หลังกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดชุมนุมใหญ่วันที่ 19-20 ก.ย.นี้ และจะเดินขบวนมายังทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นศูนย์บริหารงานของรัฐบาล ที่มี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นแม่ทัพ ซึ่งขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมในสถานที่ชุมนุม และการดูแลสถานที่สำคัญต่างๆ รวมถึงทำเนียบรัฐบาล

ซึ่ง “บิ๊กตู่” ได้เน้นย้ำมาตลอดให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมด้วยความนุ่มนวล เพราะทุกคนเปรียบเหมือนลูกหลาน แต่ล่าสุดได้ออกปากปรามเพื่อกระตุกจิตสำนึก แม้ว่าการชุมนุมจะเกิดขึ้นได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ประเทศชาติก็อยู่ได้ด้วยกฎหมายเช่นกัน ดังนั้นต้องไม่ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองเสียหาย เดือดร้อน รวมถึงให้ระวังและดูความเหมาะสมในการเข้าไปในสถานที่สำคัญต่างๆ ที่มีกฎกติกาอยู่ ก็อาจมีความผิดได้ตามกฎหมายเช่นกัน

ขณะเดียวกันยังมอบหมายให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ดูแลภาพรวมเรื่องการชุมนุม โดยย้ำว่าจะต้องไม่ให้เกิดการปะทะกัน รวมถึงให้มือกฎหมายของรัฐบาล อย่างรองนายกฯ “วิษณุ เครืองาม” กางกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ว่ามีมาตรการกำหนดไว้ว่าห้ามผู้ชุมนุมเข้ามาชุมนุมปักหลักในสถานที่หรืออาคารสำคัญ โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาล ที่ถือเป็นศูนย์กลางบริหารราชการแผ่นดินของประเทศ โดยกฎหมายระบุไว้ว่า ห้ามเข้าใกล้ในรัศมีไม่เกิน 50 เมตรรอบสถานที่ หากฝ่าฝืนถือว่าผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะทันที

ขณะเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาลได้มีการประชุมซักซ้อมรับมือหากกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมา โดยทีมเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้ง “นายประทีป กีรติเรขา” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง “นางวิสุนี บุนนาค” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร ได้เรียกประชุมซักซ้อมแผนรับมือการชุมนุมตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์เป็นต้นมาทุกวัน มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสันติบาล

นอกจากนี้ยังให้เจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่โดยรอบทำเนียบฯ เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยการรักษาความปลอดภัยภายในทำเนียบฯ จะเป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล และกองกำกับการตำรวจสันติบาล 3 ขณะที่ภายนอกทำเนียบฯ จะใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยรวมกำลังเจ้าหน้าที่ 3 กองร้อย และอาจมีการเพิ่มกำลังพลหรือลดกำลังพลได้ตามสถานการณ์ และการบัญชาการกำลังพลทั้งหมดจะมีศูนย์บัญชาการกลางอยู่ที่ตึก 20 ทำเนียบรัฐบาล

ขณะล่าสุดวันที่ 17 ก.ย. หลังมีการประชุมซักซ้อมแผนรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม ได้มีคำสั่งให้มีการเคลื่อนย้ายสิ่งของสำคัญ เอกสารราชการ และเครื่องใช้จำเป็นในทำเนียบรัฐบาลไปเก็บรักษาที่อื่นเป็นการชั่วคราวก่อน โดยให้เริ่มเคลื่อนย้ายออกในวันที่ 17 ก.ย.ทันที และนำไปเก็บไว้ในสถานที่ที่แต่ละหน่วยงานเตรียมรองรับไว้ รวมถึงรถยนต์ที่จอดค้างคืนจะมีการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับและป้องกันหากเหตุการณ์บานปลาย ส่วนเรื่องการจราจรโดยรอบทำเนียบฯ จะเปิดให้ประชาชนสัญจรได้ตามปกติ ไม่มีการปิดถนนแต่อย่างใด

สำหรับในส่วนการเข้า-ออกพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 19-20 ก.ย. จะมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยผู้ที่จะเข้ามาต้องมีบัตรที่ออกโดยทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น จะไม่มีการเปิดให้บุคคลภายนอกแลกบัตรเข้ามาอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรียังได้มีการติดป้ายขอความร่วมมือห้ามจอดรถยนต์ชั่วคราวในวันที่ 18 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 16.30 น. ถึงวันที่ 20 ก.ย.

หากมีภารกิจไปราชการต่างจังหวัดและประสงค์จะจอดรถยนต์ไว้ ขอให้ติดต่อประสานงานกลุ่มบริหารการรักษาความปลอดภัยกองสถานที่ ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และให้นำรถไปจอดไว้ที่บ้านพิษณุโลกและบ้านมนังคศิลาแทน

• “นายกฯ” ถึงแม้ขณะนี้จะยังไม่ได้มีการตั้งวอร์รูมใดๆ แต่ก็ดูมีความกังวล เรียกว่าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนถึงวันชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย.ที่จะถึงนี้.