Www.thaipost.net ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" Line ID:@thaipost ในเวลาแบบนี้ ยังมีคนฝ่ายรัฐบาลคิดจะทำตัวยึกยัก จะช่วยยื้อหรือช่วยแตกหักก็ดูเอาเถิด เมื่อการเรียกร้องของประชาชนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในกระแสสูง แต่มีความเห็นต่างกันบ้าง ในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือแก้ไขบางมาตรา โดย ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็เห็นด้วยที่จะตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ส่วน ส.ส.ฝ่ายค้าน ก็เสนอทั้งตั้ง ส.ส.ร. และแก้ไขรายมาตรา 4 ญัตติ ไปด้วย ซึ่งเป็นทางออกที่ครอบคลุมทั้งสองความเห็น ครอบคลุมทั้งระยะยาวและระยะสั้น กลับปรากฏว่าบางคนมีท่าทีสกัดกั้นต่อไปอีก ...0

            ก่อนหน้านี้ ส.ว.บางคน แสดงท่าทียอมแก้ไขรัฐธรรมนูญตัดอำนาจในการเลือกนายกฯ ของตัวเอง ตามมาตรา 272 แต่พอฝ่ายค้านเสนอ 4 ญัตติ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการตัดอำนาจในการเลือกนายกฯ กลับทำท่าทีงอแง ย้อนแย้งท่าทีเดิมเสียกระนั้น จนมาถึง “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ยื่นหนังสือถึง “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา คัดค้านทั้ง 4 ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของฝ่ายค้าน โดยอ้างมีปัญหาไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มีลายมือชื่อ ส.ส.ซ้ำซ้อนกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 เพื่อเปิดทางตั้ง ส.ส.ร. ขอให้ยับยั้งและส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ...0

            อย่างไรก็ตาม “ชวน” ตอบผู้สื่อข่าวในวันเดียวกันอย่างรวดเร็วทันใจ ยืนยันว่า “เบื้องต้นญัตติที่มีการเสนอมาทั้ง 4 ฉบับ เป็นคนละเรื่องกัน แม้จะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนกัน แต่คนละประเด็นกับ 2 ญัตติแรก ดังนั้น ส.ส.มีสิทธิลงชื่อในแต่ละฉบับได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการซ้ำกัน” จากความเห็นของประธานรัฐสภาตามนี้ เท่ากับ 4 ญัตติ คงน่าจะเดินต่อไปได้ ถ้าผู้เข้าชื่อไม่สะดุดขาตัวเองก่อน เพราะ “ชวน” บอกด้วยว่า “เบื้องต้นพบว่ามีปัญหาการเข้าชื่อ 3 ญัตติ ที่ ส.ส.บางคนมีลายเซ็นไม่เหมือนของตัวเอง จึงต้องตรวจสอบว่าเป็นการเข้าชื่อแทนกันหรือไม่” ...0

            รับทัวร์ลง “จตุพร พรหมพันธุ์” ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เจอมวลชนบางส่วนโวยกรณีปรากฏภาพนั่งกินดื่มร่วมกับ “อานันท์ ปันยารชุน” อดีตนายกฯ พร้อมแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบางคน ในงานวันเกิดของ “ประสาร มฤคพิทักษ์” อดีต ส.ว. เลยต้องกล่าวชี้แจงยืนยันการต่อสู้ของตนเอง ตั้งแต่อดีตและปัจจุบันไม่มีความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว เป็นความเชื่อทางการเมืองที่แตกต่างกันเท่านั้น ในทางส่วนตัวของชีวิตมนุษย์แล้ว ไม่จำเป็นต้องจมอยู่กับความชิงชัง พกแต่ความคับแค้นของกันและกันเสมอไป ...0

            อันที่จริงแกนนำม็อบหรือนักการเมืองบางคนก็เคยเจอกรณีแบบเดียวกันนี้ ที่ถูกมวลชนฝ่ายตัวเองเดือดดาลใส่ หากมีภาพไปพบปะกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ทั้งที่ควรเป็นเรื่องธรรมดาของความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบอบประชาธิปไตย ถึงอยู่ตรงข้ามกันก็ยังคุยกันได้บ้าง ไม่ต้องคิดไกล ดูแค่ในสภา ส.ส.รัฐบาลกับฝ่ายค้าน ต่างขั้วทัศนะความคิดกันมากแค่ไหนอย่างไร ก็ต้องทำงานร่วมกันตลอดเวลา เจอหน้ากันประจำ ไม่ใช่มองหน้าแล้วโมโห ชกต่อยตี ควักอาวุธมาซัดกันให้ตายไปข้างแต่อย่างใด ทำนองเดียวกัน เมื่อเชื่อมั่นในประชาธิปไตย จิตใจมวลชนย่อมต้องยกระดับให้ได้บนพื้นฐานความแตกต่างนี้ ...0

นายชาติสังคม