15 ก.ย. 2563 นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยอมรับว่าการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ยังมีการจัดเก็บรายได้ในส่วนอื่น ๆ ที่ทำได้สูงกว่าเป้าหมายเข้ามาชดเชย เช่น รายได้จากรัฐวิสาหกิจ ขณะที่เงินคงคลังมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท เมื่อรวมแล้วก็เป็นไปตามเป้าหมาย ไม่มีปัญหาในการดูแลเศรษฐกิจ สามารถปิดหีบได้ลง และถังก็ไม่แตก ถังยังดีอยู่
ส่วนเรื่องงบประมาณรายจ่ายปี 2564 นั้น คาดว่าจะล่าช้าเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ไม่มีผลกระทบอะไร โดยเฉพาะกับภาพรวมการลงทุนของรับบาล เพราะการลงทุนจะมีกระบวนการประมูลงานซึ่งจะใช้เวลา 2-3 เดือนอยู่แล้ว ดังนั้นแม้งบประมาณปี 2564 ล่าช้าก็ไม่มีปัญหาในส่วนนี้
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่างบประมาณของรัฐบาลมีความล่าช้า 2 ปีติดต่อกัน คือปีงบประมาณ 2563 ที่ล้าช้า 8-9 เดือน และปีงบประมาณ 2564 ที่ล่าช้า 1 เดือน มองว่าเป็นเรื่องที่นอกเหนือการควบคุม แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวก็ไม่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลในการส่งเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และการลงทุน เพราะช้าเดือนเดียวไม่มีผลกระทบอะไร โดยกระบวนการขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา ส่วนเรื่องความวุ่นวายทางการเมือง จะมีผลต่อการพิจารณางบประมาณหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ ผมทำหน้าที่เป็นข้าราชการ ก็ทำงานและรับผิดชอบในหน้าที่ของข้าราชการกระทรวงการคลัง ส่วนประเด็นอื่น ๆ ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง
“ปีนี้ยอดจัดเก็บต่ำกว่าเป้าหมายเป็นเรื่องปกติ ส่วนปีหน้าหากรัฐบาลมีการเปิดกิจกรรมประเทศเร็วขึ้นทุกอย่างก็จะดีกว่าปีนี้ เพราะปีนี้ไทยปิดการเข้าออกประเทศตั้งแต่ ก.พ. ยาวจนมาถึงปัจจุบัน ภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมานาน แต่ปีหน้า เชื่อว่าจะมีวัคซีนออกมา สถานการณ์ทุกอย่างก็จะดีขึ้น ที่มองว่าแย่อยู่ในตอนนี้ก็จะดีขึ้นเอง เหมือนตัวเลขส่งออกที่ช่วงแรกประเมินว่าจะแย่มาก แต่จริง ๆ ออกมาลดลงไปแค่ 9% ถือว่าดี ขณะที่ราคาน้ำมันก็หายไปเกินกว่าครึ่ง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ไทยขาดแค่เรื่องเดียวคือเรื่องท่องเที่ยว ถ้าทำให้เกิดได้ หรือเปิดให้ประเทศที่ไม่มีการติดโควิด-19 แล้วเข้ามา เช่น จีน ไต้หวัน เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ และอังกฤษ เป็นต้น เข้ามาก็จะทำให้เกิดเงินสะพัดลงสู่เศรษฐกิจฐานราก เราต้องคิดเพราะถ้าไม่มีรายรับเข้ามา มีแต่รายจ่าย คือกู้อย่างเดียว จะเหมือนดินพอกหางหมู ดังนั้นจะต้องทำให้บาลานซ์” นายประสงค์ กล่าว
นายประสงค์ กล่าวถึงกรณีการจ่ายเบี้ยคนชราและคนพิการที่ล่าช้า ว่า ไม่อยากให้มองโลกในแง่ร้ายว่ารัฐบาลมีปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะจริง ๆ เป็นการจ่ายที่ล่าช้าแค่อาทิตย์เดียว ซึ่งเกิดจากกระบวนการทางงบประมาณที่ต้องนำงบส่วนอื่นมาชดเชย และการคำนวณจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในรายละเอียดไม่ได้มีผลกระทบอะไร ยังสามารถเบิกจ่ายได้เหมือนเดิม ส่วนในเดือน ต.ค. 2563 ที่จะมีการปรับเพิ่มเบี้ยคนชรานั้น ยืนยันว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอ ไม่มีปัญหาในส่วนนี้อย่างแน่นอน โดยในปีงบประมาณ 2564 รัฐบาลเตรียมงบประมาณในส่วนนี้ไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว
อย่างไรก็ดี ในส่วนเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของปีงบประมาณ 2564 ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนเหมือนที่ยื่นสภา แต่เมื่อถึงเวลามีเหตุการณ์เปลี่ยนแปรงอะไร ก็สามารถปรับปรุงให้สอดคล้องและเหมาะสมได้ แต่ต้องดูเป็นช่วง ๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |