แฟ้มภาพ
9 ก.ย.63 - เฟซบุ๊กเพจ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ปัจจุบันถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้โพสต์ บทสัมภาษณ์ ของนายอานนท์ นำภา ทนายความแห่งศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งออกจากเรือนจำเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 63 หลังพนักงานสอบสวนสน.สำราญราษฎร์ได้ยื่นคำร้องขอยกเลิกการฝากขังคดีการปราศรัยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 63 ภายหลังถูกคุมตัวเข้าเรือนจำเหตุทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากขึ้นปราศรัยที่จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. และที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.
เข้าเรือนจำกี่วันกี่คืน ขณะนี้คดีอยู่ในขั้นตอนไหน
ผมเข้าไปเย็นวันที่ 3 ก.ย. 63 ได้รับการปล่อยตัวเย็นวันที่ 7 ก.ย. 63 รวมเป็น 5 วัน 4 คืน ถููกปล่อยตัวเพราะคดีที่โดนจับ พนักงานสอบสวนยื่นขอถอนคำร้องฝากขัง นั่นหมายความว่า เราไม่ได้ถูกฝากขัง ก็อยู่ในระหว่างการสอบสวนของตำรวจอยู่
-เข้าไปในเรือนจำพบกับใครบ้าง ได้คุยกันอย่างไร
เจอเพื่อนใหม่หลายคนที่เราไม่รู้จัก จากคดีทั่วไป ส่วนคนที่เรารู้จักมักคุ้นกันดีก็มีพี่เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พี่พายัพ ปั้นเกตุ พี่วิภูแถลง พัฒนภูมิไท ทั้ง 3 คน อยู่ในแดน 2 ผมเข้าเรือนจำ พี่เขาก็ดูแลดี หาเสื้อผ้าให้ใส่
จริงๆ ไม่ค่อยได้คุยกันหรอกเพราะเราต้องอยู่ในห้องในเรือนจำ จะมีโอกาสเจอกันบ้างก็ตอนเดินออกมารับของ ได้กินข้าวด้วยกัน ได้พูดคุยเกี่ยวกับการต่อสู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันมากกว่า ซึ่งพี่ๆ ก็เป็นมิตร
-ได้อัพเดทสถานการณ์กันอย่างไร
ได้พูดคุยบรรยากาศข้างนอกให้เขาฟัง เขาก็มีความรู้สึก อย่างพี่เต้นแกบอกว่า แกน้ำตาซึมที่เห็นคนรุ่นใหม่ออกมาต่อสู้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ไม่ลืมการต่อสู้ของคนเสื้อแดง แล้วก็กล่าวถึงการต่อสู้ของคนเสื้อแดงด้วยความเคารพ มันทำให้ประวัติศาสตร์ของคนเสื้อแดงกลับมาเป็นประวัติศาสตร์หลักอีกครั้ง คือ ถ้าไม่มีคนรุ่นใหม่กล่าวถึงประวัติศาสตร์ช่วงปี 53 คนเสื้อแดงก็จะถูกลืมไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาจจะมีแค่ 14 ตุลา พฤษภา 35 แล้วไม่มีอะไรเลย แต่ตอนนี้เป็นหมุดหมายสำคัญว่ามีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นเมื่อปี 53 โดยนักศึกษาเค้าพูดขึ้นมาและให้ความสำคัญกับมัน
-ตอนปล่อยตัวอานนท์ ทำไมอธิบดีกรมราชทัณฑ์จึงมาส่งด้วยตัวเอง
อธิบดีมาพูดคุยทั่วๆ ไปว่าเป็นยังไงบ้าง 4 วันมีใครมาทำร้ายไหม คงไม่อยากให้เราเป็นอะไรในเรือนจำ แล้วตอนจะปล่อย อธิบดีก็บอกว่า เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง ผมมองว่าคงจะเป็นหลักฐานว่าออกไปจากการควบคุมแน่นอนแล้วนะ ไปแล้วก็อย่ากลับมาอีกประมาณนี้ครับ
ผมว่าอธิบดีเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักนะ เป็นคนคุยดีแล้วก็ไม่ถือเนื้อถือตัว
-ได้รับอภิสิทธิ์อะไรมากกว่าคนอื่นหรือเปล่า
ผมได้รับอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่นคือได้อาบน้ำก่อนเพื่อนร่วมห้อง(หัวเราะ) เค้าคงมองว่าเราเป็นเด็กเรียน หน้าตี๋ๆ อะไรแบบนี้ครับ เค้าก็บอกให้อาบน้ำไปก่อน เดี๋ยวพี่อาบต่อ แต่ก็แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันแหละ เห็นกันหมด
นอกจากนั้น คนที่ร่วมห้องก็มาปรึกษากฎหมายเรา เราก็กลายเป็นที่ปรึกษากฎหมายของผู้ต้องขังไปในตัว ก็สนุกดี
ส่วนการปฏิบัติต่างๆ ก็เหมือนกับคนอื่นๆ นอนมีผ้า 3 ผืนเหมือนกัน ผ้าที่เป็นผ้าห่มที่เป็นหมอนรองนอนเป็นผ้าปู 3 ผืนเหมือนกัน กินข้าวก็เหมือนๆ กัน นอนเหมือนกัน
-ปีนี้ครบรอบ 14 ปีรัฐประหาร 19 กันยา 49 อานนท์มองว่ามีความสำคัญอย่างไร
ผมคิดว่านักศึกษาได้เลือกชุมนุมวันนั้น(19 กันยา 63) เค้าเลือกโดยมีนัยยะสำคัญว่า การเมืองของไทยที่เป็นวิกฤตมาจนถึงวันนี้มันเกิดจากการรัฐประหาร 19 กันยา 49 คือการรัฐประหารโค่นรัฐบาลทักษิณและเป็นผลพวงทางการเมืองมาจนถึงทุกวันนี้
ผมคิดว่าครั้งนี้มีความแตกต่างจากครั้งอื่นๆ แล้วก็มีนัยยะสำคัญมากคือ คนที่ตื่นตัวขึ้นมาทางการเมืองส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ในแง่ที่ว่าเป็นคนที่อายุน้อย เป็นเด็กมัธยม แล้วก็มีความงดงามตรงที่มีคนเสื้อแดง มีคนที่มีอายุช่วยเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ไปดูแลลูกๆ หลานๆ
จึงเป็นการต่อสู้ที่งดงามมากระหว่างคน 2 รุ่นที่เชื่อมกันได้อย่างประหลาด คือ โครตรบังเอิญและมันกลมกล่อมในการต่อสู้ อ่านต้นฉบับ
ขอบคุณข้อมูลจากเฟซบุ๊กเพจ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |