ผู้ชุมนุมรวมตัวกันทางใต้ของนครลอสแองเจลิสเมื่อวันอังคาร เรียกร้องขอคำตอบจากตำรวจภายหลังเกิดเหตุตำรวจยิงชายผิวดำวัย 29 ปีเสียชีวิตรายล่าสุดเมื่อวันจันทร์

    สำนักงานตำรวจเทศมณฑลลอสแองเจลิสแถลงว่า ชายที่โดนตำรวจยิงเสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ 1 กันยายน ชื่อดีจอน คิซซี อายุ 29 ปี เขากำลังขี่จักรยานเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจะหยุดเขาเพราะทำสิ่งผิดกฎหมาย แต่คิซซีวิ่งหนี เมื่อตำรวจไล่ตามเขาทัน เขาต่อยหน้าตำรวจนายหนึ่งแล้วทิ้งกองผ้าที่ถือมาด้วย

    ร.ต.ท.แบรนดอน ดีน แห่งสำนักงานตำรวจเทศมณฑลลอสแองเจลิสแถลงกับผู้สื่อข่าวว่า ตำรวจที่วิ่งไล่ตามจับคิซซีสังเกตเห็นว่าภายในกองผ้าที่ชายคนนี้ทิ้งมีปืนพกกึ่งอัตโนมัติสีดำ 1 กระบอก หลังจากนั้นเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยิงชายคนนี้ และยังไม่ทราบว่าชายคนนี้ทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาพาหนะในข้อหาใด

    หลังเกิดเหตุเมื่อวันจันทร์ ประชาชนกว่า 100 คนออกมาชุมนุมบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อขอคำตอบจากตำรวจว่าทำไมต้องยิงชายคนนี้เสียชีวิต และมีการชุมนุมกันอีกครั้งในที่เกิดเหตุเมื่อเย็นวันอังคาร มีการเดินขบวนอย่างสงบและมีขบวนรถแล่นไปที่สถานีตำรวจเทศมณฑลลอสแองเจลิสที่อยู่ใกล้กัน ผู้ประท้วงบางคนถือป้ายเขียนว่า "หยุดตำรวจนักฆ่า"

    เบน ครัมป์ ทนายความสิทธิพลเรือนซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวคิซซี โพสต์ทางทวิตเตอร์ว่า คิซซีโดนตำรวจยิงมากกว่า 20 นัด ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเขาวิ่งหนีตำรวจ, ทิ้งกองเสื้อผ้าและปืนพก เขาไม่ได้หยิบปืนขึ้นมา แต่เจ้าหน้าที่ยิงเขาจากด้านหลังมากกว่า 20 นัด และปล่อยร่างเขาทิ้งไว้หลายชั่วโมง

    เดจา หญิงที่เห็นเหตุการณ์ เผยกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีว่า เธอตะโกนบอกตำรวจที่พยายามจะจับคิซซีว่าอย่ายิงเขา  ตำรวจใช้ปืนชอร์ตไฟฟ้ายิงที่ขาของเขาจากด้านหลัง เมื่อเขาหันกลับมาตำรวจก็ยิงเขา ตอนที่ดิซซีโดนยิง เธอเห็นว่าเขาไม่ได้ถือปืน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ใส่กุญแจมือเขา

    ในวันอังคาร ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปดูความเสียหายที่เกิดขึ้นในเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน หลังเกิดการจลาจลจากเหตุตำรวจยิงเจค็อบ เบลค ชายผิวดำจากทางด้านหลัง ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส ทรัมป์ประณามผู้ชุมนุมต่อต้านการเหยียดผิวที่ก่อเหตุรุนแรงว่าเป็นการก่อการร้ายในประเทศ.