9 ก.ย.2563 - การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาเป็นประธานเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมือง โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมเข้าร่วมประชุมพร้อมกับรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายก, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา
ทั้งนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำเสนอญัตติ อภิปรายต่อที่ประชุมถึงวิกฤตทางการเมืองซึ่งมีเยาวชนและนักเคลื่อนไหวช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และเชื่อว่าจะได้รับการขนานนามว่าเป็นนายกฯ ที่ทำให้มีม็อบก่อตัวมากที่สุด ทั้งนี้ขอให้ยกเลิกหมาจับเยาวชนนักเคลื่อนไหวทั่วประเทศ รวมถึงยุติการคุกคามการเคลื่อนไหว การปิดกั้นการแสดงความเห็น เปลี่ยนเป็นการคุ้มครองและรับฟัง อย่างไรก็ตาม ปัญหาในประเทศที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลทั้งด้านเศรษฐกิจรัฐบาลกู้ยืมเงินจำนวนมาก เป็นความเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะล้มละลาย และความสูญเสียศักยภาพทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลพลเรือนวางแผนไว้นั้นหายไปเพราะการยึดอำนาจ และทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะลำบาก นอกจากนั้นปัญหาด้านเศรษฐกิจมีผลสืบเนื่องจากการไม่เคารพสิทธิพื้นฐานประชาชน และเสรีภาพ
“ขีดความสามารถของประเทศด้านการลงทุน ต่อความต้องการของโลก อยู่ที่การจัดสรรเงินและการลงทุนภาครัฐ รัฐบาลต้องคำนึงถึง และคำนึงถึงการบริหารงานที่เน้นเป้าหมายนำกระบวนการ ซึ่งต่างจากผู้นำของทหารที่ใช้กระบวนการนำเป้าหมาย โดยมีตัวอย่างคือ การระบาดโควิด-19 นายกฯใช้กระบวนการส่วนตัวคือ กู้ และกู้ วันนี้หากกำหนดยุทธศาสตร์ต้องมีเป้าหมาชัดเจน หากอะไรที่ไม่ตอบสนองยุทธศาสตร์ต้องยกเลิก เช่น ซีพีทีพีพี เป็นต้น ทั้งนี้ผมมองว่ายุทธศาสตร์ที่ไม่ตอบโจทย์ทำให้เกิดปัญหาด้านการจัดงบประมาณเพื่อแก้ปัญหา ดังนั้นผมมีข้อเสนอแนะ คือ ลดรายจ่ายประจำ ลดจำนวนข้าราชการประจำที่เกินความเหมาะสม เพื่อนำเงินไปลงทุนสิ่งที่มีคุณภาพ กำหนดเป้าหมายประเทศสร้างฐานการผลิตใหม่ตอบสนองความต้องการของโลกตามศักยภาพของประเทศ ต้องเปลี่ยนวิธีงบประมาณ โดยกำหนดเป้าหมาย นำกระบวนการ และเรื่องสำคัญสุดท้ายคือ เคารพสิทธิเสรีภาพและอำนาจของประชาชน เพราะหากประเทศเป็นประชาธิปไตย นักลงทุนจะให้ความเชื่อมั่น ” น.อ.อนุดิษฐ์ อภิปราย
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า การบริหารประเทศของรัฐบาลทำให้ประเทศจมกองหนี้ คนส่วนใหญ่เดือดร้อน มีปัญหาเศรษฐกิจ โดยหลายปัญหาเกินเยียวยา ตนมีข้อเสนอสุดท้ายต่อรัฐบาลถึงนายกฯ ว่า หากต้องการช่วยเหลือประเทศไทยอย่างแท้จริง คือ การลาออก ตามเสียงเรียกร้องของคนไทยทั้งประเทศ
ทั้งนี้ ในการอภิปรายช่วงหนึ่ง น.อ.อนุดิษฐ์ ขออนุญาตต่อที่ประชุมเพื่อชู 3 นิ้วกลางที่ประชุมให้คำมั่นสัญญาและปฏิญาณตนต่อหน้าคนไทยทั้งประเทศ ว่า ขอคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน ใช้รัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อหาทางออกประเทศ ตามข้อเรียกร้องของประชาชน พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่รัฐ ยุติความรุนแรง หยุดคุกคาม และหยุดหมายเรียก รวมถึงต้องยุติรัฐธรรมนูญเผด็จการ โดยตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) คืนอำนาจให้ประชาชน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |