ฟ้อง "ผู้กองบอย" เจตนาฆ่าเมีย ชักปืนพกจ่อหัวก่อนปืนลั่นกระสุนทะลุกะโหลกไปตุงสะบักขวา จำเลยปฏิเสธ ขอสู้คดี ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานสองฝ่าย 19 ต.ค.นี้
    เมื่อวันที่ 15 กันยายนนี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง หรือ “ผู้กองบอย” อายุ 29 ปี รอง สว.สส.สน.วังทองหลาง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 
    อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2563 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยได้มีเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยบังอาจใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 หมายเลขทะเบียน กท. 54289016 ซึ่งเป็นอาวุธปืนของจำเลยตามกฎหมาย จ่อกดไปที่ศีรษะของ น.ส.พิมชฎาพร ภูแย้มใสย์ หนือน้องนิ่ม อายุ 30 ปี ภรรยาซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เพื่อข่มขู่โดยจำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าหากกระสุนปืนลั่นออกมาจะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จึงเป็นเหตุให้มือของผู้ตายไปถูกอาวุธปืนดังกล่าวและทำให้อาวุธปืนลั่นออกมา 1 นัด เป็นเหตุให้กระสุนปืนถูกที่ศีรษะของ น.ส.พิมชฎาพร ถึงแก่ความตาย มีบาดแผลทางเข้ากระสุนปืนบริเวณขมับข้างซ้าย ห่างแนวกลางศีรษะ 8 เซนติเมตร ต่ำจากส่วนบนศีรษะ 7.5 เซนติเมตร แผลฉีกขาดขอบรุ่งริ่งหลายแฉกรูปดาว ขนาดพื้นที่ 6x4.2 เซนติเมตร พบคราบเขม่าดินปืน ติดภายในบาดแผลและเนื้อเยื่อรอบๆ ลักษณะยิงประชิดปากกระบอกปืนกดกับผิวหนัง 
    กระสุนปืนทะลุเข้ากะโหลกศีรษะขนาดรูทางเข้า 2.5x1.4 เซนติเมตร ทะลุผ่านสมอง และทะลุเข้าช่องอก ผ่านกระดูกสะบักข้างขวาเข้าไปฝังในกล้ามเนื้อ วิถีกระสุนจากซ้ายไปขวา บนลงล่าง หน้าไปหลัง มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณหัวตาข้างซ้ายขนาด 3.2x0.8 เซนติเมตร พบรอยช้ำใต้หนังศีรษะ บริเวณด้านบน ขนาด 5x4.5 เซนติเมตร กะโหลกศีรษะบริเวณทางเข้าแตกร้าวตามรอยประสานถึงด้านข้างขวา กระสุนปืนทะลุสมองกลีบข้างซีกซ้าย ผ่านกะโหลกแอ่งกลางซีกซ้าย มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นในทั้งสองข้าง กระสุนปืนทะลุผ่านกล้ามเนื้อลำคอด้านหลังกระดูกสันหลังเฉียงมาทางข้างขวา พบเลือดในช่องเยื่อหุ้มปอดด้านขวา 500 ซีซี และกระสุนปืนทะลุกระดูกซี่โครงด้านขวาซี่ที่ 2 ถึง 4 ด้านหลังหัก และทะลุปอดขวากลีบบนและกลีบกลาง ทะลุสะบักข้างขวาเข้าไปฝังในกล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาฆ่าของจำเลย  
    เหตุเกิด ทาวน์เฮาส์ เลขที่ 128 แยก 7 หมู่บ้านเสนาวิลล่า ถนนแฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
    ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา และประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ อ.2325/2563
    จากนั้นศาลได้สอบคำให้การ ร.ต.อ.ทรงกลด จำเลย ซึ่งได้รับการประกันตัววงเงินประกัน 5 แสนบาท ระหว่างฝากขัง โดยอ่านและอธิบายคำฟ้องให้ฟังจนเข้าใจแล้วสอบถาม ปรากฏว่าจำเลยแถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายวันที่ 19 ต.ค.นี้ เวลา 13.30 น.
    ภายหลังศาลอาญา สอบคำให้การ ร.ต.อ.ทรงกลด จำเลยแล้ว ร.ต.อ.ทรงกลดได้เดินทางกลับทันที เนื่องจากได้รับการประกันตัวระหว่างฝากขัง ที่ศาลอาญาตีราคาประกันไว้ 5 แสนบาท โดย ร.ต.อ.ทรงกลดไม่ต้องยื่นขอประกันตัวใหม่ จนกว่าศาลอาญาจะมีคำพิพากษาจำคุก และต้องยื่นประตัวใหม่อีกครั้งระหว่างอุทธรณ์คดี หากศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้กองบอย ขณะนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน และอยู่ระหว่างตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง.