3 ส.ค. 2563 นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกมาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบการหลังสถานการณ์โควิด-19 เพื่อเข้าไปดูแล ช่วยเหลือ สนับสนุนลูกค้าที่จำแนกเป็น 4 กลุ่ม ตามความต้องการของกิจการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้แก่ 1. ผู้ประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตได้ โดยเอ็กซิมแบงก์ จะส่งเสริมให้มีสภาพคล่องเพียงพอ และมีความสามารถในการชำระหนี้ได้อย่างต่อเนื่อง
2. ผู้ประกอบการที่มีรายได้ลดลง แต่สามารถดำเนินกิจการได้อย่างต่อเนื่อง โดยเอ็กซิมแบงก์จะผ่อนปรนเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อช่วยผู้ประกอบการชำระเงินต้นได้หมด รวมทั้งสามารถขอสินเชื่อเพิ่มได้ 3. ผู้ประกอบการที่ต้องการการขยายระยะเวลาการชำระคืนหนี้ เพื่อรอให้กิจการผ่านพ้นวิกฤติ หรือต้องการการปรับปรุงโครงสร้างการผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยบางส่วน และ 4. ผู้ประกอบการที่ขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ในส่วนนี้เอ็กซิมแบงก์จะเข้าไปช่วยเหลือ ประคับประคอง เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าสู่กระบวนการปรับปรุงการชำระหนี้ ช่วยชะลอการเกิดหนี้เสีย (เอ็นพีแอล)
ทั้งนี้ ภายใต้มาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบการหลังสถานการณ์โควิด-19 ลูกค้าของเอ็กซิมแบงก์สามารถขอขยายระยะเวลา เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระเงินกู้ให้สอดคล้องกับธุรกิจ และขอรับวงเงินสินเชื่อเพิ่มได้ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า เอ็กซิมแบงก์ได้ติดตามสถานการณ์ผลกระทบของโควิด-19 อย่างใกล้ชิดและพบว่า ลูกค้าที่ได้รับการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุดนาน 6 เดือนตั้งแต่เดือน ก.พ.2563 จำนวนกว่า 20% ยังไม่สามารถผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยได้ และต้องการให้ธนาคารผ่อนปรนเงื่อนไขและขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ ขณะที่บางกิจการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้แต่ต้องการเงินทุนเพิ่ม และบางรายอาจยังขาดสภาพคล่อง ดังนั้นเอ็กซิมแบงก์จึงพร้อมสนับสนุนสภาพคล่องและเข้าไปดูแลปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจส่งออกของไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีค่อย ๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติและเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง นำไปสู่การจ้างงานและการพัฒนาประเทศของไทย
“จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังยืดเยื้อและลุกลามไปทั่วโลกส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบทุกภาคส่วนหยุดชะงักลง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี)โลกปี 2563 จะหดตัว 4.9% และธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดว่าจีดีพีจะหดตัว5.2% ซึ่งเป็นการหดตัวมากที่สุดในรอบกว่า 90 ปี
สำหรับประเทศไทย การที่เศรษฐกิจโลกหดตัวอย่างรุนแรงดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีซึ่งอ่อนไหวต่อวิกฤตและความไม่แน่นอนสูง สะท้อนได้จากมูลค่าส่งออกของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 หดตัว 17.9% มากกว่ามูลค่าส่งออกรวมของประเทศไทยในช่วงเวลาเดียวกันที่หดตัว 7.1%” นายพิศิษฐ์ กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |