ช่อง7สั่งปลดแพน ยันหนุน'เมาไม่ขับ'


เพิ่มเพื่อน    


    ช่อง 7 ตัดใจปลด "แพน-สุรเกียรติ" พ้นดาราในสังกัด มีผลทันที หลังหมอแท้จริงมีหนังสือให้ลงโทษกรณีเมาขับเฉี่ยวชนรถชาวบ้าน ระบุพฤติกรรมเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถอย่างมาก
    เมื่อวันที่ 10 กันยายนนี้ นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้มีหนังสือถึงนายสมเกียรติ เจริญภิญโญยิ่ง รักษาการกรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เรื่อง ขอให้ลงโทษดาราในสังกัด โดยระบุว่า กรณีนายสุรเกียรติ บุนนาค ดาราในสังกัดสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เมาแล้วขับ ก่อเหตุเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณี แล้วไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวดำเนินคดี ก่อนที่จะมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงถึง 196 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พฤติกรรมของนายสุรเกียรติ บุนนาค เป็นอันตรายต่อประชาชนผู้ขับขี่รถบนท้องถนนเป็นอย่างมาก โชคดีที่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ จากประสบการณ์มูลนิธิเมาไม่ขับได้ทำงานทุกครั้งที่มีศิลปิน ดารา หรือคนบันเทิงในสังกัดใดกระทำความผิดในคดีเมาแล้วขับ ต้นสังกัดจะออกแถลงการณ์และมีคำสั่งให้พักงานศิลปินดาราคนนั้นในกรอบระยะเวลาที่ต้นสังกัดกำหนดอย่างน้อยประมาณ 2 ปี
    กรณีของนายสุรเกียรติ บุนนาค มูลนิธิเมาไม่ขับขอให้ช่อง 7 ได้ปฏิบัติตามแนวทางที่คนในวงการบันเทิงได้เคยดำเนินการมา ทั้งนี้ เพื่อให้ศิลปินดาราคนบันเทิงที่คิดจะละเมิดกฎหมายเมาไม่ขับ จะได้เกิดความตระหนัก ระมัดระวัง ไม่กล้าฝ่าฝืน
    ต่อมา สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 ได้ออกจดหมายมีข้อความว่า จากเหตุการณ์ คุณสุรเกียรติ บุนนาค นักแสดงในสังกัดช่อง 7HD มีกรณีประพฤติผิดกฎหมาย “เมาแล้วขับ” ซึ่ง 'คุณสุรเกียรติ' ยอมรับผิดและรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์และการกระทำที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่อง 7HD ให้ความสำคัญและร่วมรณรงค์ “เมาไม่ขับ” มาโดยตลอด ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของสถานีฯ และแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ช่อง 7HD จึงขอแจ้งยุติสัญญาการเป็นนักแสดงในสังกัดของคุณสุรเกียรติ บุนนาค ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ ช่อง 7HD ขอขอบคุณคุณสุรเกียรติที่ได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนักแสดงในสังกัดด้วยดีมาโดยตลอด
    กรณีของแพน-สุรเกียรติ เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ดาราหนุ่มวัย 27 ปี ขับรถเก๋งชนกระบะ บริเวณใต้ทางด่วนวัดบัวขวัญ ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี แต่ไม่ยอมเจราจากับคู่กรณี ต่อมาตำรวจไปตรวจสอบ แต่นายสุรเกียรติไม่ยอมลงจากรถ และต่อโทรศัพท์ให้ตำรวจคุยกับผู้อ้างเป็นพ่อ บอกว่าตัวเองเป็นพลเอก ขู่ย้ายตำรวจทั้งโรงพักหากไม่ช่วยเหลือ แต่สุดท้ายตำรวจก็ควบคุมตัวนายสุรเกียรติไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ก่อนจะส่งฟ้องศาลใน 2 ข้อหาคือ เมาแล้วขับ และขับรถประมาทเป็นเหตุให้เสียทรัพย์ ซึ่งศาลมีคำพิพากษาลงโทษนายสุรเกียรติ เปรียบเทียบปรับ 11,000 บาท จำคุก 3 เดือน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี โดยให้ควบคุมความประพฤติและบำเพ็ญประโยชน์ 24 ชั่วโมง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"