ศบค.ประชุมทุกภาคส่วนทั่วประเทศซ้อมแผนรับมือโควิดระลอก 2 ปลัด สธ.ชี้รอบสองมาได้ตลอดเวลา ยันเอาอยู่ถ้าติดเชื้อไม่เกิน 100 รายต่อวัน เตรียมเพิ่มทีมสอบสวนโรคอีก 3-5 เท่า
เมื่อวันที่ 10 กันยายน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรครายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ประจำวันว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ (ซาอุดีอาระเบีย 5 ราย, อินเดีย 2 ราย) และเข้ากักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมรวม 3,454 ราย กลับบ้านแล้ว 3,310 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้เป็นผู้ที่เดินทางมาจากซาอุดีอาระเบีย 5 ราย ทุกรายมีสัญชาติไทย แบ่งเป็น เพศชาย 4 ราย อายุ 37 ปี ว่างงาน และอายุ 21 ปี, 22 ปี, 35 ปี อาชีพนักศึกษา และเพศหญิง 1 ราย อายุ 35 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางมาเที่ยวบินเดียวกัน ถึงประเทศไทยวันที่ 5 ก.ย.2563 ทุกรายเข้ากักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ในกรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 8 ก.ย. ไม่มีอาการ
เดินทางกลับจากอินเดีย 2 ราย สัญชาติไทย เป็นเพศหญิง อายุ 27 ปี และเพศชายอายุ 2 ปี (เป็นมารดา-บุตร) เดินทางมาเที่ยวบินเดียวกัน ถึงประเทศไทยวันที่ 6 ก.ย. เข้ากักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้ ใน จ.ชลบุรี โดยพักห้องเดียวกัน มารดาเริ่มป่วยวันที่ 7 ก.ย. ด้วยอาการเจ็บคอ มีเสมหะ จมูกไม่ได้กลิ่น หายใจเหนื่อยบางครั้ง ส่วนบุตรไม่มีอาการ ทั้ง 2 รายพบเชื้อจากการตรวจครั้งแรกในวันที่ 8 ก.ย. เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.ชลบุรี
นพ.โสภณกล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ทั่วโลกยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนในเอเชียพบผู้ป่วยต่อเนื่องในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 95,529 ราย และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่ง สธ.ยังคงเข้มมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองป้องกันโรคตามแนวชายแดน และโรงพยาบาลมีความพร้อมทั้งบุคลากร อุปกรณ์ป้องกัน ยาและเวชภัณฑ์ พร้อมให้การดูแลรักษาหากพบผู้ติดเชื้อ ส่วนความคืบหน้าผลการตรวจผู้สัมผัสผู้ต้องขังชายที่พบการติดเชื้อ รวม 1,004 คน พบ 570 คนผลเป็นลบ ที่เหลืออยู่ระหว่างรอผล
ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างแนวทางการปฏิบัติงานในการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อซักซ้อมความเข้าใจแนวปฏิบัติในการบริหารจัดการงานระดับส่วนกลาง และระดับจังหวัด ทั้งภาครัฐและเอกชน จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อกิจการและกิจกรรมของทุกภาคส่วน และเตรียมแผนรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 630 คน
พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า เป้าหมายหลักของการบริหารสถานการณ์ในการป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ใช่การไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศ แต่เป้าหมายคือ สามารถตรวจจับผู้ติดเชื้อโรคได้ ควบคุมการแพร่ระบาดโรคได้ และรักษาโรคได้
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรควิด-19 ทั่วโลกยังคงระบาดรุนแรงและต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทยแม้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ แต่ต้องมีการเตรียมการรับการระบาดในระลอกที่ 2 ทั้งขีดความสามารถของระบบสาธารณสุขไทยที่มีกลไกการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่แบบบูรณาการ ซึ่งมีเจตนารมณ์ในการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นสำคัญ ควบคู่กับปัจจัยด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างเหมาะสม ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดทั้งระดับโลก ระดับประเทศ และระดับพื้นที่
ที่โรงแรมริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “อนาคตสาธารณสุขไทย หลังโควิด-19” ในพิธีปิดการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ประจำปี 2563 ว่า ประเทศไทยมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคระบาดมาตั้งแต่กรณีเกิดโรคซาร์ส ทำให้เมื่อเกิดโรคโควิด-19 เราบริหารจัดการสถานการณ์ด้วยการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชน อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งคิดว่าเราปลอดภัย เพราะอาจเกิดการระบาดระลอก 2 ได้เสมอ เนื่องจากอาจมีผู้ติดเชื้ออยู่ในประเทศ และการลักลอบเข้าประเทศตามแนวชายแดน แต่กระทรวงสาธารณสุขพร้อมจะดูแลพี่น้องคนไทยให้ปลอดภัย มีการตั้งปราการป้องกันผู้ป่วยจากต่างประเทศ มี State quarantine ดูแลผู้ที่เดินทางเข้ามา ขณะที่กรมควบคุมโรคได้กระจายทีมลงไปตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อในประเทศ และผู้ป่วยจากต่างประเทศที่อาจมีการลักลอบเข้าเมือง
นพ.สุขุมกล่าวว่า ประเด็นสำคัญคือ ยังต้องคงมาตรการด้านสาธารณสุขและชีวิตวิถีใหม่ สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง ลดความแออัด ซึ่งจะทำให้สามารถควบคุมการระบาดได้ หากมีผู้ป่วยรายใหม่ไม่เกินวันละ 50-100 ราย ศักยภาพของระบบสาธารณสุขจะสามารถรองรับได้ รวมถึงต้องมีการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้สถานการณ์กลับมาอยู่ในระดับที่ไม่มีผู้ป่วยหรือมีผู้ป่วยในวงจำกัด โดยต้องเน้นการดำเนินงานทั้งการป้องกัน ค้นหา รักษา และควบคุม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่หากติดเชื้อจะมีอาการรุนแรง เพิ่มศักยภาพให้ตรวจวินิจฉัยและรักษาพยาบาลได้มากขึ้น เพิ่มจำนวนทีมสอบสวนโรคอีก 3-5 เท่า ซักซ้อมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เพื่อตอบโต้ภาวะฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว พัฒนาระบบบัญชาการเหตุการณ์ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ระบบการจัดการข่าวสารและการสื่อสารความเสี่ยง ยกระดับการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล มีระบบสำรองเวชภัณฑ์อย่างเหมาะสม การใช้อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ออกแบบแผนกหอผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยนอก เพื่อลดโอกาสสัมผัสเชื้อ ลดความแออัดในโรงพยาบาล นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมศักยภาพ และยกระดับห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาล
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" ร่วมกับศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง "ประชาชนยังกลัวโควิด-19 อยู่หรือไม่" จำนวน 1,315 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ประชาชนร้อยละ 23.04 ระบุว่า กังวลมากต่อการติดเชื้อโรคระบาดโควิด-19 ร้อยละ 36.81 ค่อนข้างกังวล ร้อยละ 16.81 ไม่ค่อยกังวล และร้อยละ 23.34 ไม่กังวลเลย ด้านเหตุผลสำคัญที่ประชาชนเลือกสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 74.98 ระบุว่า กลัวตาย รองลงมา ร้อยละ 9.28 กลัวสังคมรังเกียจ ร้อยละ 7.45 เป็นคำสั่งรัฐบาล ร้อยละ 7.22 กลัวทำให้คนอื่นตาย
อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ ร้อยละ 79.24 ระบุว่า ประเทศไทยสามารถรับมือได้หากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบที่ 2 รองลงมา ร้อยละ 10.95 ไม่สามารถรับมือได้ และร้อยละ 9.81 ไม่แน่ใจ และเมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อความเพียงพอของระบบการแพทย์และสาธารณสุขหากเกิดการแพร่ระบาดรอบที่ 2 ส่วนใหญ่ ร้อยละ 68.14 ระบุว่า มีเพียงพอ รองลงมา ร้อยละ 22.13 ไม่เพียงพอ และร้อยละ 9.73 ไม่แน่ใจ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |