กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ คึก นัดบ่ายสอง 19 ก.ย.ชุมนุมใหญ่พร้อมค้างคืน "เพนกวิน" ลุยยึดสนามหลวง-ราชดำเนิน ก่อน 20 ก.ย. เคลื่อนพลบุกทำเนียบฯ โวมีบิ๊กเซอร์ไพรส์เบิ้มๆ ลั่นจะไม่กลับมือเปล่า "กองทัพ" จับตาสถานการณ์ใกล้ชิด

    ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 5 (ปทุมวัน) วันที่ 9 ก.ย. นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ แกนนำสหภาพนักเรียน  นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เข้าพบพนักงานอัยการ หลังพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน นำสำนวนการสอบสวนพร้อมส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีนายพริษฐ์ร่วมกิจกรรมเรียกร้องการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา และร่วมกิจกรรมรำลึกปฏิวัติสยามเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา
    นายพริษฐ์กล่าวว่า วันนี้มาพบพนักงานอัยการตามกำหนดการส่งตัวผู้ต้องหาและสำนวนการสอบสวน แต่ล่าสุดทราบว่ามีหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานไม่แจ้งจัดการชุมนุมที่ สน.บางเขน กรณีเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนไปปราศรัยเรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัวนายอานนท์ นำภา ถึงหน้าโรงพัก และในเย็นวันนี้ตนจะไป จ.ขอนแก่น เพราะทราบว่าถูกหมายเรียกคดีการชุมนุมเหมือนกัน ตอนนี้ตนน่าจะถูกหมายเรียกและหมายจับรวม 15 หมายแล้ว
    "ขอประกาศเลยว่าหากโดนหมายเรียกที่ใดก็จะไปปราศรัยที่นั่น ไม่ว่าจะโรงพักใดก็ตาม ผมจะทำให้เจ้าหน้าที่อยู่ไม่สุข หวังว่าการต้องคดีของผมจะทำให้ทุกคนได้เห็นความอยุติธรรมของการใช้กฎหมาย" นายพริษฐ์กล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีของนายพริษฐ์ครั้งนี้ เบื้องต้นอัยการนัดฟังคำสั่งในวันที่ 11 ก.ย.นี้ แต่เนื่องจากนายพริษฐ์ติดไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาลในวันที่ 11 ก.ย.เช่นกัน กรณีชุมนุมที่หน้าศาลอาญาเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายอานนท์ จึงแจ้งไปว่าจะส่งตัวแทนมารับฟังคำสั่งในวันดังกล่าว
    จากนั้นที่หน้าตึกโดม ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เวลา 15.00 น. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดยนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน, น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล, นายณัฐชนน ไพโรจน์ และนายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก ในฐานะคณะประชาชนปลดแอก ร่วมกันแถลงข่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้
    คณะประชาชนปลดแอก ได้ออกแถลงการณ์การชุมนุม 3 ข้อ 1.ทางแนวร่วมจะจัดการชุมนุมใหญ่ ใช้ชื่อว่า "19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร" ในวันที่ 19 กันยายนนี้ เรียกรวมพลตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยทางแนวร่วมเลือกใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพราะพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นสถานที่สัญลักษณ์ของขบวนการประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน จนถือว่าเป็นป้อมปราการของประชาธิปไตย
    2.หากมีผู้เข้าร่วมการชุมนุมมากจนพื้นที่มหาวิทยาลัยแออัด อาจมีการเคลื่อนขบวนเข้าใช้พื้นที่สนามหลวงเป็นการถัดไป ทั้งนี้ในอดีตสนามหลวงถือเป็นพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้ในการจัดการชุมนุมหรือทำกิจกรรมต่างๆ มาโดยตลอด จึงถือเป็นการยึดสนามหลวงคืนประชาชนไปในตัว นอกจากนี้ยังอาจมีการปิดถนนราชดำเนินกลางเพื่อใช้เป็นพื้นที่ศิลปะและทำกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย โดยรายละเอียดอาจปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
ชุมนุม 19 ก.ย.ยืดเยื้อ
    3.การชุมนุมดังกล่าวจะเป็นการชุมนุมปักหลักข้ามคืน โดยกิจกรรมต่างๆ จะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 14.00 น. ไปจนถึงรุ่งเช้า และจะมีการเดินขบวนต่อต้านเผด็จการไปยังทำเนียบรัฐบาลในวันรุ่งขึ้น (20 กันยายน) โดยจะเริ่มเคลื่อนขบวนตั้งแต่ 08.00 น. เป็นต้นไป จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่จะเข้าร่วมชุมนุมเตรียมสิ่งของเครื่องใช้สำหรับการค้างแรม รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันแดดมาร่วมการชุมนุมด้วย
    "การชุมนุมครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยครั้งสำคัญ โดยจะสำเร็จได้แต่ด้วยพลังของพี่น้องประชาชน จึงขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมการชุมนุมในวันที่ 19 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ขอให้ถนนทุกสายมุ่งสู่ท่าพระจันทร์ ในวันและเวลาดังกล่าว" แถลงการณ์ระบุ
    นายพริษฐ์ให้เหตุผลการชุมนุมที่สนามหลวงว่า หากมีผู้เข้าร่วมชุมนุมมากจนแออัดใน ม.ธรรมศาสตร์ เราจะเคลื่อนเข้าใช้สนามหลวงเป็นที่ชุมนุมแทน เพราะในอดีตที่ผ่านมาเป็นพื้นที่สาธารณะ ประชาชนเข้าไปจัดชุมนุมพักผ่อนหย่อนใจมาตลอด จนกระทั่งมามีการล้อมรั้วในยุค คสช. เราจึงจะทวงคืนสนามหลวงไปในตัว พร้อมขอปิดถนนราชดำเนินกลาง จาก ม.ธรรมศาสตร์ ไปถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ให้เป็นถนนราษฎรดำเนิน ให้ศิลปินมาโชว์งานศิลปะ หรือใครจะตั้งบูธทำกิจกรรมโชว์ต่างๆ ก็ได้
    "การเข้าไปใช้สนามหลวงผมถือว่าเป็นการใช้สิทธิที่ประชาชนคนไทยเคยมี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เป็นที่ให้ราษฎรเข้ามาทำกิจกรรม คนสมัยก่อนจับกบจับเขียดในสนามหลวงได้ ดังนั้นคนรุ่นนี้ต้องไปได้ ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต ส่วนจะชุมนุมพักค้างมากกว่า 1 คืนหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์กันต่อไป" นายพริษฐ์กล่าว
    ถามถึงการติดต่อกับผู้บริหารเกี่ยวกับการขอใช้พื้นที่ชุมนุมใน ม.ธรรมศาสตร์ น.ส.ปนัสยาระบุว่า อยู่ระหว่างดำเนินการแล้ว ขณะที่นายพริษฐ์กล่าวว่า ตนถือว่าคำพูดของนายปรีดี พนมยงค์ และนายสัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตนายกฯ ยืนยันธรรมศาสตร์มีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว เราจะทำให้ธรรมศาสตร์เป็นป้อมปราการประชาธิปไตยของประชาชนต่อไป พื้นที่ตรงนี้มาจากภาษีประชาชนและค่าเทอม เป็นความชอบธรรมในการแสดงออกอย่างสันติ ไม่เคยมีครั้งใดห้ามสำเร็จ นักศึกษาใช้มติมหาชนอนุญาต
    ถามถึงการยืนยัน 10 ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ที่เคยเรียกร้องในการชุมนุมวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา นายพริษฐ์กล่าวว่า ธรรมศาสตร์เราชัดเจนเรื่องเสรีภาพ เราพูดทุกเรื่อง เรื่องสถาบันจะถูกพูดถึงแบบเบิ้มๆ เราทำลายเพดานวันที่ 10 ส.ค. เปิดฟ้ากว้างแล้ว ไม่ยอมให้ใครเอามาปิด 10 ข้อเสนอไม่ใช่ของใหม่ พูดวนมาเป็นสิบปี เชื่อว่าพี่น้องประชาชนเห็นเหมือนเรา มวลชนชี้ขาดชัยชนะครั้งนี้ได้
    "วันที่ 19 ก.ย. จะเป็นวันประวัติศาสตร์ ยกระดับการต่อสู้สร้างแผลให้เผด็จการอย่างไม่รู้ลืม อย่างที่นายอานนท์ นำภา พูดว่ามีบิ๊กเซอร์ไพรส์เบิ้มๆ ผมขอใช้เครดิตการต่อสู้ที่ผ่านมา พี่น้องจะไม่กลับมือเปล่าแน่นอน จะประกาศชัยชนะ ถ้ามากันมากชัยชนะจะยิ่งใหญ่" นายพริษฐ์กล่าว
กองทัพจับตาม็อบ
    ส่วนที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม สวนสันติพร ถ.ราชดำเนิน มูลนิธิพฤษภาประชาธรรมและคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดพิธีการบรรจุอัฐิวีรชนพฤษภา 2535 โดยมีพระสงฆ์ทำพิธีทางศาสนาเพื่อบรรจุอัฐิวีรชน ณ ตัวอนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 2535 ภายในงานมีบุคคลสำคัญทางการเมืองเข้าร่วมงานจำนวนมาก อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.และเลขาธิการพรรคก้าวไกล, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. เป็นต้น
    นายจตุพรกล่าวถึงการชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้ว่า จุดเปลี่ยนให้ดูวันที่ 19 ก.ย.นี้ ความรับผิดชอบอยู่ที่รัฐบาลควรอำนวยความสะดวก ทั้งห้องน้ำ รถพยาบาล คนจะมาล้น ม.ธรรมศาสตร์อยู่แล้ว เทียบกับจำนวนคนที่มาชุมนุมครั้งก่อน แรงเหวี่ยงจากเวทีจากนั้น ทุกอย่างจะหยิบใช้มาเป็นชนวนได้ทั้งสิ้น ตนสนับสนุนข้อเรียกร้อง 3 ข้อของนักศึกษา หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน รัฐบาลต้องรับผิดชอบ สมัยรัฐบาลตนโดนรัฐประหาร 2 ครั้ง ตนเคยเตือนตลอด แต่ไม่เชื่อและรำคาญด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์แต่ละครั้งมีมาก คนเดือดร้อนมาก รัฐบาลต้องคิดรักษาชาติให้รอด ไม่ใช่รักษาตัวเองให้รอด วันที่ 19 ก.ย. จะเป็นจุดเปลี่ยน
    "รัฐบาลและผู้ชุมนุมต้องไม่สร้างเงื่อนไขรัฐประหาร อย่าง นปช.คนเสื้อแดง เรียกร้องไม่ถึง 3 ข้อ ยังตายสูญหายร่วมร้อย บาดเจ็บหลายพัน นับประสาอะไรกับข้อเรียกร้องทะลุเพดาน ผู้ชุมนุมอีกฝ่ายก็คล้ายกับเหตุการณ์ 6 ตุลา อย่างกลุ่มไทยภักดีที่มีลักษณะขวาจัด การแต่งตัวแบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ จะนำไปสู่การรัฐประหารต้องผ่านความตาย ปัจจุบันกำลังทำให้เห็น ถ้าเกิดการรัฐประหาร ผมจะออกมานำต่อต้าน เป็นสัจจะที่ขอยืนยันต่อหน้าอนุสรณ์สถานวีรชนตรงนี้" นายจตุพรกล่าว
    วันเดียวกัน เมื่อวันที่ 9 ก.ย. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวกองทัพเตรียมทำการปฏิวัติรัฐประหารว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ตอบว่าอย่างไร เขาไล่ให้สื่อกลับบ้าน เรื่องนี้ขอให้ไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ เพราะท่านเป็น รมว.กลาโหม เมื่อวานนายกฯ พูดว่าอย่างไร สื่อเป็นคนถามเองก็ทราบดี
    ถามว่ามีความพยายามโยงเรื่องการขนกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อการฝึกของกองทัพบกกับการปฏิวัติรัฐประหาร พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นการฝึกภาคสนามของหน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็วกองทัพบก (อาร์ดีเอฟ)
    ส่วนขณะที่ พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก และเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มประชาชนปลดแอกในวันที่ 19 ก.ย. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ว่า “กองทัพติดตามสถานการณ์อยู่”.