'ไมค์ พิรัชต์'แถลงข่าวเคลียร์ทุกประเด็นทั้งน้ำตา


เพิ่มเพื่อน    

 

          หลังจากที่ฝั่งของสาวซาร่า คาซิงกินี ได้มาเปิดใจถึงเรื่องราวหมดในรายการ โหนกระแส ช่วงบ่ายของวันนี้ ล่าสุด ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ได้แถลงข่าวพร้อมกับ ทนายเจมส์-นิติธร แก้วโต ถึงเรื่องราวที่ตนต้องยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของน้องแม็กซ์เวล โดยหนุ่มไมค์เคลียร์ทุกประเด็นทั้งน้ำตาว่าตนไม่เจอลูกนานแล้ว พร้อมประเด็นคอนโด ค่าเลี้ยงดูต่างๆ ซึ่งตอนนี้ตนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกเรียนที่ไหน
          "ค่าใช้จ่ายต่างๆมีการคุยกันว่าเดี๋ยวคุณจ่ายส่วนนี้ผมจ่ายส่วนนี้ช่วยๆกันในสถานการณ์แบบนี้ เขาก็เหมือนจะรับฟัง แต่ผมก็ไม่เคยได้คำตอบจนทุกวันนี้ ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าลูกเรียนโรงเรียนอะไร ผมเสียเงินโดยใช่เหตุกับเรื่องพวกนี้เยอะมาก เพียงเพราะแค่ไม่ได้คำตอบ เรื่องบอกผมเอาลูกออกจากโรงเรียน ผมไปเอาออกใช่ แต่ทำไมถึงต้องออกมีเหรือผมที่เป็นพ่ออยู่ๆอยากจะเอาลูกออกจากโรงเรียนเพื่อความสะใจ เราคุยกันเรื่องโรงเรียนแล้ว แล้วผมก็โทรไปถามที่โรงเรียนว่าถ้าผมจะให้ลูกออกจากโรงเรียนผมต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ซึ่งโรงเรียนตอบมาว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ทำภายในวันนี้ตอนสี่โมงเย็น ค่าค้ำประกันสามแสนจะไม่ได้คืน แต่ทางโรงเรียนก็น่ารักก็คุยกันว่าก็สามารถเอาน้องกลับเข้าไปได้ใหม่เพราะเขาเข้าใจว่าช่วงโควิดก็แย่ ผมก็เลยทำเอกสารเพราะเหลือเวลาแค่ 3 ชั่วโมง ผมก็รีบเตรียมเอกสารไปให้คุณครู แต่ก็กลายเป็นว่าน้องพ้นสภาพการเป็นเด็กนักเรียนของไบรตัน ผมก็กะเวลาแล้วว่าอีกกี่เดือนจะเปิดเทอม ผมก็คุยกับซาร่าว่าเรื่องโรงเรียนต้องเคลียร์ให้จบแล้วนะ ก็ยังไม่ได้เคลียร์จนเขากลับภูเก็ต ผมก็กังวล ถามเรื่อยๆจนโรงเรียนใกล้เปิด ผมต้องโทรกลับไปถามโรงเรียนว่าเอาลูกผมกลับไปสถานะเดิมได้ไหม ซึ่งผมต้องเสียเงินสามแสนนี้แทนที่จะเอาเงินนี้ไปเป็นค่าแรกเข้าของโรงเรียนใหม่ของลูกผม เงินนี้ก็ละลายน้ำไป สามแสนมันเยอะนะ
          เรื่องคอนโด (ถอนหายใจ) คุณภาพชีวิตผมว่าอยู่ที่คนจะตีความหมาย ผมขอชี้แจงว่าเรื่องโรงเรียน คุณภาพชีวิต ทำไมผมเลือกเลิศหล้า ไม่ใช่ว่าอยู่ๆเอาน้องเข้าเรียนเลย ผมก็ต้องเข้าไปดูก่อน สถานที่คอนโดผมก็เสนอเขาไปว่าแถวนั้นมีคอนโดใกล้ๆ ผมไปหาข้อมูลมาให้แล้วว่ามันมีคอนโดที่โอเคแต่ราคาไม่แพง ผมว่าคอนโดที่ดีไม่จำเป็นต้องราคาแพง ทำไมเราต้องหาให้แพงที่สุดถึงแปลว่าดี ผมก็ส่งให้เลือกตั้งแต่ 4,800 ถึง 13,000 และทุกอันที่ผมส่งไปผมดูแล้วว่าถ้าผมอยู่ได้ลูกผมก็น่าจะอยู่ได้ ก็ไม่เคยได้คำตอบ ไม่ได้บังคับให้อยู่ห้องไหน ผมแค่เสนอให้เลือก
          ที่บอกว่าบีบให้ออกจากคอนโด คอนโดนั้นมันเป้นของพี่ชายผมที่ผมไปขอร้องเขามาว่าขอให้หลานอยู่นะ ผมจะจ่ายค่าเช้าให้แต่ขอถูกหน่อยได้ไหม ไม่ใช่ราคาปกติ3-4หมื่นได้ไหม ขอจ่ายแค่ 24,000 ได้ไหม ก็อยู่มาไม่มีปัญหาแต่ช่วงโควิดแบบนี้ทุกคนมันโดนผลกระทบหมด ที่ผมทำธุรกิจห้องเช่า พอผู้เช่าไม่จ่ายค่าเช่า ห้องไม่มีคนเช่า มันเกิดค่าใช้จ่ายที่เขาต้องแบกรับ แล้วเขาก็บอกว่าห้องนี้เป็นห้องเดียวที่ปล่อยได้ ให้ผมไปคุยกับซาร่าก่อนได้ไหม ผมก็ไปปรึกษากับซาร่าว่าแบบนี้ๆนะ แล้วไหนๆก็จะย้ายโรงเรียนก็ย้ายไปแถวนั้นเลย ก็ให้เวลา 2-3 เดือน พี่ผมก็มีมาตามแต่ผมก็ไม่ได้ไปบอกเขา

 

 

          ตั้งแต่เกิดเรื่องวันเกิดลูกที่ผมไม่ได้เจอลูก จนเรื่องหลอกให้ผมไปสนามบินไปรอเก้อ แล้วสุดท้ายผมไปทำบุญวันเกิดลูกแต่ต้องเอารูปลูกมาแปะแทน ผมรู้ว่าเขากลับภูเก็ตผมเลยไปที่คอนโดเพื่อดูสภาพของห้อง แต่ผมไม่รู้พาสเวิร์ดประตู ไม่รู้จะเข้ายังไง แต่ผมเห็นมีเงาใต้ประตูผมเลยลองเคาะ ปรากฎว่ามีผู้ชายคนนึงอายุ 40 กว่าๆอยู่ แล้วมองเข้าไปมีรูอยู่บนฝ้าเพดาน ซึ่งทำไมมาทำอะไรแบบนี้โดยพละการ ทราบว่าเป็นคนขับรถของซาร่า แต่ไม่ใช่คนขับรถที่ผมจ้างให้เพราะคนนั้นเป็นวัยรุ่น แต่คนนี้น่าจะเป็นสามีของป้าพี่เลี้ยงที่ผมจ้าง ซึ่งป้าเป็นญาติของซาร่า ผมก็รายงานเรื่องนี้กับพี่ชาย เขาก็บอกว่าไม่ได้สิ ไหนว่าจะให้หลานอยู่แล้วนี่อะไร เขาจึงตัดคียร์การ์ดและตัดน้ำ แต่ไม่ได้ตัดไฟ เพราะเขาก็กลัว เขาตัดคียร์การ์ดไปแค่ 5 วันเอง มีหลักฐานหมดครับ เขาแจ้งว่ามาขนของ แต่เขามาอยู่กันสามีภรรยาคือมาอยู่แบบนี้แต่การที่มีคนแปลกหน้ามาตรงนี้พี่ชายผมก็ต้องตกใจ ประเด็นคือทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้คำตอบว่าคอนโดผมคืนได้หรือยัง
          ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับซาร่าคือวันที่ 12 กรกฎาคม วันที่ผมโดนโกหกที่ผมไปรอเก้อที่สนามบิน ผมถามอะไรก็ไม่ตอบมานานแล้ว ไม่ได้เจอตั้งแต่เขากลับภูเก็ต ผมเจอล่าสุดตอนที่ไปดักเจอลูกที่โรงเรียน ไม่เจอเขา ผมเห็นแค่หน้าเขาอยู่บนรถไม่ได้ลงมา ผมเอาลูกเดินมาส่งที่รถ เอาลูกนั่งด้านหลังส่วนเขานั่งหน้าแต่เขาไม่ลงมา วันนั้นคือหนึ่งวันก่อนที่โรงเรียนไบรตันปิดเทอม ผมไม่แน่ใจวันที่เท่าไหร่ เพราะถ้าหลังปิดเทอมกลัวว่าจะไม่ได้เจอ ผมเลยไปดักเจอรอจนลูกผมเดินออกมาหน้าประตูผมก็วิ่งลงไปเลย
          มันมีรายละเอียดเยอะมากที่พูดเท่าไหร่ก็ไม่หมดและไม่อยากจะพูดเลย (ถอนหายใจ) เพราะมันจะกระทบกับลูกผม (นิ่งไปสักพัก) ที่ผ่านมามันก็ดีมาตลอด คือผมไม่รู้จริงๆว่ามันเกิดเพราะอะไร แต่ที่เห็นชัดๆเลยคือผมไปขอลดตรงนั้นตรงนี้หน่อยเลยเกิดปัญหาขึ้นทีละนิดเริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆ มันมีคำว่าทำไมเยอะมาก ผมมีคำถามเยอะมากที่ผมอยากได้คำตอบแต่ไม่ได้มานานมากแล้ว แต่ที่อยากได้คำตอบที่สุดก็คือ ตอนนี้ลูกเรียนที่ไหน มีที่เรียนหรือเปล่า

 

 

          ค่าใช้จ่ายประมาณ 2 ล้านนี่คือที่ลงบัญชีแล้วที่ผมจ่ายทั่วไปจิปาถะอีกล่ะ ผมจ่ายหมด 100เปอร์เซ็นต์ ผมมีรายละเอียดชี้แจงหมดเรื่องค่าใช้จ่าย ตั้งแต่แม็กซ์เวลล์คลอดออกมาวันแรกไมค์จ่ายไป 4 แสนกว่าค่าคลอด เรื่องพวกนี้ไม่มีการคุยกันผมแค่ต้องการรับผิดชอบ หลังจากนั้นก็จ่าย 3-5 หมื่น และช่วงแรกทารกยังไม่ได้ใช้อะไรเยอะ ก็ให้เดือนละ 3 หมื่น พอใกล้เข้าโรงเรียนก็มีพี่เลี้ยงให้เดือนละ 12,000 คนขับรถ 15,000 ค่าประกันอีก 70,000 กว่าต่อปี ค่าโรงเรียนเกือบล้านต่อปี ค่างานวันเกิดผมก็ดูแลทุกครั้งที่จัด เงินเดือนอีก 3 หมื่น ไม่รวมที่เพิ่มให้เป็น 4 หมื่นถ้ามี และอื่นๆอีกมากมาย รวมถึงเงินฝากประจำในบัญชีธนาคารเพื่อ ด.ช.แม็กซ์เวลล์ เดือนละ 1 หมื่น เป็นเวลา 24 เดือน ผมมั่นใจว่าเมื่อเขาโตขึ้นเขาจะมีเงินก้อนนี้ที่จะสามารถใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยได้ เป้นเงินที่ต่อให้ผมลำบากแค่ไหนก็จะไม่ไปแตะเงินตรงนี้ นี่คือเงินของลูก
          เรื่องเซ็นรับรองบุตร ผมโอเคตั้งแต่วันแรกที่ผมแถลงข่าวว่าเขาเป็นลูกแล้ว ทำไมทุกคนถึงตั้งคำถามว่าทำไมเพิ่งมาเซ็นตอนนี้ แล้วสิ่งที่ผมทำมาเป้นปีล่ะ กระดาษใบนึงมันสำคัญกว่าการกระทำเหรอครับ ผมรู้สึกว่าที่ผ่านมาผมไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเรื่องชีวิตของลูกผมพอสมควร ตอนนั้นเขาบอกว่าให้เคารพในตัวเขาหน่อยในฐานะที่เป็นแม่ เขาไม่ให้เซ็น ให้ลูกโตก่อนแล้วให้ลูกตัดสินเองว่าผมควรเป็นพ่อหรือเปล่า ผมก็โอเคเคารพการตัดสินใจนะ ผมก็คิดว่าแค่กระดาษใบหนึ่ง ผมไม่รู้เรื่องกฎหมาย ไม่เคยทำเอกสารอะไร คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เอาเป็นว่าเราทำให้เห็นในอนาคตแล้วกัน (เสี่ยงสั่น) ต่อให้คนด่าผมขอพิสูจน์ด้วยสิ่งที่ผมทำมากกว่า คนบอกผมไปทำงานที่ต่างประเทศดูแลลูกไม่ได้หรอก ผมไปอยู่ที่นู่นเป็นปีๆ ห่างครอบครัว ห่างลูกมันแปลว่าผมไม่รักไม่ดูแลลูกเหรอ แล้วครอบครัวคนอื่นละ คุณแม่อยู่บ้านเลี้ยงลูกคุณพ่อทำงาน อย่างนั้นแปลว่าพ่อไม่รักไม่ดูแลลูกเหรอครับ  มันแปลว่าอย่างนั้นได้เหรอครับ

 

 

          เรื่องเอกสารการปกครองร่วมเขาบอกมันจะยุ่งยากนั่นนี่ เขาก็เคยมาขอผมนี่ครับ ตอนจะไปต่างประเทศผมก็พิมพ์ส่งอีเมล์กลับไป มันยากอะไรครับ ความสุขของลูกอยากเจอแม่ผมก็ไม่มีสิทธิ์ไปกีดกัน กีดกันก็ฟ้องผมสิครับ แล้วผมจะไปกีดกันทำไม เราอยู่กับปัจจุบันสิครับ ถ้ามันแก้ไขได้โดยไม่ต้องข้นศาลผมจะมาขึ้นศาลเหรอครับ มีครั้งหนึ่งเขาต้องการไปต่อพาสปอร์ตลูกในช่วงที่โควิดระบาดหนักที่สุด เขาบอกผมว่าต้องไปทำที่สถานราชการนี้ แล้วคนเยอะ เสี่ยง พี่คิดว่าผมจะปล่อยไหม ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำให้ แต่ผมไม่ให้ไปช่วงนั้น คำถามคือทำไมต้องรีบบิน คอโควิดจางก่อนไหม แต่เขาต้องการบิน นี่ก็เป็นอีกคำถามหนึ่งว่าทำไมต้องรีบบินรีบทำรีบไปตรงนั้นเดี๋ยวนี้ เอาโรงเรียนก่อนไหม เรื่องโรงเรียนลูก
          ค่าใช้จ่ายผมไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายลูก ค่าพนักงาน ค่าทีมงานออฟฟิศผม บริษัทผมปีหนึ่งรวมแล้วสิบล้าน ปีนี้ผมตัดลดทุกอย่างออกครึ่งหนึ่ง ผมตัดเงินเดือนตัวเองออกทั้งๆที่ปกติได้ ไม่อย่างนั้นทีมงานผมไม่รอด แต่ผมก็ยังจ่ายเงินให้ลูกอยู่ ทุกวันนี้ต่อให้ผมไม่เจอลูกผมก็จ่ายเงินเดือน 30,000อยู่ แต่ค่าอื่นๆที่ผมบอกเขาว่าผมขอตัดนะเช่นค่าพี่เลี้ยงค่าคนขับรถ ผมก็เห็นว่าเขาก็ทำงานมีรายได้ ไปออกอีเวนท์ มีละคร รายได้ตรงนั้นมันช่วยกันตรงนี้ไม่ได้เหรอ แต่เขาบอกไม่มี เขาบอกผมไปแตะเรื่องความสุขของลูก ไปแตะเรื่องโรงเรียน ทำไมผมถึงเป็นคนที่รับผิดอยู่คนเดียวเรื่องโรงเรียนของลูก ให้ลูกโทรมา คำแรกลูกบอกว่า แม็กซ์จะไม่ย้ายโรงเรียน ทำไมลูกถึงคิดว่าผมไปพรากความสุขจากเขามา มันเกิดอะไร ไปสื่อสารยังไงทำไมเขาคิดแบบนั้น คำแรกไม่มีฮัลโหลแต่พูดว่า แม็กซ์เวลอยากไม่ย้ายโรงเรียน มีวันหนึ่งแม็กซ์เวลพูดว่าอยากเจอแดดดี้รักแดดดี้พูดกันดี อีกวันหนึ่งโทรมาบอกว่าไม่อยากเจอแดดดี้แล้วแม็กซ์เปลี่ยนใจ เด็กอะพี่เขาซึบซับพวกนี้ได้ง่าย การมาพูดวันนึงรักอีกวันไม่รักทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย มันเกิดอะไรกับลูกผม
          ในใจมีไหมที่อยากเอาน้องมาเลี้ยงเอง ไม่มีครับ แม็กซ์เวลต้องการแม่และพ่อ จะขาดใครไปไม่ได้ ยังไงก็ต้องมีแม่ สุดท้ายแล้วซาร่าก็คือแม่ของแม็กซ์เวล ผมคือพ่อของแม็กซ์เวลมันเปลี่ยนอะไรไม่ได้ ส่วนเรื่องที่ลือว่าซาร่าตั้งครรภ์ลูกอีกคนหรือไม่  ผมไม่อยากไปยุ่ง ไม่ใช่เรื่องของผม อยากรู้ต้องไปถามซาร่าเองเพราะเขารู้อยู่แก่ใจตัวเองอยู่แล้ว"

 

 

          ด้าน ทนายเจมส์ ขอเสริมในส่วนของเรื่องข่าวว่าซาร่าท้องหรือไม่ "อันนี้เราไม่รู้รบกวนพี่ๆไปถามน้องซาร่าเอง เราตอบแทนเขาไม่ได้ เราตอบไดเชัดเจนมากที่สุดคือการยื่นคำร้อง ยื่นเมื่อเดือนมิถุนายนก่อนที่จะมีข่าวดาราสาวท้องกลางกองถ่าย มันจึงไม่เกี่ยวกันว่ายื่นเพราะกลัวเรื่องพวกนั้น สมมติว่าในอนาคตซาร่าจะมีครอบครัวมันก็เรื่องของเขา แต่ถ้าเมื่อไหร่มีผลกระทบกับเด็กอันนั้นแหละถึงเป็นหน้าที่ของพ่อที่ต้องออกมา
          หน้าที่ของบิดา-มารดาโดยชอบด้วยกฎหมายคือต้องจดทะเบียนสมรสด้วยกันก่อน แล้วหน้าที่ตามกฎหมายถึงจะเกิด กรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันแล้วพ่อทิ้งลูกไป แม่ไม่สามารถเรียกค่าเลี้ยงดูได้ จะต้องฟ้องเพื่อให้พ่อเป้นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายก่อน พ่อถึงจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดู ผมบอกได้คำเดียวว่าการยื่นคำร้องขอเป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายเนี่ยเด็กไม่ได้เสียผลประโยชน์ พ่อต่างหากที่ต้องเสียเงิน และมันก็มีลายลักษณ์อักษรชัดเจนว่าต้องเสียเดือนละเท่าไหร่ ถ้าพ่อผิดสัญญา เอา ณ วันนี้ก่อน ถ้าวันนี้ไมค์ผิดสัญญาทำอะไรไมค์ไม่ได้นะครับ ไม่มีลายลักษณ์อักษรกำหนดไว้เลย แต่ถ้าวันนี้มีการขึ้นศาลมีลายลักษณ์อักษรชัดเจนไมค์ดิ้นไม่หลุดครับ นี่คือการทำเอกสารมัดตัวไมค์นะ
          ผมเรียนสองส่วน ส่วนที่จะพิพากษาว่าไมค์เป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายอันนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าศาลท่านพิพากษาแน่เพราะมีผลดีเอ็นเอยืนยัน มีสูติบัตรชัดเจน มีการส่งเสียเลี้ยงดูมาถึง 6 ปี อันนี้ชัดเจนมากๆ แต่ในส่วนของอำนาจการปกครอบบุตรต้องให้ศาลท่านพิจารณาว่าจะให้มีการปกครอบร่วมกันหรือใครจะปกครอง แต่ส่วนมากศาลท่านจะให้ปกครองร่วมกันเพราะไม่ได้เป็นเรื่องเสียหาย

 

 

          ผมเป็นผู้รับมอบอำนาจของไมค์เนื่องจากเขาอาจจะต้องบินไปเมืองนอกบ้าง ผมเลยต้องเป็นผู้รับมอบอำนาจในการตัดสินใจแทน ในคำร้องขอเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายมีแค่ 2 อย่างเองคือ 1.ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้ร้องเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย 2.ขอมีกำนาจปกครอบร่วมกับมารดา มีแค่2อย่างนี้เอง ไม่มีคำร้องส่วนใดเลยที่ว่าแม่ไม่สามารถปกครองลูกได้ หรือไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะดูแลลูกได้ อะไรไม่มีนะครับ คำร้องมีแค่ 2 หน้าเอง     
          การเซ็นรับรองบุตรหมายความว่าลูกเป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมายไม่ได้แปลความว่าพ่อเป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายนะ ที่ผมยื่นคำร้องนี่คือการที่พ่อเป็นพ่อที่ชอบด้วยกฎหมายคือ 1จดทะเบียนสมรสกัน 2ศาลสั่ง แล้วในเมื่อแม่เขาไม่ยอมจะทำยังไงครับ มันก็ต้องยื่นร้องต่อศาล นี่คือแค่นั้นเอง ในกรณีของน้องไมค์เขาอยากมีอำนาจในการปกครองร่วม ส่วนศาลจะให้หรือไม่อันนี้อยู่ในดุลยพินิจของท่าน
          ถ้าคุยกันได้มันคุยกันจบนานแล้ว เราใช้สิทธิ์ทางศาลเพราะเราต้องการให้เขามาคุย สุดท้ายผลประโยชน์ตกกับลูก สมมติไมค์บอกว่าพี่เจมส์ครับผมอยากเอาน้องมาเลี้ยงแต่เพียงฝ่ายเดียว ผมบอกน้องเลยว่าให้ไปหาทนายคนอื่น ไมทำ มันบาป ทำได้ยังไง ถ้าน้องผู้หญิงทำหน้าที่แม่ไม่ดีค่อยว่ากัน แต่นั่นเขาดูแลอย่างดี อีกอย่างหนึ่งน้องไมค์ทำงานต่างประเทศน้องจะเอามาดูแลได้ยังไง"

 

 

          และเมื่อสื่อถามว่าที่ผ่านมาเราเก็บกดถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าอย่างที่เป็นข่าวไหม ทำไมเลือกที่จะเงียบมาตลอด เจ้าตัวก็เงียบไปสักพักแล้วจึงตอบว่า
          "ผมไม่เห็นประโยชน์ในการพูดที่มันจะดีกับลูกผมเลย เพราะในการถกเถียงกัน ในการต่อสู้มันไม่มีใครชนะ มีแต่คนที่เจ็บปวด มีแต่พังกับพัง ผมรู้ว่าใครเป็นยังไง ผมคิดว่าการรับมือที่ดีที่สุดคือการเงียบ เมื่อก่อนคิดว่าแบบนั้นดีแล้ว ไม่ต้องออกมาพูดอะไรไม่ต้องตอบโต้กันไปมา แล้วผลเสียมันตกที่ใคร เม็กซ์เวลถูกไหมครับ แล้วจะพูดทำไม ด่ามาถึงผมผมไม่ว่า แต่ด่าไปถึงครอบครัวผม ในสิ่งที่พ่อแม่ไม่ได้ทำ ไม่ได้พูด น้องสาวก็โดนไปด้วย ทั้งๆที่น้องสาวผมเป็นคนดี แต่ทุกคนก็อดทน (ร้องไห้) และผมก็ขอโทษครอบครัวที่ลากเข้ามาในปัญหาอะไรไม่รู้ที่ทำให้มันพังแบบนี้ ที่ทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องมาพังไปด้วย ทั้งๆที่มันเป็นปัญหาของผม ความเหลาะแหละของตัวเอง ความโง่ ความผิดพลาดของตัวเอง ซึ่งผมก็เป็นคนปกติผมก็ผิดพลาดมาเยอะทั้งการใช้ชีวิตหรือการใช้เงิน แต่มันไม่ได้แปลว่าผมต้องผิดพลาดไปตลอดชีวิตนี่ ผิดพลาดก็แก้ไข เรียนรู้แล้วก็อยู่กับมันให้ได้ ฉะนั้นใครจะด่าอะไรด่าผมคนเดียวอย่าด่าไปถึงครอบครัวของผมผมขอแค่นี้
          ถ้าลูกเปิดมาเจอเรื่องราวนี้ในอนาคต อยากจะบอกแม็กซ์ว่ามันเป็นเรื่องปกติ แดดดี้เป็นดารายังไงก็ต้องเจอแบบนี้อยู่แล้ว เราอยู่ในที่สว่าง มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ แดดดี้เลือกอาชีพไม่ได้ การที่เป็นแบบนี้แดดดี้ไม่อยากให้แม็กซ์เอามาเป็นปม มันไม่ใช่ปม แม่และแดดดี้รักพี่แม็กซ์ที่สุดแล้ว แต่ปัญหาของผู้ใหญ่วันนี้ก็แก้วันนี้ก่อนที่แม็กซ์จะโตไปมากกว่านี้ ไม่ต้องน้อยใจว่าทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ ทำไมครอบครัวเราไม่เหมือนคนอื่น หลังจากนี้แดดดี้อยากให้แม็กซ์รู้ว่า ไม่ว่าใครจะพูดอะไร จะคิดยังไงหรือจะพูดให้แม็กซ์ฟังยังไงก็แล้วแต่ให้แม็กซ์รู้ไว้ว่าวันนี้จนวันตายแดดดี้ก็รักพี่แม็กซ์และไม่มีวันทอดทิ้งพี่แม็กซ์ ต่อให้พี่แม็กซ์จะพูดอะไรที่ไม่ได้เป็นความคิดของตัวเองก็แล้วแต่ แดดดี้ไม่ถือสา และจะไม่เปลี่ยนความคิดนี้ ถ้าวันหนึ่งแดดดี้ไม่ได้อยู่กับพี่แม็กซ์ (ร้องไห้) ที่ตรงนี้เป็นของพี่แม็กซ์เสมอ พี่แม็กซ์กลับมาหาแดดดี้ได้เสมอ

 

 

          ที่เขาบอกว่าเจอกันได้ ก็เจอได้ครับไม่มีปัญา ไกล่เกลี่ยกันได้คุณต้องการอะไร คุณก็บอกผมมาแล้วเรามาคุยกันในเหตุผลในบรรทัดฐานของความพอดี ผมอยากเคลียร์หลังบ้านอยู่แล้วผมไม่อยากจะออกสื่อ ไม่งั้นผมจะเก็บเงียบหลายปีเพื่ออะไร ทำไมถึงไม่เคลียร์กันภายใน เรื่องเซ็นรับรองบุตรก็เคยให้สัมภาษณ์แล้วว่าเซ็นไม่ได้กับไม่ได้เซ็นมันไม่เหมือนกัน วันที่ออกมาพูดว่าผมไม่ได้รับผิดชอบตั้งแต่แรก ผมออกมาแถลงข่าวว่ารับผิดชอบตั้งแต่แรกแล้ว จบยังไงก็ได้ให้ดีต่อแม็กซ์ ผมต้องการแค่ได้เจอลูก ได้มีอยู่ในชีวิตลูก ได้มีสิทธิ์ในการตัดสินใจว่าลูกจะเดินไปในทางไหนบ้างเรื่องค่าใช้จ่ายให้มันพอดี อย่าให้มันสูงเกินไป เด็กคนนึงค่าใช้จ่ายเดือนละ 30,000 เหรอครับพี่ เด็กคนนึงใช้ไม่ถึงนะ ผมยังใช้แค่ 15,000 เลย ทำไมลูกผมถึงใช้มากกว่าผม ผมมีค่าใช้จ่ายนั่นนี่ เดี่ยวนี้ผมทำกับข้าวกินเองอะไรที่เซฟค่าใช้จ่ายได้ก็เชฟช่วงนี้มันเป็นแบบนี้เราต้องเซฟ ตอนผมโตมีชื่อเสียงเป็นกอล์ฟ-ไมค์ผมใช้แค่เดือนละ 15,000
          กับซาร่าผมไม่คิดเคียดแค้นอะไรอยู่แล้ว สิ่งเดียวที่ผมรู้สึกเลยคือผมสงสารลูก ผมอยากให้มันจบเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ กับซาร่าผมไม่มีอะไรจะบอกเขาผ่านสื่อ มีอะไรก็คุยกันภายใน ตอบไลน์ผมก่อน เพราะเรื่องโรงเรียนที่ผมถามไปว่าจะเอายังไง ผมยังไม่รู้เลยว่าโรงเรียนไหน มีใครตอบผมได้บ้างว่าตอนนี้ลูกอยู่โรงเรียนอะไร ผมอยากรู้ ผมไม่ได้ไปลดคุณภาพชีวิตเขานะครับ"

 

 

ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม m1keangelo

 

 

 

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"