“สีลม-สาทร”ครองแชมป์อันดับหนึ่งพื้นที่สำนักงาน


เพิ่มเพื่อน    

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยผลสำรวจทำเลสีลม-สาทร ติดลมบนโซนยอดนิยม ครองอันดับหนึ่งพื้นที่สำนักงานสูงสุด 2.1 ล้านตร.ม. ล่าสุดพบกระแสผุด”โคเวิร์คกิ้งสเปซ”มาแรง พร้อมคาดขยายตัวขึ้นเฉลี่ยปีละ 35%

23 เม.ย. 61-นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยถึงผลสำรวจตลาดอาคารสำนักงานในทำเลกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า ปัจจุบันมีพื้นที่สำนักงานรวมทั้งสิ้น 8.6 ล้านตารางเมตร โดยโซนสีลม-สาทร เป็นโซนยอดนิยมของคนทำงาน มีพื้นที่สำนักงานสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ประมาณ 2.1 ล้านตร.ม. คิดเป็น 24% ของพื้นที่สำนักงานทั้งหมด รองลงมาคือโซนสุขุมวิท 1.7 ล้านตร.ม. คิดเป็น 20% และ โซนรัชดาภิเษก 1.2 ล้านตร.ม. คิดเป็น 14%

 “โซนสีลม-สาทร เป็นย่านสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนวัยทำงานมากมาย และยังเริ่มเป็นทำเลที่มีพื้นที่สำนักงานร่วม ที่เติบโตตามกระแสเศรษฐกิจแบ่งปัน ที่กำลังมาแรงในกลุ่มคนทำงาน ซึ่งพื้นที่โคเวิร์คกิ้งสเปซยังมีแนวโน้มเติบโตทั่วโลกและในไทยล่าสุดในปี 2560 พบว่ามีผู้ใช้บริการทั่วโลก จำนวน 1.74 ล้านราย เติบโตจากปี 2558 เฉลี่ย 83%”นายอนุกูล กล่าว

 และจากข้อมูลของ Global Co-Working Space Unconference Conference ได้วิเคราะห์ว่าภายในปี 2565 จำนวนผู้ใช้บริการ co-working space ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 5.1 ล้านราย ส่งผลให้จำนวนพื้นที่สำนักงานร่วมมีการขยายตัวเพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น จากปัจจุบันในปีนี้ที่น่าจะมีจำนวนพื้นที่สำนักงานร่วมอยู่ที่ 17,725 แห่งและเติบโตเฉลี่ยราว 16% ต่อปีนั้น เพิ่มเป็น 30,432 แห่งทั่วโลกในปี 2565

สำหรับไทยเริ่มมีความต้องการเพิ่มขึ้น ปัจจุบันพบว่ามีพื้นที่ โคเวิร์คกิ้งสเปซ ทั้งหมด 91 แห่งทั่วประเทศ โดย 70% เป็นพื้นที่ที่ให้บริการในกรุงเทพฯ และ 30% ต่างจังหวัด โดยมีอัตราค่าใช้บริการแบบรายวันประมาณ 180 - 500 บาท หรือรายเดือนประมาณ 3,000 - 7,450 บาท ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาธุรกิจมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 35% ล่าสุดพบว่ามีผู้ให้บริการต่างชาติรายใหญ่ เช่น JustCo ได้เข้ามาเปิดให้บริการในทำเล สีลม-สาทร ซึ่งถือเป็นทำเลยอดนิยมของกลุ่มคนทำงาน พนักงานออฟฟิศและสตาร์ทอัพในย่านนี้

อย่างไรก็ตามในส่วนของตลาดที่อยู่อาศัยในย่านสีลม-สาทรนั้น พบว่าเหลือพื้นที่ในการพัฒนาโครงการจำกัด ส่งผลให้มีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยสูง ทั้งความต้องการในการซื้อต่อและความต้องการเช่า โดยในส่วนของตลาดรีเซลมีผลตอบแทนการขายต่อ ประมาณ 4-5% ต่อปี ราคาขายต่อเฉลี่ยประมาณ 230,000 บาทต่อตร.ม.ขณะที่ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า อยู่ที่ประมาณ 4-5% ต่อปี โดยราคาปล่อยเช่าอยู่ที่ 800-1,000 บาทต่อตร.ม.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"