7 ก.ย. 63 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "สถานการณ์ทั่วโลกล่าสุด 7 กันยายน 2563 อันดับโลกเปลี่ยนแปลงแล้ว...อินเดียแซงบราซิลขึ้นที่ 2
ทั่วโลกติดเพิ่มอีก 232,043 คน รวม 27,273,893 คน ตายไปแล้วถึง 887,079 คน อเมริกา ติดเพิ่ม 28,872 คน รวม 6,457,674 คน อินเดีย ติดเพิ่มทำลายสถิติโลกอีกครั้ง 91,723 คน ตายเพิ่มกว่าพัน รวมแล้ว 4,202,562 คน บราซิล ติดเพิ่ม 14,606 คน รวม 4,137,606 คน รัสเซีย ติดเพิ่ม 5,195 คน รวม 1,025,505 คน
เปรู โคลอมเบีย แอฟริกาใต้ เม็กซิโก ยังเกาะอันดับเรียงกันมา ติดเพิ่มวันละหลายพัน รวมแล้วหกแสนกว่าทั้งสิ้ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี อิหร่าน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ล้วนติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายพัน หลายประเทศในยุโรป รวมถึงแคนาดา ปากีสถาน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเมียนมาร์ ติดกันหลักร้อยถึงหลายร้อย จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย ติดเพิ่มกันหลักสิบ ส่วนมาเลเซียและนิวซีแลนด์ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
ที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษคือเมียนมาที่ติดเพิ่มไปถึง 166 คน แนวโน้มยังสูงขึ้นเรื่อยๆ และมีโอกาสที่จะทะลักเข้าไทยได้ผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลักลอบเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ มีการเผยแพร่ผ่านโซเชียล ยิ่งทำให้ตอกย้ำว่ามาแน่ ประชาชนในจังหวัดชายแดนจึงควรระมัดระวังตัว ป้องกันตัวเองเสมอ
นอกจากนี้เรื่องเคสติดเชื้อภายในประเทศยังทำให้คนในกรุงเทพและปริมณฑลต้องตระหนักถึงความจริงที่ว่า มีการติดเชื้ออยู่ในพื้นที่ เพียงแต่ยังไม่มีการตรวจพบและรายงาน การติดตามผู้สัมผัสให้ครบถ้วนสมบูรณ์นั้นยากมาก เพราะไม่มีใครที่จะจำรายละเอียดการใช้ชีวิตทุกวันทุกเวลาในช่วงเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ครบ
คนในเมืองและปริมณฑลจึงควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พูดน้อยลง พบปะคนน้อยลงสั้นลง ใช้ออนไลน์แทน เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร หากไปในที่ดังกล่าว ก็จำเป็นต้องคอยสังเกตอาการตนเอง หากไม่สบายควรหยุดงานหยุดเรียนและรีบไปตรวจ
ทางการควรรีบนำเสนอรายละเอียดการใช้ชีวิตประจำวันของเคสผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมจากเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ชีวิตประจำวันตอนกลางวัน ขณะนี้มีรายละเอียดเพียงไปห้างแห่งหนึ่งในบ่ายของวันหนึ่งเท่านั้น แต่ควรสอบถามรายละเอียดอื่นๆ เช่น ร้านอาหารที่ได้แวะไปกิน ขนส่งสาธารณะที่ได้ไปใช้ การเดินตลาดเดินห้างหรืออื่นๆ ด้วย แต่หากสอบสวนแล้วไม่ทราบรายละเอียด ก็ควรสื่อสารชี้แจงให้ประชาชนในสังคมได้ทราบด้วยว่าไม่ทราบ จะได้กระตุ้นเตือนให้คนในสังคมระวังตัวกันเพิ่มขึ้น
การสื่อสารสาธารณะในยามวิกฤติโรคระบาดเช่นนี้นั้นสำคัญยิ่งนัก หากไม่อยากให้คนตระหนกตกใจเกินเหตุ ก็ต้องชี้แจงข้อมูลที่ละเอียดเพียงพอ ลดการใช้ดุลยพินิจหรืออุปมาอุปมัย ตั้งสมมติฐานไปเกินกว่าข้อมูลที่มี บางประเทศที่มีการระบาดและตอบสนองได้ดี เช่น นิวซีแลนด์ จะมีการแถลงรายละเอียดแบบละเอียดยิบให้ประชาชนได้ทราบ จะได้ประเมินตนเองและให้ความร่วมมือได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที
ยิ่งหากระบบการเช็คอินเช็คเอ๊าท์ไทยชนะของเราอาจไม่สมบูรณ์ การชี้แจงรายละเอียดการสอบสวนโรคให้ชัดเจนมากขึ้น ก็จะช่วยในการจัดการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีขึ้นครับ".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |