การจัดเวทีเสวนาความมั่นคงทางอาหาร
อีสาน/ สภาองค์กรชุมชนตำบลภาคอีสาน เตรียมเคลื่อนงานสร้างความมั่นคงทางอาหาร 20 จังหวัดภาคอีสาน เน้นการปกป้องแหล่งอาหารของชุมชน สร้างพื้นที่รูปธรรมเกษตรยั่งยืน เพาะเมล็ดพันธุ์ใช้เอง สร้างคนรุ่นใหม่ที่ถูกเลิกจ้างหรือได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ใช้พื้นที่ชนบทเป็นแหล่งสร้างความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานราก เชื่อมตลาดท้องถิ่น สร้างแหล่งอาหารปลอดภัย ฯลฯ โดยจะนำข้อเสนอต่างๆ ไปขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี และนำเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชุมสภาองค์กรชุมชนระดับชาติในวันที่ 9-10 กันยายนนี้
ตามที่เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนภาคอีสานร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และภาคีเครือข่ายจัดงาน “สมัชชาสภาพลเมืองอีสาน ตุ้มโฮม ฮักแพง แบ่งปัน ไทอีสานหนึ่งเดียว” ระหว่างวันที่ 3-5 กันยายนที่ผ่านมาที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม โดยมีประเด็นสำคัญคือ “ความมั่นคงทางอาหาร คือความมั่นคงของมนุษย์” เพื่อระดมความคิดเห็น รวบรวมข้อเสนอของพี่น้องเกษตรกรในภาคอีสานนำไปขับเคลื่อนเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร รวมทั้งนำข้อเสนอและแนวทางการแก้ไขผลกระทบจากโครงการของรัฐไปเสนอต่อที่ประชุมระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบลที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9-10 กันยายนนี้ ที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ
นายอุบล อยู่หว้า
นายอุบล อยู่หว้า เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคอีสาน กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเมืองไทย ทำให้เห็นภาพของประชาชนที่ต้องไปเข้าคิวยาวเหยียดเพื่อรับแจกอาหาร ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตอาหารของโลก แต่ในขณะเดียวกันประชาชนในชนบทยังสามารถเลี้ยงชีพอยู่ได้ เพราะ 1. ชนบทยังมีทรัพยากรที่หลากหลาย 2.มีอาหารต่างๆ ให้เก็บหา เก็บกิน 3.สังคมชนบทยังมีความเกื้อกูลช่วยเหลือกัน
“แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ การทำลายความมั่นคงทางอาหาร การทำลายพื้นที่ที่ผลิตอาหาร โดยการทำเกษตรอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ การปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ปลูกอ้อยป้อนโรงงาน การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์โดยโครงการขนาดใหญ่ เช่น การขุดลอกบึงหรือแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของชาวบ้าน เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำและพืชผักต่างๆ ที่ขึ้นอยู่ตามชายเฟือย ทำให้แหล่งอาหารเหล่านี้ถูกทำลาย ดังนั้นโครงการขนาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบหรือทำลายแหล่งอาหารของชาวบ้าน จะต้องฟังเสียงของชาวบ้าน และให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการออกแบบโครงการ” นายอุบลกล่าว
เขาเสนอด้วยว่า รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร เช่น 1.ไม่ควรจะมีหรือส่งเสริมพื้นที่เกษตรอุตสาหกรรมเชิงเดี่ยวขนาดใหญ่ เพราะมีการใช้สารเคมีมาก เป็นการทำลายแหล่งอาหาร 2.ชุมชนจะต้องมีการสำรองอาหารในระดับครัวเรือนและชุมชน เพราะจากการศึกษาพบว่า หมู่บ้านที่ทำหัตถกรรมต่างๆ เช่น ทอผ้าเป็นอาชีพ มีรายได้ แต่ไม่มีอาหาร ต้องไปซื้อกิน หากขายสินค้าไม่ได้ ภายใน 3 วันก็จะอยู่ไม่ได้ แต่หมู่บ้านที่ทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกข้าวกิน แม้จะไม่มีเงิน แต่จะมีอาหารเลี้ยงครอบครัวได้อย่างน้อย 2 ปี
“มีตัวอย่างที่บ้านนาคำ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมบ่อยๆ ในแต่ละปีชาวบ้านทั้งหมู่บ้านจะเอาข้าวเปลือกมารวมกัน เป็นการออมข้าว ครัวเรือนละ 40 กิโลกรัม หากเกิดน้ำท่วม ปลูกข้าวไม่ได้ ชาวบ้านก็ยังมีข้าวสำรองเอาไว้กิน หากไม่เกิดน้ำท่วม จะรวบรวมเอาข้าวไปขาย เอาเงินมาแบ่งกัน เป็นอย่างนี้ทุกปี และชาวบ้านที่นี่ร่วมกันออมข้าวมานานนับสิบปีแล้ว ถือเป็นตัวอย่างของการสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับชุมชน ส่วนในครัวเรือนแต่ละครอบครัวก็จะมีข้าวและอาหารสำรองอยู่แล้ว” นายอุบลยกตัวอย่างพื้นที่รูปธรรม
นายชูชาติ ผิวสว่าง
นายชูชาติ ผิวสว่าง ประธานที่ประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล กล่าวว่า ข้อเสนอจากการจัดงาน “สมัชชาสภาพลเมืองอีสาน ตุ้มโฮม ฮักแพง แบ่งปัน ไทอีสานหนึ่งเดียว” ในครั้งนี้จะนำไปขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2564 โดยใช้กลไกสภาองค์กรชุมชนตำบลในภาคอีสาน 20 จังหวัดขับเคลื่อน คือ 1.การปกป้องแหล่งอาหารของชุมชน สร้างพื้นที่รูปธรรมเกษตรกรรมยั่งยืน
2.การพัฒนาศักยภาพผู้นำ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ถูกเลิกจ้างหรือได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้ใช้พื้นที่ชนบทเป็นแหล่งสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยมีคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจแล้วประมาณ 500 คน แต่ในเบื้องต้นจะจัดอบรมเพื่อพัฒนาได้ 50 คน 3.เชื่อมกับภาคีเครือข่ายเพื่อทำงานร่วมกัน และ 4.การพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้เกษตรกรรมเป็นตัวตั้ง เชื่อมตลาดท้องถิ่น สร้างแหล่งอาหารปลอดภัย
นอกจากนี้จะขับเคลื่อนเรื่องกองทุนเมล็ดพันธุ์พืช ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้มีการทอดผ้าป่าเมล็ดพันธุ์พืช ได้เงินกองทุนประมาณ 40,000 บาท จะนำไปใช้ในการเพาะและขยายเมล็ดพันธุ์ต่าง ๆ เช่น ข้าว พืช ผักสวนครัว และกระจายให้สภาองค์กรชุมชนในระดับจังหวัดนำไปขยายพันธุ์ต่อเพื่อแจกจ่ายให้แก่พี่น้องเกษตรกรภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด
“เมล็ดพันธุ์เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความมั่นคงทางอาหาร หากเราซื้อเมล็ดพันธุ์จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และเมล็ดพันธุ์ที่ขายในตลาดจะต้องใช้ปุ๋ยและสารเคมี และนำไปเพาะพันธุ์ต่อไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องสิทธิบัตรเมล็ดพันธุ์ ดังนั้นเราจะส่งเสริมและฟื้นฟูระบบเมล็ดพันธุ์ดั้งเดิมขึ้นมา เพราะเป็นเรื่องภูมิปัญญา การถ่ายทอดวิถีชีวิตและวัฒนธรรม โดยรวบรวมเมล็ดพันธุ์ นำมาคัดเลือก ปรับปรุงพันธุ์ และกระจายไปสู่พี่น้องทั่วภาคอีสาน เพราะการที่เราจะสร้างความมั่นคงทางอาหารได้ เราจะต้องเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต และมีเมล็ดพันธุ์เป็นของตัวเอง” นายชูชาติกล่าว
ส่วนข้อเสนออื่นๆ จากการประชุมครั้งนี้ นายชูชาติกล่าวว่า ผลกระทบจากโครงการรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูงในภาคอีสานที่จะส่งผลต่อชุมชนริมทางรถไฟที่จะต้องมีการรื้อย้ายชุมชน ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำโขงขึ้นลงไม่ปกติ เนื่องจากมีการสร้างเขื่อนในประเทศจีนและลาว รวมทั้งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ที่กำหนดให้การสำรวจการถือครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติต้องแล้วเสร็จภายใน 240 วัน (ภายใน 21 กรกฎาคม 2563) ที่จะส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน รวมทั้งข้อเสนอเรื่องการสร้างความมั่นคงทางอาหารนั้น
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
“จะรวบรวมข้อเสนอและข้อเรียกร้องต่างๆ ทั้งหมดนี้ไปนำเสนอในที่ประชุมระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบลที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 กันยายน ที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ กรุงเทพฯ เพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป” นายชูชาติกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้การประชุมในระดับชาติของสภาองค์กรชุมชนตำบล ระหว่างวันที่ 9 -10 กันยายน ที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ถนนนวมินทร์ เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จะมีการจัดเวทีวิชาการ เช่น การปาฐกถาพิเศษ การจัดประชุมนำเสนอปัญหาด้านต่างๆ การรวบรวมข้อเสนอแนะ และสรุปปัญหาที่ประชาชนในจังหวัดต่างๆ ประสบ เสนอต่อหน่วยงานรัฐและคณะรัฐมนตรีพิจารณาสั่งการตาม พ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ.2551 โดยจะมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางมารับมอบข้อเสนอเชิงนโยบายจากที่ประชุมฯ เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |