Global Wellness Institute รายงานว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศไทยติดอันดับ 13 ของโลก สามารถสร้างรายได้มากกว่า 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ The International Healthcare Research Center (IHRC) ระบุว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ของประเทศไทยติดอันดับ 6 ของโลก โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ร้อยละ 38 ของจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในภูมิภาคเอเชียทั้งหมด และตลาดมีแนวโน้มเติบโตราวร้อยละ 14 ต่อปี
แม้อยู่ในสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 แต่กลับเป็นโอกาสบางอย่างสำหรับธุรกิจบริการทางการแพทย์และการท่องเที่ยว ซึ่งล่าสุดรัฐบาลมีนโยบายให้ต่างชาติ ที่เป็น"นักท่องเที่ยวกลุ่มพิเศษ"สามารถเข้าประเทศได้ แต่ต้องกักตัว 14 วัน และสามารถพำนักในประเทศไทยได้นานถึง 9เดือนหรือ 270 วัน
ด้วยมุมมองในเรื่องของโอกาสการบริการทางการแพทย์และสุขภาพ ที่ประเทศไทยมีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้บริษัท มั่นคง เคหะการ จำกัด(มหาชน) บริษัทที่ดำเนินธุรกิจ ด้านอสังหาริมทรัพย์ มายาวนาน60ปี เบนเข็มหันมาทำธุรกิจภาคบริการด้านสุขภาพ โดยจับมือร่วมกับศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ผู้นำด้าน Medical & Wellness Tourism พร้อมกับ บริษัท ไมเนอร์ โฮเทล์ ผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการโรงแรม ที่พัก เปิดตัวบริการใหม่" ไวทัลไลฟ์ @บางกระเจ้า" หรือ"โครงการรักษ "ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวมแห่งแรกในเอเชีย
นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทมั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวว่า เมื่อบริษัท มีการเปลี่ยนแปลงทีมผู้บริหารในช่วง5ปีที่ผ่านมา ทำให้เปลี่ยนมุมมองการหารายได้ ว่าควรกระจายการหารายได้ ไปที่ธุรกิจด้านการเช่าและบริการมากขึ้นนอกเหนือจากธุรกิจอสังหาฯ และธุรกิจภาคบริการสุขภาพ มีความน่าสนใจมาก เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพและจุดแข็งด้านการแพทย์และสุขภาพ ระดับแนวหน้าในเอเชียเมื่อนำมาผนวกกับด้านการท่องเที่ยว จึงถือว่ามีจุดแข็งอย่างมาก ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าให้โครงการ" ไวทัลไลฟ์ @บางกระเจ้า" หรือ"โครงการรักษ "เป็นระดับเวิลดิ์คลาส ซึ่งการเป็นระดับโลกได้ ต้องมีพาร์ทเนอร์ที่เป็นระดับโลกด้วยเช่นเดียวกัน และเราได้ไมเนอร์ ที่เป็นจุดแข็งธุรกิจบริการด้านดูแลแขกและที่พักระดับโลกมาเป็นพาร์ทเนอร์โครงการ และได้ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ผู้นำด้าน Medical & Wellness Tourism มาเป็นหุ้นส่วนสำคัญ
"บริษัทเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจสุขภาพค่อนข้างมาก เนื่องจากมีแผนส่งเสริมจากภาครัฐที่ชัดเจน ตลอดจนเรามียุทธศาสตร์ที่จะพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืน ในด้านธุรกิจเพื่อเช่าและบริการ ในสัดส่วนกำไร 50/ 50 เมื่อเทียบกับกำไรในธุรกิจทั้งหมด ซึ่งโครงการรักษ (รัก-ษะ) ถือว่าเป็นจิ๊กซอว์ ชิ้นสุดท้ายตอกย้ำวิสัยทัศน์ของเราที่ตั้งเป้าไว้เมื่อ 5ปีก่อน"
นางสาวดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงไลฟ์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการรักษ กล่าวว่า โครงการรักษะ ตั้งอยู่ในพื้นคุ้งที่บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ ความโดดเด่นของรักษ อยู่ที่ เป็นการให้บริการทางการแพทย์เชิงป้องกันแบบองค์รวม ครอบคลุมในทุกศาสตร์ ทุกมิติ ผสมผสานการแพทย์สมัยใหม่ในมาตรฐานสากล ร่วมกับศาสตร์การแพทย์แบบองค์รวม ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
"เรามีโปรแกรมดูแลสุขภาพ ตั้งแต่การเช็คสุขภาพ แพ็กเกจการดูแลสุขภาพแบบ 3วัน จนถึง14 วัน เพื่อตอบโจทย์สุขภาพแต่ละบุคคล ด้วยโปรแกรมหลากหลาย เช่น การดูแลสุขภาวะระบบทางเดินอาหาร การเสริมภูมิคุ้มกัน การดูแลน้ำหนัก การผ่อนคลายความเครียด หรือการดูแลด้านสุขภาพและความงาม"
ภญ. อาทิรัตน์ CEO บำรุงราษฎร์
ภก.หญิงอาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ผู้อำนวยการด้านบริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า การร่วมผนึกกำลัง ของมั่นคงเคหะการ ไมเนอร์ และไวทัลไลฟ์ ของบำรุงราษฎร์ ถือเป็นอีกก้าวของความสำเร็จในการริเริ่มโครงการขนาดใหญ่ระดับประเทศและเอเชีย ซึ่งการจะทำโครงการแบบนี้ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากพันธมิตรที่ดีเยี่ยม และมีวิสัยทัศน์ในทิศทางเดียวกัน เพื่อนำพาการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพของไทยไปสู่ระดับสากล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายระดับประเทศ ที่ต้องการยกระดับให้ไทยกลายเป็น Medical & Wellness Resort of the World ซึ่งในช่วง10ปีที่ผ่านมาประเทศไทยเติบโตตัวเลขระดับสองหลักมาโดยตลอด
"เรามีหัวใจหลัก3ประการ คือ 1. TOTAL PERSONALIZATION คือ การดูแลสุขภาพโดยออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคล เพื่อความแม่นยำในการดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เนื่องจากแต่ละคนมีพันธุกรรม มีสภาพร่างกาย รวมถึงไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน 2. SCIENTIFIC BASED คือ การยึดหลักทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ อธิบายถึงที่มาที่ไปได้ ในกระบวนการรักษา และการดูแลสุขภาพ และ 3. TRUSTWORTHY PARTNERSHIP คือ เป็นพันธมิตรที่วางใจได้ ทั้งหมดนี้ เราพัฒนาต่อยอด เพื่อสร้างความแตกต่าง ภายใต้ชื่อบริการใหม่ว่า “ไวทัลไลฟ์ @บางกระเจ้า” เพื่อให้เป็น Medical & Wellness Retreat แห่งแรกในประเทศไทย ที่ผสมผสานระหว่างการแพทย์ตะวันออกและแพทย์ตะวันตก รวมถึงผสมผสานระหว่าง medical และ lifestyle modification เข้าด้วยกันอย่างลงตัว”
การให้บริการเป็นอย่างไร
ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ บางกระเจ้า และผู้อำนวยการด้านปฏิบัติการ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ให้รายละเอียดว่า ขอเปรียบเทียบสุขภาพของมนุษย์เรากับต้นไม้ เริ่มจากทุกคนจะมีเมล็ดพันธุ์ของตัวเอง และมีพันธุกรรมที่แตกต่างกัน บางคนมีพันธุ์ของโรคต่างๆ บางคนมีพันธุ์ของโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคไขมัน โรคหัวใจ ซึ่งส่วนนี้จะอยู่ในพันธุกรรมอยู่แล้ว และเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งจากเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ กว่าจะเติบโตขึ้นมานั้น จำเป็นจะต้องมีน้ำ มีดิน มีปุ๋ย ที่ใส่เติมเข้าไป เปรียบได้กับร่างกายของเรา สิ่งที่เราเติมเข้าไป มี 2 ส่วน คือ Lifestyle factor และ External factor
นพ. นรินทร สุรสินธน
โดยในส่วน Lifestyle factor ก็คือเรื่องของอาหาร สารอาหาร หรือวิตามินต่างๆ ที่เรากินนั้น การออกกำลังกาย การพักผ่อนนอนหลับที่เหมาะสม การจัดการกับความเครียด ซึ่งก็เปรียบเหมือนปุ๋ย ที่จะใส่เข้าไปในเมล็ดพันธุ์ และอีกด้านหนึ่งก็คือ External factor เปรียบได้กับ ดิน น้ำ ที่อาจมีสารพิษปะปน มีโลหะหนัก มี PM 2.5 หรือแม้กระทั่งโรคระบาด อย่างโรคโควิด-19 ก็ถือเป็นปัจจัยภายนอก ซึ่งจะเข้ามาทำให้ภายในร่างกายของเราเกิดการเปลี่ยนแปลง และอาจส่งผลกระทบถึงพันธุกรรมของเราได้
นพ.นรินทรกล่าวต่อว่า ในส่วนเมล็ดพันธุ์ที่จะงอกเติบโต ก็ต้องหมั่นดูแล เปรียบได้กับเรื่องของฮอร์โมน การกำจัดสารพิษ การดีท็อกซ์ร่างกาย ระบบทางเดินอาหาร ความจำ สมอง ความอ่อนล้า เรื่องของกระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ และเรื่องภูมิคุ้มกัน เป็นต้น ซึ่งจะมีหน้าที่เข้ามาช่วยปรับปรุงฟังก์ชั่นภายในก่อนที่จะเกิดอาการหรือสัญญาณเตือนต่างๆ
"บางคนมองว่า การที่ท้องผูกหรือท้องเสียนิดหน่อย เป็นเรื่องปกติ หรือบางคนมองว่าการเป็นไมเกรน ไม่สามารถแก้ไขได้ หรือบางคนมักมีอาการง่วงตอนบ่ายๆ รู้สึกอ่อนเพลีย เป็นเรื่องปกติ ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ปกติ และสามารถจัดการดูแลได้ ด้วยวิธีการดูแลเชิงป้องกัน ซึ่งเป็นเทรนด์การดูแลสุขภาพในปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งมีความคุ้มค่ามากกว่าการรักษาตัวจากอาการเจ็บป่วยในภายหลัง"นพ.นรินทร กล่าว
จากคอนเซ็ปต์นี้ ไวทัลไลฟ์ ได้พัฒนา 9 โปรแกรมในการดูแลสุขภาพ อาทิ โปรแกรมการดูแลทางเดินอาหาร หรือโปรแกรม Gut Health Program สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหาร อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ขับถ่ายไม่ดี, โปรแกรม Immune Booster สำหรับคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือคนที่ติดเชื้อบ่อยๆ รวมถึงคนที่เป็นภูมิแพ้, โปรแกรม Detox ที่จะทำการตรวจหาว่ามีโลหะหนัก มีสารพิษในร่างกาย มีการอักเสบของร่างกาย ซึ่งเป็นต้นเหตุของความแก่ชรา และโรคภัยต่างๆ โดยจะสามารถกำจัดสารพิษเหล่านี้ออกไปได้ หรือโปรแกรม Mobility สำหรับคนที่มีอาการปวดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ ถูกดีไซน์ขึ้นมาเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ความดัน ไขมัน หัวใจ หรือโรคต่างๆ
"เรายังมีไลฟ์สไตล์โค้ช ให้คำปรึกษาแนะนำในการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ รวมถึงให้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสุขภาพตนเองมากยิ่งขึ้น อันดับแรกคือ เรื่องของอาหาร ทางรักษจะเป็นฝ่ายจัดเตรียมตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบอาหารที่ปลอดสารพิษ รวมถึงมีเชฟและนักโภชนาการ มาร่วมให้คำแนะนำในทุกมื้อ ซึ่งแค่เพียงยารักษาโรค หรือการฟื้นฟูร่างกายเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ จึงจำเป็นที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของตัวเอง"นพ.นรินทรกล่าว
3 พันธมิตร
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |