รพ.สระบุรีโกลาหล ไวรัสโจมตีระบบล่ม


เพิ่มเพื่อน    


    สธ.ยอมรับ รพ.สระบุรีถูกแฮ็กข้อมูลยังไม่รู้ต้นเหตุมาจากไหน ยังกู้ข้อมูลไม่ได้ ย้ำ รพ.ยังบริการ ปชช.ได้ แต่อาจช้าหน่อย เผยทุก รพ.เฝ้าระวังอยู่แล้ว สำรองข้อมูลไม่เชื่อมโยงทั้งระบบ ปอท.เร่งสืบสวนเส้นทางจราจรคอมพิวเตอร์ล่าตัวคนร้าย ผอ.รพ.สระบุรีแจงถูกแฮ็กข้อมูลคนไข้จริง แต่ไม่มีเรียกค่าไถ่ 6.3 หมื่นล้าน
    เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีไวรัสโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลสระบุรีว่า ทราบว่ามีการแฮ็กมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ตอนนี้ทางโรงพยาบาลพยายามกู้ข้อมูลกลับคืนมาเรื่อยๆ แต่การแฮ็กตรงนี้จะทำให้เข้าถึงข้อมูลที่เราเก็บเอาไว้ และเราไม่สามารถเอากลับมาใช้ได้ จึงต้องใช้ระบบแมนนวลไปก่อน โดยใช้คนเดินแทน เช่น จากเดิมคนไข้เอกซเรย์แล้ว ผลจะส่งกลับมาหาหมอที่ตรวจคนไข้เลย แต่ตอนนี้หลังจากถูกแฮ็ก หมอจะเดินไปดูผลที่แผนกเอกซเรย์เอง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหน่อย ทั้งนี้การให้บริการประชาชนยังทำได้เหมือนเดิม แต่อาจจะล่าช้ากว่าเดิมเพราะเราเข้าไม่ถึงข้อมูลทั้งหมดที่เรามีอยู่
    นพ.สุระกล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขมีศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ แต่ในภาพใหญ่แต่ละโรงพยาบาลจะมีระบบป้องกัน คือจะสำรองข้อมูลเอาไว้ในส่วนที่ไม่ต้องเชื่อมโยงทั้งระบบ เพราะเมื่อไหร่ที่เป็นระบบเชื่อม พอไวรัสเข้าไปก็จะไปบล็อกจุดที่หนึ่ง สอง สาม ซึ่งจะทำให้เราไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ หากเป็นเช่นนี้ก็จะเป็นปัญหา ดังนั้นแต่ละหน่วย แต่ละโรงพยาบาลจะพยายามแบ็กอัพข้อมูลของตัวเองไว้อยู่แล้ว
    เมื่อถามว่าตกลงเราต้องจ่ายเงิน 63,000 ล้านบาทให้คนที่เข้ามาแฮ็กข้อมูลแล้วเรียกค่าไถ่หรือไม่ นพ.สุระกล่าวว่า ยังไม่จ่าย เรากำลังเก็บกู้อยู่ ตอนนี้ทางโรงพยาบาลกำลังขอความร่วมมือจากหน่วยที่เกี่ยวข้อง คือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งเป็นกระทรวงหลักก็เข้ามาช่วยดูด้วย แต่เรายังไม่ทราบรายละเอียดว่าการแฮ็กข้อมูลตรงนี้มาจากไหน อย่างไร แต่ทั้งนี้ได้มีการเตือนซึ่งทุกโรงพยาบาลก็ทราบแล้ว เพราะจะมีกลุ่มไลน์ของ ผอ.โรงพยาบาลหรือหน่วยบริการอยู่แล้ว และหลายที่ก็เคยเกิด แต่ไม่ได้เข้าถึงระบบได้เยอะมาก เพียงแต่เข้าถึงบางส่วน
    เมื่อถามว่าต้องถึงขนาดยกเครื่องระบบเทคโนโลยีของกระทรวงสาธารณสุขใหม่หรือไม่ นพ.สุระกล่าวว่า ไม่ต้องยกเครื่องใหม่หรอก เพราะระบบเดิมมันมีอยู่แล้ว ทุกโรงพยาบาลจะมีระบบการให้บริการคนไข้ มีคนคอยดูแลในระดับหนึ่ง เพราะโรงพยาบาลทุกแห่งก็จ้างนักคอมพิวเตอร์ดูแลระบบเขาอยู่แล้ว
    ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลจังหวัดสระบุรีเพื่อเรียกค่าไถ่ ว่าตอนนี้ตนยังไม่ได้รับรายงาน คงต้องให้หน่วยงานไปตรวจสอบดู และเรื่องเช่นนี้ปัจจุบันมาจากต่างประเทศเยอะ อย่างเช่นเรื่องการพนันออนไลน์ก็มาจากต่างประเทศ
    เมื่อถามว่าต้องวางระบบให้รัดกุมมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ เพราะอาจจะเกิดขึ้นกับโรงพยาบาลที่ขนาดใหญ่กว่านี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขากำลังทำอยู่ ตนจะไปทำอย่างไรคนเดียว ให้เจ้าหน้าที่เขาคิดอยู่
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีโรงพยาบาลสระบุรีโดน Ransomware เรียกค่าไถ่เรียกเงิน 200,000 บิตคอย หรือคิดเป็นเงินไทย 63,000 ล้านบาทนั้น ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองสระบุรีว่า ผู้แทนโรงพยาบาลสระบุรีได้มาแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 05.31 น. ได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใคร อยู่ที่ใด ส่งไวรัส Ransomware voidcrpt เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลสระบุรี ทําให้ฐานข้อมูลผู้ป่วยไม่สามารถใช้งานได้ ภาพสแกนเวชระเบียนผู้ป่วยเสียหายทั้งหมด เครื่องแม่ให้บริการไม่ได้ และระบบเครือข่ายระบบโทรศัพท์สายในให้บริการไม่ได้ โดยคนร้ายได้เรียกค่าไถ่เงินประมาณ 63,000 ล้านบาท เพื่อกู้ให้ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลสระบุรีสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
    รองโฆษก ตร.กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมแจ้งกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เส้นทางจราจรคอมพิวเตอร์และข้อมูลในการกระทำความผิดของผู้ที่ก่อเหตุ ตลอดจนสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
    เบื้องต้นเป็นการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน "เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบและข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง" โดยเฉพาะตามมาตรา 5, 7 แห่ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษจำคุก 1-7 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท ประกอบกับทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษจำคุก 3-15 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-300,000 บาท และอาจจะมีความผิดอื่นๆ อีก
    ขณะที่ นพ.อนันต์ กมลเนตร ผอ.รพ.สระบุรี กล่าวชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียต่างๆ ถึงกรณีที่ รพ.สระบุรีโดนแฮ็กข้อมูลและเรียกค่าไถ่ 2 แสนบิตคอยว่า เบื้องต้นยอมรับว่าระบบคอมพิวเตอร์โรงพยาบาลสระบุรีขัดข้องจากการโดน Ransomware จริง แต่ในเรื่องของการเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 6.3 หมื่นล้านบาทเพื่อให้ได้ข้อมูลคืนนั้นไม่เป็นความจริง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"