8 ก.ย.63- รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความว่าสถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 8 กันยายน 2563
ติดเชื้อเพิ่ม 181,175 คน รวมแล้ว 27,455,068 คน ตายไปแล้ว 895,830 คน
อเมริกา ติดเพิ่ม 23,567 คน รวม 6,481,241 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 75,022 คน รวม 4,277,584 คน ตายไปอีกเกินพัน
บราซิล ติดเพิ่ม 10,188 คน รวม 4,147,794 คน
รัสเซีย ติดเพิ่ม 5,185 คน รวม 1,030,690 คน
เปรู โคลอมเบีย เม็กซิโก ติดเพิ่มกันถึง 4-6 พันต่อวัน ส่วนแอฟริกาใต้ติดเพิ่มไป 845 คน ทั้งสี่ประเทศมียอดรวมเกินหกแสน และยังเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
สเปน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน อิหร่าน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ยังติดกันเพิ่มหลายพันเช่นเดิม
หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ปากีสถาน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ติดกันเพิ่มหลักร้อยถึงหลายร้อย
ส่วนจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง ออสเตรเลีย และเมียนมาร์ ติดกันหลักสิบถึงเฉียดร้อย ในขณะที่นิวซีแลนด์ยังมีเพิ่มต่ำกว่าสิบ
...ชายแดนไทยด้านตะวันตกและเหนือนั้นน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เมียนมาร์ยังคงมีจำนวนรายงานการติดเชื้อสูง โดยบังคลาเทศและอินเดียก็มีการระบาดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การเดินทางข้ามพรมแดนและลักลอบเข้ามาไทยทางช่องทางต่างๆ จะเป็นปัญหาหนักมากสำหรับทางการไทยในการควบคุมป้องกัน
สิ่งที่รัฐควรดำเนินการนอกจากการตรึงกำลังเฝ้าระวังการลักลอบเข้ามาและการปิดด่านต่างๆ แล้ว จำเป็นต้องระดมทรัพยากรคน เงิน ของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับใช้ในการป้องกันของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนในพื้นที่ และจัดบริการตรวจคัดกรองโควิดทั้งในบุคลากรทุกฝ่ายที่ทำงานในพื้นที่ ผู้ป่วยที่มารับการดูแลรักษา และประชาชนในพื้นที่อย่างครอบคลุม เพื่อให้ตรวจพบได้เร็ว รับการดูแลรักษา และลดโอกาสการแพร่ระบาดได้
นอกจากนี้การใช้เครือข่ายคนในชุมชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา รายงานการพบเห็นของคนต่างถิ่น และการตรวจการคมนาคมขนส่งระหว่างจังหวัด ก็น่าจะช่วยในการตรวจจับการลักลอบเข้ามาของคนต่างด้าวได้
...หากประเมินสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา เราจะพบว่า ตอนนี้ไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการแพร่ระบาดซ้ำของ COVID-19 ดังจะเห็นได้จากปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางต่างๆ ตลอดจนการตรวจพบเคสติดเชื้อภายในประเทศในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีผู้สัมผัสจำนวนมากและอาจยังไม่ได้รับการติดตามครบถ้วนทั้งหมด
ประกอบกับการเห็นรายละเอียดการสอบสวนโรคแล้วพบว่า มีการละเลยเพิกเฉยในการป้องกันตัวตามมาตรฐานที่ทางการกำหนด ทั้งตัวบุคคล และผู้ประกอบการธุรกิจเสี่ยงสูงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญคือ มีการใช้แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายด้วย
...ย้ำอีกครั้งหนึ่งด้วยความปรารถนาดี
การระบาดซ้ำระลอกสองนั้นไม่ใช่เรื่องสนุก
...จะรุนแรง รวดเร็ว ขยายวงกระจาย คุมได้ยาก หาต้นตอได้ยาก และส่งผลกระทบวงกว้างและยาวนาน...
ประชาชน...ใช้ชีวิตอย่างมีสติ รักตัวเองรักครอบครัว ต้องป้องกันตัวเสมอ
เจ้าของธุรกิจ...ถ้าแจ็คพอตมีการติดเชื้อ ท่านจะเสียหายหนัก กู้คืนภาพลักษณ์ลำบาก โปรดเข้มงวด และทำการประเมินกระบวนการทำกิจการของท่านว่าปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ อย่าเห็นแก่การได้แรงงานผิดกฎหมายราคาถูก ได้จะไม่คุ้มเสีย
รัฐ...เป้าหมายหลักคือการป้องกันการติดเชื้อภายในประเทศ และไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำ ขันน็อตระบบการตรวจตรากำกับสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูงอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
ที่สำคัญที่สุดคือ อย่าหลงไปกับกลุ่มธุรกิจการเมืองที่จะผลักดันนโยบายนำเชื้อเข้าสู่ประเทศ ควรยุติการคิดจะนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศ ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม ชะลอไปก่อนอย่างน้อย 6 เดือน
ประเทศไทยต้องทำได้
ด้วยรักต่อทุกคน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |