8 ก.ย.63 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "อำนาจชำระคดีบอสของนายกรัฐมนตรี" มีเนื้อหาดังนี้
ถาม เห็นด้วยหรือไม่กับคณะกรรมการตรวจสอบชุดอาจารย์วิชา ที่ว่าการสั่งไม่ฟ้องคดีบอส เป็นผลไม้พิษที่เกิดจากความเน่าเปื่อย ( Corrupt ) ของกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ
ตอบ ชัดเจนว่าเป็นอย่างนั้น เพราะคดีนี้อำนาจทุกระดับถูกบิดเบือนไปเสียทั้งหมดเลยทีเดียว งานที่ต้องทำคือการชำระความผิดทั้งปวง คนผิดต้องถูกลงโทษ ผลไม้พิษคือคำสั่งไม่ฟ้องต้องถูกลบล้างด้วยเหตุทุจริตนั้น ตัวระบบโดยรวมต้องถูกปฏิรูป
ถาม สามงานนี้ เป็นอำนาจความรับผิดชอบของใคร
ตอบ ของนายกรัฐมนตรีครับ ลุงตู่จะทำแค่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนมาเล่าให้สังคมฟัง แล้วรอให้ ปปช., คณะกรรมการอัยการ, ผบ.ตร.และกรรมาธิการสภารับลูกทำงานต่อไปเท่านั้นไม่ได้ มันลูบหน้าก็ปะจมูกกันหมดแล้ว ต้องโค่นต้นไม้พิษนี้ด้วยอำนาจนายกฯเท่านั้น
ถาม ทำไมนายกฯจะอยู่นิ่งๆ ให้ ปปช.ตั้งข้อหา ตำรวจกับอัยการเองไม่ได้
ตอบ พวกนั้นมันแค่องค์กรพิเศษ องค์กรจริงที่รับผิดขอบตรงต่อบ้านเมืองคืออำนาจบริหาร ถ้าเอาจริง สอบจริง กล่าวหาจริง จับจริงฟ้องจริง ทำไมจะทำไม่ได้ นายกฯส่งรายงานสอบสวนให้ ผบ.ตร.พร้อมกับสั่งให้ลงมือกล่าวโทษเจ้าพนักงานทั้งวินัยและอาญาทั้งหมดไปเลย
ถาม ถ้าลงมือทำคดีจริง คนที่โดน ๑๕๗ ก็มีแค่พนักงานสอบสวนที่เปลี่ยนความเร็วรถ จาก ๑๘๐ กม./ชม. เป็น ๘๐ กม./ชม. คนเดียวไม่ใช่หรือ
ตอบ นั่นเป็นตัวการคนที่ ๑ ส่วนคนที่สั่งการ,ร่วมคิดอ่าน,ประสานงานกับสำนักอัยการสูงสุด พวกนี้โดนฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทุจริตทั้งฝูงเลย จะเป็น กรรมาธิการ สนช.,เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่,เป็นผบ.ตร.เกษียณ,เป็นอัยการผู้ประสานงาน ที่มารุมมาช่วยกันเปลี่ยนหลักฐาน ทั้งหมดนี้ก็ผิดทั้งสิ้น ที่เป็นข้าราชการอยู่ ก็ตั้งข้อหาแล้วก็สั่งพักราชการไปด้วยเลย คดีสมคบคิดระดับสูงหลายฝ่ายหลายอำนาจอย่างนี้ ให้ ปปช.รับเหมาไปกวาดล้างไม่ไหวหรอกครับ
ถาม แล้วอำนาจนายกฯจะทำอะไรอัยการได้ครับ ในเมื่อระบบกฎหมายได้ให้เขาเป็นองค์กรอิสระไปแล้ว ที่ผ่านมาคณะกรรมการอัยการ (กอ.) เขาก็ไม่ยอมโหวตให้สอบสวนอัยการสูงสุดและรองอยู่แล้ว แล้วนายกฯจะทำอะไรได้
ตอบ ก็ส่งรายงานสอบสวนไปให้ กอ.ก่อน แล้วขอทราบผลใน ๒ อาทิตย์ พร้อมกันนั้นตั้งคณะทำงานร่างกฎหมายรื้อกฎหมายอัยการเตรียมไว้พร้อมกัน ถ้า กอ.ไม่ยอมทำอะไรให้สมกับความรับผิดชอบ นายกฯก็เสนอกฎหมายรื้อ กอ. ทำลายอิสระที่ไม่รู้จักรับผิดชอบไปเลย ศาลสูงอเมริกาก็เคยโดนประธานาธิบดีทุบจนรู้สึกตัวมาแล้ว ด้วยวิธีรื้อกฎหมายแบบนี้
ถาม แม้ไปถึงขั้นกล่าวหาเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริตได้จริงๆแล้ว แต่ในที่สุด ตำรวจเจ้าของสำนวน ก็ต้องส่งคดีให้ ปปช.อยู่ดีใช่ไหมครับ
ตอบ ระบบมันเป็นอย่างนั้น ถ้าสำนวนแน่นจริงอย่างที่รายงานได้ชี้ช่องไว้ ปปช.ก็เอาขึ้นศาลคดีทุจริตได้ในที่สุด
ถาม นายกฯลุงตู่ จะกล้าใช้อำนาจนี้หรือครับ เพราะเขาเข้ามาเพื่อรักษาความสงบเท่านั้น
ตอบ เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วไม่ยอมรับความรับผิดชอบตามตำแหน่งได้อย่างไร
ถาม อาจารย์ลองอ่านคำยืนยันล่าสุดนี่สิครับ
“......มันต้องมองย้อนกลับไป ผมเห็นชาติเป็นอย่างนี้ไม่ปลอดภัย ผมก็ต้องเข้ามา แล้ววันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ท่านลืมหมดแล้วหรืออย่างไร ผมเข้ามาด้วยอะไร เพราะอะไร ทำไมถึงต้องเข้ามา อย่าลืมสิ...
...ประเทศไทยเราเป็นประชาธิปไตยที่มีรูปแบบของเรา เราไม่ได้มีจากที่อื่น ทำไมต้องทำเหมือนคนอื่นเขาหมด แล้วความเป็นไทยของเราหายไปไหน ถ้าจะเอาชนะคะคานทางการเมือง ผมว่าประเทศชาติมันล่มสลาย ทุกคนจะต้องอยู่บนแผ่นดินนี้ที่ร้อนระอุ ลุกเป็นไฟ ก็ว่ากันไปแล้วกัน ผมก็สุดกำลังสติปัญญาของผมแล้ว ถ้าจะถึงตอนนั้นอีก…”
ตอบ อำนาจนายกฯ ในปีนี้ เป็นอำนาจที่ได้รับมาจาก สภา ไม่ใช่จาก คสช.เหมือน ๕ ปีที่ผ่านมา อำนาจนี้มีหน้าที่ต่อสภา และต่อบ้านเมืองตามที่กระบวนการเลือกตั้งได้ชี้ขาดไว้ เมื่อมีหน้าที่ก็ต้องทำไปให้เต็มที่ว่า ได้รับผิดชอบชำระคดีบอส อย่างไรบ้าง สภาเขาถามเพื่อความไว้วางใจ นายกฯก็ต้องตอบเขาให้ได้ จะบอกว่าผมโผล่มารับงานรักษาความสงบเท่านั้นได้อย่างไร ตอบอย่างนี้ ก็ไม่ต้องรอให้เด็กเขามาไล่หรอกครับ
ถาม แล้วถ้านายกฯทุ่มเทรับผิดชอบจริงๆจังล่ะครับ
ตอบ ความชอบธรรมจะฟื้นคืนมา เด็กก็จะถูกโห่ไล่กลับเข้าห้องเรียนไปเอง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |