล้อมและไม่เกิดผลร้ายต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ตามที่ตนได้ประกาศนโยบายไว้ตั้งแต่รับตำแหน่ง ตนเห็นว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการเริ่มต้น สร้างพื้นที่สีเขียว รวมทั้งอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นแบบอย่างที่ดีแสดงให้บุคคลภายนอกตระหนัก ว่าศาลให้ความสำคัญกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมโดยที่พื้นที่เเห่งนี้เป็นฐานที่มั่นแห่งใหม่ ที่เราทุกคนใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ 

เชื่อว่าต้นไม้ที่ปลูกในวันนี้ และที่จะร่วมปลูกต่อไปในวันข้างหน้า จะให้ความร่มเย็นกับผู้ที่มาเยี่ยมชม ที่สถาบันแห่งนี้ วันนี้จึงถือเป็นวันเริ่มต้นนับหนึ่ง เพราะการปลูกต้นไม้ไม่ยากสำหรับทุกคน แต่การบำรุงรักษาให้ต้นไม้ได้อยู่เติบโต จนเป็นป่าให้กับประชาชนตรงนี้คือสิ่งที่ยาก ตนจึงขอฝากข้าราชการตุลาการทุกคน โดยเฉพาะเจ้าของพื้นที่ว่า ถ้าเราปลูกวันนี้แล้วไม่มีแผนงานในการบำรุงรักษาในการดูแลต้นไม้ต่อไปวันนี้จะกลายเป็นวันที่เริ่มต้นแห่งความล้มเหลวในการปลูกป่า เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรที่ทำให้เกิดขึ้นและยั่งยืน ตนขอเสนอให้มีการโครงการในการดูแลรักษาที่ปลูกป่านี้ 

ประธานศาลฎีกากล่าวด้วยว่า วันนี้มี นางเมทินี ชโลธร ว่าที่ประธานศาลฎีกา และมีว่าที่เลขาฯ สำนักงานศาลยุติธรรมมาร่วมโครงการ ซึ่งเป็นผู้มีทั้งนโยบายและงบประมาณ ในการสนับสนุนโครงการนี้ ถ้าเจ้าของพื้นที่ภาค 3 ที่รับภาระที่จะต้องดูแลโครงการนี้ ให้เขียนโครงการขึ้นมา ตนมั่นใจว่าผู้บริหารต่อจากนี้จะสนับสนุนเต็มที่ให้เกิดผืนป่าแห่งนี้คืนกับประชาชน แล้วเราจะยืนอยู่บนสังคม ประเทศไทยได้อย่างเชิดหน้าชูตา จากที่เคยชี้นิ้วใส่เราว่าพวกเราทำลายป่ากรณีบ้านป่าแหว่ง เราจะคืนชดใช้ให้หมด โดยในการปลูกป่าครั้งนี้นายวีรภัทร อธิบดีผู้พิพากษาภาค 3 ได้ให้ข้อมูลว่า การปลูกป่าครั้งนี้ ได้ข้อมูลจากผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ทางด้านป่าไม้ เป็นการปลูกโดยไล่เรียงจากพื้นที่ความสูง ไม้ที่ปลูกวันนี้เชื่อว่าจะอยู่รอดได้ แผนงานบำรุงรักษาจึงต้องฝากไว้ที่นายวีรภัทร กับคณะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการปลูกป่านี้ เป็นการปลูกต้นไม้ ซึ่งเป็นไม้ยืนต้น ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ มีทั้งหมด 58 ชนิด ประกอบด้วย ไม้สัก พะยูง ชิงชัน กระซิก กระพี้เขาควาย สาธร แดง ประดู่ป่า ประดู่บ้าน มะค่าโมง มะค่าแต้ เคี่ยม เคี่ยมคะนอง เต็ง รัง พะยอม ตะเทียนทอง ตะเทียนหิน  ตะเทียนชันตาแมว ไม้สกุลยาง สะเดา สะเดาเทียน ตะกู ยมหิน ยมหอม นางพญาเสือโคร่ง นนทรี สัตบรรณ ตีนเป็ดทะเล พฤกษ์ ปีบ ตะแบกนา เสลา อินทนิลน้ำ ตะแบกเลือด นากบุด ไม้สกุลจำปี แคนา กัลปพฤกษ์  ราชพฤกษ์ สุพรรณิการ์ เหลืองปรีดียาธร มะหาด มะขามป้อม หว้า จามจุรี รวงผึ้ง มหาพรหมราชินี พลับพลา กันเกรา กะทังใบใหญ่ หลุมพอ กฤษณา ไม้หอม เทพทาโร ฝาง ไผ่ทุกชนิด ไม้สกุลมะม่วง ไม้สกุลทุเรียน  และมะขาม ในพื้นที่ 7 ไร่ ซึ่งเป็นทางเข้าสถานที่ก่อสร้างสถาบันแห่งใหม่ โดยมี นางเมทินี ชโลธร รองประธานศาลฎีกา, น.ส.ปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานแผนกคดี ล้มละลายในศาลฎีกา ,นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสถาบันอบรมฯ ผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ในศาลฎีกา ศาลยุติธรรมในภาค 3 ผู้พิพากษาสมทบ ผู้ประนีประนอม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประมาณ 400 คนร่วมปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ด้วย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"