9ก.ย.63-นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 4 พร้อมด้วยนพ.อนันต์ กนกศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโรงพยาบาลสระบุรีถูกโจมตีทางไซเบอร์เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2563 โดยไวรัส (Ransomware) โจมตีในหลายระบบ รวมถึงฐานข้อมูลระบบบริการผู้ป่วย ทำให้ไม่สามารถสืบค้นข้อมูลประวัติเก่าหรือให้บริการออนไลน์ได้
นพ.สุระกล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นห่วงต่อการให้บริการประชาชนต้องใช้เวลามากกว่าเดิม ได้สั่งการให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนอุปกรณ์เบื้องต้น เช่น เซิร์ฟเวอร์ ซอฟแวร์ที่จำเป็น เพื่อให้โรงพยาบาลสระบุรีได้สร้างระบบสำหรับให้บริการประชาชนโดยเร็ว ร่วมกับการใช้ระบบ manual ให้บริการผู้ป่วยตามปกติ โดยไวรัสเรียกค่าไถ่ที่โจมตีระบบเป็นการเข้ารหัสล็อกไว้ทำให้โรงพยาบาลไม่สามารถเข้าไปใช้ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ได้ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลด้านสุขภาพจะไม่ถูกดึงออกไปจากระบบสู่ภายนอก แต่อาจเกิดความล่าช้าในการรับบริการ เนื่องจากไม่สามารถเปิดระบบเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ภายในโรงพยาบาล เพราะอาจทำให้ไวรัสระบาดไปสู่ฐานข้อมูลอื่นที่ยังไม่ถูกโจมตีได้ ขณะนี้ได้ประสานผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และมอบให้ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เร่งให้ความรู้ วิธีการ และการป้องกันให้กับหน่วยงานและโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง
“ประชาชนที่ไปรับบริการที่โรงพยาบาลสระบุรี ขอให้นำบัตรแสดงสิทธิการรักษา สำเนาใบส่งตัว บัตรประจำตัวประชาชน บัตรแพ้ยา และใบรายการยาครั้งสุดท้ายพร้อมยาเดิมมาด้วย เพื่อความสะดวกในการรับบริการ และขอให้ทุกหน่วยงานและโรงพยาบาล เข้มนโยบายการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านไซเบอร์ เนื่องจากมีโอกาสถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้ตลอดเวลา จะต้องมีการสำรองข้อมูลไว้เพื่อให้เรียกคืนข้อมูลกลับมาได้” นายแพทย์สุระกล่าว
นพ.อนันต์ กนกศิลป์ ผอ.ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศฯ กล่าวว่า ได้ประสานไปยังศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต : ThaiCERT) ทันทีที่ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลสระบุรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 และได้สนับสนุนอุปกรณ์สำหรับจัดทำระบบข้อมูล แนะนำให้เพิ่มการบริหารจัดการภายใน สร้างความตระหนักแก่ผู้ใช้งานในการป้องกันไวรัส โดยเฉพาะช่องโหว่ที่ทำให้ระบบถูกโจมตีจากภายใน ได้แก่ การนำเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมาเชื่อมกับระบบของโรงพยาบาล การใช้แฮนดีไดรฟ์ อีเมล์ หรือการหาลิงก์จากภายนอกมาใช้ ส่วนการการโจมตีจากภายนอก โรงพยาบาลทุกแห่งมีระบบ Fire Wall ป้องกันอยู่แล้ว
สำหรับการดำเนินการกับผู้โจมตีนั้นได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุข จะจัดตั้งการดูแลเฉพาะในส่วนของด้านสุขภาพ หรือ เฮลธ์เซิร์ต เพิ่มจากไทยเซิร์ต และขณะนี้ได้ออกแบบระบบระบบฐานข้อมูลกลางด้านสุขภาพ มีข้อมูลสุขภาพที่สำคัญ เช่น โรคประจำตัว การแพ้ยา ยาประจำที่ใช้ การรับวัคซีน เป็นต้น โรงพยาบาลสามารถเข้าถึงข้อมูลได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |