ติดโควิดรอบ100วัน นักโทษวัย37ปีเป็นดีเจ3ผับ/สั่งตรวจ-กักตัวผู้ใกล้ชิด63คน


เพิ่มเพื่อน    

  โควิดโผล่ในไทย! จบสถิติ 100 วันไร้ติดเชื้อในประเทศ สธ.เผยนักโทษ 1 รายติดโควิด พบป่วยขณะอยู่ในแดนแรกรับ  ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ ไล่ไทม์ไลน์เป็นดีเจผับ 3 แห่ง สั่งตรวจ-กักกันผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงรวม 63 คน ปิดสถานบันเทิงทั้งสาม 3 วัน

    เมื่อวันที่ 3 กันยายน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,427 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 3 ราย ยอดหายป่วยสะสมรวม 3,277 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 92 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย
    สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย มาจากอินโดนีเซีย เป็นนักศึกษาชายไทยอายุ 22 ปี เดินทางมาถึงไทยวันที่ 20 ส.ค. เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 2 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 1 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ ส่วนรายที่ 2 เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา เป็นหญิงไทยอายุ 23 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยวันที่ 21 ส.ค. เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ กรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 1 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ  
    ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 26,177,586 ราย รักษาหายแล้ว 18,442,235 ราย เสียชีวิต 867,347 ราย ขณะที่เที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับวันที่ 3 ก.ย. จำนวน 486 คน จากอินโดนีเซีย ฮ่องกง ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา และวันที่ 4 ก.ย. จำนวน 482 คน จากจีน คาซัคสถาน ไต้หวัน สิงคโปร์ ตุรกี และเอธิโอเปีย  
    พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่ามีผู้ต้องขัง 1 คน ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ต้องรายดังกล่าว เป็นชายอายุ 37 ปี ต้องโทษคดียาเสพติด ถูกส่งตัวเข้าทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางเมื่อวันที่ 26 ส.ค.63 โดยทางเรือนจำได้แยกขังตามระเบียบเพื่อคัดกรองโรค 14 วัน จากนั้นมีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ จึงพบว่ามีเชื้อโควิด-19 ส่วนเพื่อนผู้ต้องขังที่นอนร่วมห้องขัง รวม 32 คน ผลตรวจเบื้องต้นเป็นลบ
     นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีรับทราบเรื่องนี้แล้ว จึงให้กระทรวงสาธารณสุขและกรมราชทัณฑ์เร่งสอบสวนโรค พร้อมให้ข้อมูลแก่ประชาชนรับทราบต่อไป
     จากนั้นเวลา 17.30 น. ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค, พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค, นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าวกรณีพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางบางเขน
ติดโควิดในรอบ 100 วัน
    นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า รายนี้ถือว่าเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศไทย หลังไม่พบการติดเชื้อเลย 100 วัน แต่ในส่วนของการระบาดนั้นยังอยู่ในขั้นตอนกำลังการสืบสวนโรค และพยายามตีกรอบผู้ติดเชื้อ ซึ่งถ้าหากทุกหน่วยงานและประชาชนทุกคนช่วยกันก็จะไม่นำไปสู่การระบาดโควิด-19 ภายในประเทศ ทั้งนี้ ในส่วนของ รมว.สาธารณสุข ได้กำชับว่าให้กระทรวงสาธารณสุขให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนและไม่ปกปิด
    พญ.วลัยรัตน์กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่ติดเชื้อรายดังกล่าวเบื้องต้นได้รับทราบข้อมูลการตรวจหาเชื้อตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. โดยเป็นการตรวจที่เกิดขึ้นเป็นประจำภายในเรือนจำ ระหว่างที่มีการแยกกักกันก่อนที่จะเข้าสู่แดนปกติ ซึ่งหลังจากได้รับรายงานจึงมีการตรวจสอบและส่งตรวจไปยังห้องปฏิบัติการทั้ง 2 แห่ง พบว่าเป็นการติดเชื้อโควิด-19 จริง โดยในวันนี้ได้มีการส่งทีมโรคจากกรมควบคุมโรค สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร และราชทัณฑ์ ลงไปสอบสวนที่เรือนจำ และโรงพยาบาลราชทัณฑ์ พบว่าผู้ป่วยรายนี้มีอาการตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. โดยมีอาการไข้และเสมหะ ซึ่งอาการยังไม่ชัดเจน ต่อมาในวันที่ 2 ก.ย. เจ้าหน้าที่จึงได้มีการเก็บตัวอย่างหาเชื้อในโพรงจมูกพบว่ามีเชื้อโควิด-19
    จากการซักประวัติย้อนหลัง 14 วัน พบว่าผู้ติดเชื้อรายนี้ได้อาศัยอยู่กับครอบครัวในคอนโดฯ บ้านสวนธน พุทธบูชา บางมด โดยมีครอบครัวที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 7 คน พบตัวแล้ว 5 คน อีก 2 คน เดินทางไปต่างจังหวัดในปริมณฑล หลังจากนี้จะมีการแยกกักกันภายหลังต่อไป ในส่วนการทำงานได้ทำงานเป็นดีเจที่ร้าน “3 วัน 2 คืน” สาขาพระราม 3 ในวันจันทร์ พฤหัสบดี และเสาร์ และสาขาพระราม 5 ในวันศุกร์ และอาทิตย์ First Cafe ซึ่งอยู่ที่ถนนข้าวสาร ในส่วนจากอาชีพของเขาไม่ได้ไปสัมผัสกับผู้อื่น ดังนั้นคนที่อยู่ในร้านถ้าสวมใส่หน้ากากอนามัย และไม่ได้ไปสัมผัสใกล้ชิด จึงไม่ถือว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแต่อย่างใด
    นอกจากนี้ในวันที่ผู้ต้องขังคนดังกล่าวขึ้นศาล มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงร่วมอยู่ 20 คน ประกอบด้วย ทนายความ เจ้าหน้าที่เรือนจำ นักโทษที่ร่วมตัดสินคดี และนักโทษที่ร่วมรถโดยสาร โดยมีการแยกกักกันต่อไป ทั้งนี้ เรือนจำได้มีการแยกกักกันผู้ต้องขังแรกรับ ซึ่งมีผู้ต้องขังที่มาในเวลาเดียวกันกับผู้ต้องขังที่ติดเชื้อจำนวน 34 คน ซึ่งได้ตรวจหาเชื้อทั้งหมดแล้ว พบว่าไม่มีการติดเชื้อ รวมถึงอาสาสมัครนักโทษที่เป็นคนดูแลอีก 2 คน และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ซึ่งเป็นผู้เสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ลงไปสอบสวนผู้ป่วยรายนี้เพิ่มเติมโดยการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น
    นายวีระกิตติ์กล่าวว่า ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางบางเขน มีผู้ต้องขังกว่า 8,000 คน โดยผู้ต้องขังรายนี้เป็นรายที่ 2 ที่พบเชื้อจากมาตรการที่ทางเรือนจำได้กำหนดว่า ผู้ต้องขังรายใหม่ต้องแยกกักกันเป็นเวลา 14 วัน ในกรณีมีคนเข้าใหม่ที่ได้ตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาลภายนอกก็ได้กักตัวเป็นเวลา 14 วันเช่นกัน ซึ่งผู้ต้องขังรายนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยโรงพยาบาลมหิดลเข้ามาช่วยตรวจหาเชื้อ อย่างไรก็ตาม การพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการแพร่เชื้อไปยังผู้ต้องขังทั้งเรือนจำ เพราะกรมราชทัณฑ์ได้มีการแบ่งแยกพื้นที่ของผู้ต้องขังรายใหม่อย่างชัดเจน โดยผู้ต้องขังรายดังกล่าวไม่ได้มีการเดินทางไปต่างประเทศแต่อย่างใด ซึ่งอยู่ในประเทศตลอด  
    ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งอาคารแยกเดี่ยวออกจากโรงพยาบาล รวมทั้งย้ายผู้ต้องขังจำนวน 34 คน ไปยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อแยกเป็นผู้ต้องขังดูแลพิเศษ เพื่อรอผลตรวจดูยืนยันอีกครั้ง ทั้งนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวก่อนหน้านี้ โดยเป็นคดีเกี่ยวข้องยาเสพติดเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา และได้เดินทางมาฟังคำตัดสินจากศาลเมื่อวันที่ 26 ส.ค. โดยเดินทางมาพร้อมภริยา ศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปี ก็ได้ถูกควบคุมตัวเวลา 10.00 น. และได้นำตัวเข้าเรือนจำเมื่อช่วงเย็นในวันดังกล่าว
ปิดผับ 3 แห่ง 3 วัน
    นพ.เมธิพจน์เปิดเผยว่า ผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ป่วยรายนี้มีทั้งหมด 5 คน ตอนนี้มี 2 คนที่ยังไม่ได้รับการตรวจ เนื่องจากเดินทางไปยังจังหวัดปริมณฑล ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดต่อให้มาเข้ารับการตรวจได้ภายในวันที่ 4 ก.ย. นอกจากนี้ จากการติดตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยพบว่า นอกจากผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ป่วย 5 คนแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ศาล ขณะที่ไปขึ้นศาลฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้งเพื่อนร่วมงาน ที่ร้าน 3 วัน 2 คืน และ First Cafe ซึ่งอยู่ที่ถนนข้าวสาร ขณะนี้ได้สั่งให้ปิด 3 วันเพื่อทำความสะอาด รวมทั้งได้มีการคัดแยกผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ เพื่อที่จะได้ตรวจคัดกรองหาผู้ที่ติดเชื้อต่อไป
    ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีผู้ปกครองนักเรียนชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง 5 รายเดินเท้าข้ามผ่านชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านช่องทางธรรมชาติกลับไปทำการเกษตรและเดินทางกลับเข้าฝั่งไทย เป็นสาเหตุทำให้ต้องมีการประกาศปิดโรงเรียน 2 แห่งชั่วคราว คือโรงเรียนอานันท์ หมู่ 2 ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ และ โรงเรียนบ้านห้วยไคร้ หมู่ 3 ตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน ตั้งแต่วันที่ 1-7 ก.ย. เพื่อเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เก็บสารคัดหลั่งของบุคคลทั้ง 5 รายไปตรวจสอบผลปรากฏว่าไม่พบเชื้อโควิด 19 แต่ได้ขอให้ทั้งหมดกักตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
        ขณะเดียวกัน ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคลงพื้นที่ก็ไม่พบผู้ที่มีอาการป่วยเป็นไข้ แต่ได้เน้นย้ำให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง ส่วนโรงเรียนทั้ง 2 แห่งให้มีการทำความสะอาดสถานที่ก่อนเปิดเรียนตามปกติในวันที่ 8 ก.ย.นี้ ส่วนหน่วยงานความมั่นคงและฝ่ายปกครองได้เพิ่มความเข้มงวดห้ามการลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม หากหน่วยงานสาธารณสุขได้รับแจ้งมีผู้ที่ฝ่าฝืนจะมีการลงพื้นที่สอบสวนโรคทันทีเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคต่อไป.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"