รัฐประหาร-คิลลิงโซน


เพิ่มเพื่อน    

 

          รัฐประหาร...

            คนพูดไม่ได้ทำ

            คนทำไม่ได้พูด

            ไม่กี่วันมานี้มีการปล่อยข่าวรัฐประหารมาเป็นระยะๆ

            ราวกับว่า สถานการณ์การเมืองกำลังเข้าสู่ คิลลิงโซน

            ประเด็นต่อจากวานนี้....นั่นคือ ได้เกิดขบวนการ สร้างเงื่อนไข ให้ประเทศไทยเข้าสู่มุมอับ

            การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเพียงหมากที่จะนำไปสู่วิกฤติ

            ใช่แล้ว มีคนต้องการให้ประเทศไทยเกิดวิกฤติ

            เพราะมีความเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงในระบบนั้น ไม่อาจเกิดขึ้นจริง

            หรืออาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องกินระยะเวลาที่ยาวนาน

            คนบางพวกรอไม่ไหว!

            แต่ความรุนแรงจะสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ชั่วข้ามคืน หากฝ่ายที่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงมีพลังมากพอ

            เดือนนี้ กันยายน 

            และ ๑๙ กันยายน คือวันครบรอบ ๑๔ ปี รัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙

            มีการตระเตรียมความพร้อมในการชุมนุมระยะยาว จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สู่การยึดพื้นที่สนามหลวง 

            และอาจมีการใช้สนามหลวงเป็นพื้นที่ชุมนุม

            ซึ่งก็มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นเช่นนั้น หากมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมมากพอ

            ทำไมต้องยึดสนามหลวง

            มีคนบางกลุ่มปั่นกระแสว่า สนามหลวง ไม่ใช่ของประชาชน และประชาชนเข้าไปใช้สถานที่ไม่ได้  จึงมีความเชื่อว่าการยึดสนามหลวง คือการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์

            เปลี่ยนสนามหลวงให้เป็นสนามประชาชน

            ในข้อเท็จจริงประชาชนยังสามารถเข้าใช้สนามหลวงได้ปกติ

            แต่ทางกรุงเทพมหานครไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ท้องสนามหลวงเป็นที่ชุมนุมหรือจัดกิจกรรมทางการเมือง

            และสนามหลวงไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักพระราชวังแต่อย่างใด

            การเดินเกมรุกเพื่อบีบให้ทหารทำรัฐประหาร คือความต้องการของคนที่บอกว่าตัวเองอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย เพราะเชื่อว่า การรัฐประหาร จะเป็นการจุดชนวนให้เกิดการชุมนุมใหญ่ และรุนแรงกว่าเดิม

            เมื่อสุกงอมเต็มที่การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้โดยอัตโนมัติ

            นั่นคือสิ่งที่ "เขา" ต้องการ

            ขณะนี้มีความพยายามประโคมข่าวกันว่า หากเกิดรัฐประหารให้ถอนเงินออกจากธนาคาร เพราะแบงก์หนุนรัฐประหาร

            และขณะที่ปล่อยข่าวกันเองว่าจะเกิดการรัฐประหาร "ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์" โฆษกพรรคก้าวไกล ขยายความต่อในโซเชียลว่า

            "ประเทศไทยมีความแน่นอนอยู่หนึ่งอย่าง เมื่อใดที่ประชาชนทนไม่ไหว ข่าวการรัฐประหารมักถูกปล่อยออกมาเสมอ ความแตกต่างของกระแสข่าวการรัฐประหารในช่วงเวลานี้กับในอดีตที่ผ่านมา คือไม่มีใครรู้สึกหวาดกลัวต่ออำนาจปลายกระบอกปืนอีกต่อไป ผมขอเรียกสัญญาณนี้ว่า สัญญาณแห่งความจนมุม สัญญาณของคนขี้ขลาดตาขาว"

            "หากมีการยึดอำนาจเกิดขึ้นเชื่อเหลือเกินว่า สิ่งที่ท่านไม่เคยได้เห็นก็จะได้เห็น เมื่อไรที่ตัดสินใจยึดอำนาจ วันนี้ท่านจะได้เห็นพลังของประชาชนที่ลุกขึ้นและไม่ยินยอมน้อมรับอำนาจนั้นอีกต่อไป

            ละครเรื่องเดิมที่เคยดูว่า ตลอด ๘๘ ปีวันนี้จะไม่จบแบบเดิมอีกต่อไป ไม่มีประเทศพัฒนาแล้วประเทศไหนที่การทหารนำการเมือง"

            ครับ....ยังไม่มีสัญญาณรัฐประหาร และหากเกิดรัฐประหาร ก็เท่ากับรัฐประหารตัวเอง ซึ่งยากที่จะได้รับการยอมรับแม้กระทั่งจากกองเชียร์ลุงตู่เอง แต่...พรรคก้าวไกล ไปไกลแล้ว

            ขบวนการ มโนเอง ชงเอง กินเอง จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันที่ ๑๙ กันยายน เพื่อปลุกระดมคนให้ได้มากที่สุด

            สร้างเงื่อนไขสู่รัฐประหาร หวังจะเปลี่ยนแปลงชั่วข้ามคืน

            แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงชั่วข้ามคืน อาจกลับกลายเป็นการพาตัวเองเข้าสู่คิลลิงโซนของคนบางกลุ่ม

            เพราะประชาชนรู้ทันว่า นี่คือการแหกตาสร้างประชาธิปไตย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"