10 ก.ย.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกล ที่มีผู้ร่วมลงชื่อ ขอถอนชื่อ ว่า ร่างของพรรคก้าวไกลจะมีหรือไม่ ตนไม่ทราบ อยู่ที่ว่าเขายื่นหรือยัง ถ้ายื่นประธานสภาผู้แทนราษฎรก็จะบรรจุสู่วาระพร้อมกันในวันที่ 23-24 ก.ย. ทั้งนี้ข้อบังคับได้กำหนดให้ประธานสภาฯ ต้องบรรจุในระเบียบวาระภายใน 15 วัน อย่างไรก็ตามยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลก็รับทราบดี เวลาพูดถึงรัฐบาลก็หมายถึงพรรคร่วมนั่นแหละ พรรคร่วมรัฐบาลไปคุยกันเองในระดับพรรคการเมือง แต่เขาก็เห็นไม่ตรงกันหมด ซึ่งจะออกมาในทางประนีประนอม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ไม่ได้นำมาพิจารณา
เมื่อถามถึง การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่ยังคงเป็นปัญหาถกเถียงกันอยู่ นายวิษณุ กล่าวว่า จริงๆ ก็ไม่ได้มีการถกเถียง เพราะถ้าใช้ร่างของพรรคเพื่อไทย ก็จะมีส.ส.ร. ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จภายใน 4 เดือน แต่ถ้าใช้ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่มี ส.ส.ร. แต่จะทำให้เสร็จภายใน 240 วัน หรือ 8 เดือน ทั้งนี้ เราต้องดูถึงทัศนะของแต่ละฝ่ายที่แสดงออกมาในร่างรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยมีทัศนะอย่างไรเรารู้จากร่างที่เขายื่น พรรคร่วมรัฐบาลมีทัศนะอย่างไร เราก็รู้จากในร่างของเขา ฉะนั้น คนนั้นพูด คนนี้พูด ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะฟังใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ ต้องใช้เวลาร่างนานใช่หรือไม่ โดยเฉพาะหากตั้ง ส.ส.ร. มาร่าง นายวิษณุ กล่าวว่า ยาวนานแน่นอน เรารู้อยู่แล้ว ถ้าใช้ร่างของพรรคเพื่อไทย เฉพาะร่าง ส.ส.ร. ก็ใช้เวลา 4 เดือน แต่ถ้าใช้ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลก็ใช้เวลา 240 วัน ซึ่งตรงนี้คือระยะเวลาในการร่าง แต่ข้อเท็จจริงจะต้องมีเวลาก่อนหน้านั้น กับระยะเวลาหลัง เช่น ไปเกี่ยวพันกับการทำประชามติ ซึ่งมีขั้นตอนที่สำคัญคือ อันดับแรก จะต้องมีการดำเนินการคู่กันไป คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ที่จะเข้าสู่สภา วันที่ 23-24 กันยายนนี้ ถือเป็นเส้นทางที่ 1 ที่ต้องทำไป ขณะเดียวกัน สมมติว่าเสร็จในวาระที่ 1 วาระ 2 และวาระ 3 ซึ่งก็คงไม่นาน เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็ไปว่ากันอีก แต่มีอีกเส้นทางหนึ่งที่ต้องทำคู่ขนานคือ การจัดทำกฎหมายประชามติ ซึ่งต่อให้พิจารณารัฐธรรมนูญ วาระที่ 3 เสร็จ ก็ต้องทิ้งไว้เฉยๆ เพื่อรอกฎหมายประชามติ ฉะนั้น จึงยังนับหนึ่งไม่ได้ เป็นระยะเวลาที่เกิดขึ้นและยาว
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า สำหรับร่างประชามติ ครม. รับหลักการแล้วเมื่อวันอังคารที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา และได้ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ซึ่งตนได้ถามเลขาธิการกฤษฎีกา ซึ่งได้รับคำตอบว่า จะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งจะพอดีกับที่ปิดสมัยประชุมสภา ฉะนั้น เมื่อเปิดสมัยประชุมวันที่ 1 พ.ย. ร่างกฎหมายประชามติก็จะเข้าสู่สภาได้ สภาก็จะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไปพร้อมกับร่างประชามติ และเป็นการพิจารณาร่วม เพราะร่างกฎหมายประชามติเป็นกฎหมายปฏิรูป จึงต้องเสนอต่อที่ประชุมสองสภา แต่ร่างรัฐธรรนูญจะเสร็จก่อน และเมื่อเสร็จแล้วก็ต้องทิ้งรอไว้ก่อน ซึ่งปกติเมื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วจะนำไปทำประชามติเลย แต่ครั้งนี้จะไปทำประชามติเลยไม่ได้เพราะกฎหมายประชามติยังไม่เสร็จ ตนไม่ทราบว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ จะช้า หรือเร็ว แต่ความจริงมันก็ควรจะเร็ว ตนคิดว่าประมาณ 2 เดือน
จากนั้น รอนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายลงพระปรมาภิไธย เมื่อลงพระปรมาภิไธย และประกาศใช้ก็จะมีผลทันที จากนั้น ก็นำเอาร่างรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านวาระ 3 มาสู่กระบวนการทำประชามติ อย่างไรก็ตาม การทำประชามติจะต้องมีการทำภายใน 90-120 วัน เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) บอกว่า หากทำก่อน 90 วันจะทำไม่ทัน เนื่องจากต้องมีขั้นตอนการพิมพ์และนำไปแจกจ่าย ฉะนั้น เวลาคิด จะต้องคิดเรื่องการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ คือ สายที่ 1 กับการพิจารณากฎหมายประชามติ เป็นสายที่ 2 ซึ่งก็ต้องบวกไว้ 3-4 เดือน เมื่อลงประชามติแล้ว อาจจะต้องบวกอีก 1 เดือน เอาไว้รับรองการประกาศผล การคัดค้าน รอขึ้นศาล เมื่อผ่านทุกอย่างแล้วก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ
นายวิษณุ กล่าวว่า แต่ทั้งนี้ในขั้นตอนมีการระบุไว้ว่า ถ้ามีคนร้อง ก็จะต้องส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญอีก 1 เดือน ซึ่งเขาบังคับไม่ให้ศาลช้ากว่า 1 เดือน เมื่อบวกกับอีก 1 เดือนนี้เสร็จก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ซึ่งการทูลเกล้าฯ ถวายอยู่ในพระราชอำนาจ 90 วัน ก็ต้องบวกเข้าไปด้วยทั้งหมด เมื่อลงพระปรมาภิไธยแล้ว ก็ประกาศใช้ได้ จึงจะเริ่มการตั้ง ส.ส.ร. จาก 200 คน โดยตามร่างกำหนดว่า จะตั้งส.ส.ร. ภายใน 60 วัน ตามร่างของพรรคเพื่อไทย ต้องหา ส.ส.ร. เลือกตั้ง 200 คน แต่ถ้าเป็นร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ก็หา ส.ส.ร. เลือกตั้งเพียง 150 คน ส่วนอีก 50 คนก็อาจจะกำหนดมาจากนู่นนี่นั่น จนครบ 200 คน และพอได้ ส.ส.ร. มา ส.ส.ร. จึงจะเริ่มไปร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าตามร่างของพรรคเพื่อไทยก็ต้องร่างให้เสร็จภายใน 4 เดือน แต่ของพรรคร่วมรัฐบาล 8 เดือน ทั้งนี้ก็สามารถประนีประนอมตกลงกันได้ พบกันครึ่งทางได้ แล้วแต่จะว่ากัน รวมเวลาทั้งหมดก็เป็นปี
ส่วนจะนำไปสู่การทำประชามติอีกหนหนึ่งหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ยังไม่ทราบ เพราะในร่างของพรรคเพื่อไทย ต้องไปทำประชามติอีกครั้งหนึ่ง แต่ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ให้นำเข้ามาสภา ถ้าสภาลงมติเห็นชอบเกินครึ่ง ก็ข้ามการทำประชามติไปเลย แต่หากไม่ถึงครึ่ง ซึ่งตามหลักจะต้องตกไป แต่ไม่ตกเพราะเขากำหนดให้เอาไปทำประชามติ ใน 60 วัน ซึ่งจะต้องบวกไปอีก 60 วัน แต่ส่วนตัวคิดว่า ไปไม่ถึงขั้นนั้น เพราะสภาน่าจะเห็นชอบได้ เมื่อเสร็จแล้วก็ต้องไปเจอศาลรัฐธรรมนูญอีก 1 เดือน ทั้งร่างของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายใน 90 วัน ฉะนั้น ถือว่าได้รัฐธรรมนูญใหม่ ส.ส.ร. ก็จะสลายตัว หลังจากนี้จะทำอย่างไรก็ทำกัน
“แต่ผมเป็นห่วงอยู่นิดเดียวที่มีเสียงพูดออกมาว่า เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้ แล้วยุบสภา ยุบแล้วเป็นอย่างไร ยุบแล้วเลือกตั้งใหม่ใช่หรือไม่ ก็ต้องถามว่าแล้วใครทำกฎหมายลูก เพราะรัฐธรรมนูญที่คุณร่างออกมาใหม่ ถ้าเหมือนของเก่าเปี๊ยบ คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำกฎหมายลูก แต่คำถามคือ คุณไปร่างใหม่หาอะไร คุณร่างใหม่ ก็เพราะคุณต้องการจะเปลี่ยนวิธีเลือกตั้งใหม่ บัตรใบเดียว บัตรสองใบ วุฒิสภา คุณต้องการจะเลิก แล้วถ้าแก้ไม่สำเร็จ คุณก็ต้องมีวุฒิสมาชิกแบบเลือกตั้ง ซึ่งทั้งหมด ก็ต้องทำกฎหมายลูกให้หมด อย่างน้อย 3-4 ฉบับ คือ 1.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 3.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง อย่างน้อย 3 ฉบับ อาจจะมีมากกว่านี้แต่ตนไม่ทราบ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะร่างออกมาอย่างไร ซึ่งตรงนี้ต้องใช้เวลาสภา ฉะนั้น ถ้าจะยุบอย่างที่เรียกร้องกันว่า รัฐธรรมนูญประกาศใช้ใหม่แล้ว ก็ได้ แต่ถ้ายุบแล้วก็ต้องไปเลือก แล้วจะเลือกตามกติกาอะไร เพราะมันไม่มีสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เผลอๆ ตอนนั้นวุฒิสมาชิกก็อาจจะไม่มีด้วย ซึ่งวิธีแก้มันมี แต่ต้องไปคิดให้รอบคอบทั้งหมด ซึ่งก็ต้องให ส.ส.ร. 200 คนคิด เรื่องนี้ตนไม่ได้คิดว่ายุ่งยากอะไร เพียงแต่ต้องคิดเอาไว้ล่วงหน้า มันไม่ยุ่งหรอก เพียงแต่อาจจะยาวนาน” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า การร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะทำอย่างไรให้แก้ไขยากขึ้น เพื่อไม่ให้มาแก้ไขกันอีก โดยจะสามารถอุดช่องโหว่งตรงไหนได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ คนคิดออกเขามีเยอะ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |