ไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่น!'บิ๊กตู่'ตอก'มาร์ค'กลับไปดูแลสมาชิกพรรคให้ดี


เพิ่มเพื่อน    

24 เม.ย.61- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า คสช.เดินสายใช้พลังดูด กับอดีตนักการเมือง โดยใช้ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีเป็นตัวล่อ ว่า "ผมบอกแล้วว่า ผมไม่ใช่เครื่องดูดอากาศ หรือ เครื่องดูดฝุ่น เพราะฉะนั้นต้องไปดูว่า ข้อกล่าวหาที่ว่า คสช. หรือรัฐบาลนี้จะไปบังคับคนนั้นคนนี้ บังคับนักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน ผมจะเอาอำนาจอะไรไปบังคับเขาเหล่านั้น ดังนั้น คำพูดดังกล่าวก็เป็นเรื่องของท่านเอง การที่บอกว่านักธุรกิจจะต้องสนับสนุนสิ่งต่างๆให้กับนักการเมือง และพรรคการเมืองนั้น ควรไปดูข้อกฎหมายว่าทำได้หรือไม่ เพราะถ้ากฎหมายระบุว่าทำไม่ได้ ก็ทำไม่ได้อยู่ดี เรื่องนี้ ไม่ต้องไปห้ามใครเขา และเรื่องเหล่านี้ก็มีการตรวจสอบกันอยู่แล้ว"

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่า ตระกูลชิดชอบจะเป็นกลุ่มรายต่อไปที่ คสช.และรัฐบาลจะดูดเข้ามาเป็นพรรคพวก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ทุกคนไปใช้คำดังกล่าว ตามที่นักการเมืองพูดออกมา เพราะการที่จะกล่าวว่าใครดูดใคร ก็ต้องไปดูว่า ผลงานของพรรคการเมืองของเขาที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีการดูแลสมาชิกพรรค ส.ส.ทุกคนมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นและนำความต้องการของประชาชนไปสู่การขับเคลื่อนของพรรคหรือไม่ ในขณะที่พรรคอื่นเป็นรัฐบาล หรือไม่ได้เป็น ได้ให้ความสำคัญกับสมาชิกที่เป็นลูกพรรคหรือไม่แค่ไหน หรือให้ความสำคัญไม่เพียงพอ

"ผมเข้าใจว่านักการเมืองทุกคน อยากเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง แต่ก็มักไปติดที่นโยบายพรรค นโยบายหัวหน้าพรรค หรือผู้สนับสนุน แต่ยืนยันว่า คสช. ไม่มีใครมีบทบาทเหนือตรงนี้ เราสามารถที่จะทำงานทุกอย่าง อย่างเป็นอิสระ ดังนั้นขอให้กลับไปดูที่ผลงาน ใครจะดูดหรือถูกดูดก็เป็นเรื่องของเขา และขอให้ไปดูแลสมาชิกของท่านให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ผมเคยฟังนักการเมืองพูดว่า การเข้ามาทำงานให้ประเทศสำหรับพรรคการเมืองที่ได้เข้ามาเป็นรัฐบาลก็อยากจะทำงานให้ครบตลอด 4 ปี ตามอายุรัฐบาล แต่ก็ทำไม่ได้มากนัก ช่วง 2 ปีแรกก็เริ่มทำงานได้ดีอยู่ แต่หลังจากปีที่ 2 ไปแล้ว มันทำไม่ค่อยได้ เพราะต้องเตรียมตัวยุบสภา เขาพูดกับผมแบบนี้เลย เพราะฉะนั้นเขาอาจจะต้องทำอะไรต่างๆ ตามแนวทางนโยบายของพรรคและหัวหน้าพรรค ซึ่งมันไม่ถูกต้อง"

นายกฯกล่าวว่า อยากขอร้องว่า รัฐบาลหน้าไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ก็ต้องร่วมมือกันในกิจการที่จะก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ประชาชนทั้งประเทศได้ประโยชน์ ไม่ใช่ได้ประโยชน์เฉพาะพื้นที่ที่เป็นฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว ตนตั้งใจแบบนี้ในการที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ทุกคนที่เข้ามาทำงานการเมือง ไม่ต้องไปกลัวอะไรทั้งสิ้น จะเลือกตั้งเมื่อไหร่มันอยู่ที่ว่าเราจะบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างไร ให้โปร่งใส เป็นธรรม ไม่เช่นนั้นก็จะมีการซักฟ้องคัดค้านอภิปรายกันไปเรื่อย เหมือนที่ผ่านมาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้สักอย่าง 

เมื่อถามว่า มีเสียงสะท้อนว่าหากนายกฯจะดึงนักการเมืองก็ควรดึงนักการเมืองที่ดีๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “แน่นอน แต่อะไรคือที่ว่าดีๆ ที่ดีๆคืออะไร หลายคนอาจจะอยากทำความดี แต่มันทำดีไม่ได้ ท้ายที่สุดถูกนโยบายพรรค ถูกอะไรต่างๆ มันก็ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแปลง ปรับตัวเอง ก็เลยเสียไปทั้งหมด ผมไม่ได้รังเกียจนักการเมือง หากใครมาแสดงบทบาทว่าจะร่วมกันพัฒนาประเทศ ทำเพื่อประเทศชาติ เราจะไม่ทำการเมืองแบบเดิมๆ ผมก็ยินดีกับทุกคน จะมาอยู่ตรงไหนก็อยู่ไปเถอะ วันหน้าเขาเลือกตั้งมาเป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องหาคนที่จะทำให้การทำงานเดินหน้าไปได้ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะส.ส.ต้องรับผิดชอบดูแลทุกข์สุขให้ประชาชน ฉะนั้นก็ต้องดูแลส.ส.ทั้งสองฝ่าย ในเรื่องการจัดทำแผนโครงการให้เกิดความทั่วถึงลดความเหลื่อมล้ำ”


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"