13 ก.ย.2563 นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุถึงสถานการณ์ทั่วโลก 13 กันยายน 2563 มีเนื้อหาดังนี้
ติดเพิ่มอีก 298,835 คน ตายเพิ่ม 5,266 คน ยอดรวม 28,916,010 คน บ่ายนี้น่าจะทะลุ 29 ล้าน
อเมริกา ติดเพิ่ม 40,153 คน รวม 6,671,030 คน อีก 2-3 วันยอดเสียชีวิตจะทะลุสองแสน
อินเดีย ติดเพิ่ม 94,409 คน รวม 4,751,788 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 33,523 คน รวม 4,315,687 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 5,488 คน รวม 1,057,362 คน จำนวนติดเชื้อรายวันของเค้าเกินห้าพันมาอย่างต่อเนื่อง
ในสิบอันดับแรกของโลก ยอดติดเชื้อรวมของแต่ละประเทศล้วนเกินห้าแสนคน
เปรู โคลอมเบีย เม็กซิโก แอฟริกาใต้ สหราชอาณาจักร อิตาลี เนเธอร์แลนด์ อิหร่าน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ล้วนติดเพิ่มกันหลายพันต่อวัน ที่น่าห่วงมากคือฝรั่งเศส ติดเพิ่มอีกถึง 10,561 คน
หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เมียนมาร์ ติดเพิ่มกันหลักร้อยถึงหลายร้อย ส่วนสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และออสเตรเลีย ติดเพิ่มกันหลักสิบ ในขณะที่จีน และนิวซีแลนด์มีติดเพิ่มกันต่ำกว่าสิบ
...อัตราเร็วในการติดเชื้อตอนนี้ 1 ล้านคนภายในเวลาน้อยกว่า 4 วัน...เร็วกว่าช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมานิดหน่อย
ยุโรปช่วงนี้ขาขึ้นชัดเจน ตัวอย่างเช่น สหราชอาณาจักร หากเปรียบเทียบจำนวนการติดเชื้อเพิ่ม วันอาทิตย์ที่แล้วกับวันอาทิตย์นี้ เพิ่มขึ้นถึง 36%
การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 นี้มาหนักมากและต่อเนื่อง เหมือนเป็นบททดสอบสมรรถนะของคนในการเอาตัวรอด
ความอดทน อดกลั้น อดออม พอเพียง ยืนบนขาตนเอง ลดการพึ่งพา คือหัวใจหลักในการดำเนินชีวิตท่ามกลางวิกฤติเช่นนี้
สถานการณ์ประเทศไทยตอนนี้ มีติดเชื้อภายในประเทศชัดเจน ตรวจพบเป็นสายพันธุ์ G ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดในต่างประเทศทั่วโลก และมีลักษณะที่แพร่ได้ง่ายกว่าเดิม ทั้งนี้โอกาสที่จะหาต้นตอของการแพร่เชื้อในเคสต่างๆ ที่รายงานนั้นค่อนข้างลำบาก ซึ่งก็สอดคล้องกับสถานการณ์ในประเทศอื่นๆ ที่เคยคุมได้แล้วมีการระบาดซ้ำหลังจากแง้มประตูประเทศ
สิ่งที่ประชาชนควรทำตอนนี้คือ การป้องกันตัวเองให้ดี มีสติในการใช้ชีวิต ใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พูดน้อยๆ พบคนน้อยลงสั้นลง เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร อย่าตะลอนเยอะ และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้รีบไปตรวจ
ในขณะที่รัฐ ควรเร่งพัฒนาระบบบริการตรวจโควิดในรูปแบบต่างๆ ให้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย และครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตเมือง
และควรพิจารณาทบทวนนโยบายที่อนุญาตให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ จากต่างประเทศเข้ามา ขอให้เอาเท่าที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น แรงงานบางประเภทหากสามารถโยกมาใช้เป็นตำแหน่งงานสำหรับคนไทยได้ก็จะดี และที่สำคัญที่สุดคือ การยุติหรือชะลอนโยบายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา ไม่ว่าจะรูปแบบพิเศษ รูปแบบเกาะสวรรค์จังหวัดร่ำรวย หรือฟองสบู่ท่องเที่ยวก็ตาม จำเป็นต้องชะลอไปอย่างน้อย 6 เดือนแล้วค่อยประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
จากบทเรียนของต่างประเทศ มักเจอเคสติดเชื้อในประเทศภายใน 4-6 สัปดาห์หลังจากแง้มประตู...ของไทยเราเจอ ณ 6 สัปดาห์พอดี
และหลายต่อหลายที่จะเจอการระบาดซ้ำหลังจากเจอเคสติดเชื้อในประเทศภายใน 2-4 สัปดาห์ ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทั้งประชาชนอย่างพวกเราทุกคน และรัฐ จะร่วมกัน"รวมไทยป้องกันชาติ"
ประเทศไทยต้องทำได้
ด้วยรักต่อทุกคน...
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |