'ทำไม...ประเทศจึงยากพัฒนา?'


เพิ่มเพื่อน    

      พอ "แจ็ก หม่า" ขายทุเรียน ๘ หมื่นลูก ใน ๑ นาที เท่านั้นแหละ..............

      องุ่น "ทุกเม็ด-ทุกพวง" ในประเทศไทย

      "เปรี้ยว" ทันที!

      "นักวิชาการ, นักการเมือง" บางกลุ่ม แสดงความห่วงใย ออกมาพิทักษ์ "ประโยชน์ชาติ" กันยกใหญ่

      อาลีบาบา จะผูกขาดตลาดสินค้าออนไลน์บ้างละ

      จะทำให้พ่อค้า-แม่ค้ารายย่อยไทย หมดช่องทางทำมาหากินบ้างละ

      สินค้าเกษตรไทย ทั้งตลาด-ทั้งราคา จะถูกจีน โดย "แจ็ก หม่า" ควบคุมกลไกทั้งหมดบ้างละ  

      สรุป...........

      ตอน "แจ็ก หม่า" ไม่มา เย้ยว่า เพราะรังเกียจ "คสช.ประยุทธ์"

      พอ "แจ็ก หม่า" มา พลิกมุมเป็นด่า.........

      คสช.ประยุทธ์ "ยกประโยชน์ชาติ" ให้แจ็ก หม่า!

      จำกันได้หรือเปล่าไม่รู้............

      วานซืน "๒๑ เมษายน" กรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ ๒๓๖ ปี

      ตลอด ๒๓๖ ปี ต่างชาติ-ต่างภาษา โดยเฉพาะคนในจีน อย่าถามว่า "กินทุเรียนเป็นมั้ย?"

      แค่ถาม "รู้จักทุเรียนมั้ย?" มีแต่คนส่ายหน้า!

      จะมารู้จักและกินเป็น น่าจะหลัง "ไทย-จีน" เปิดประเทศ เมื่อปี ๒๕๑๘ เรื่อยมานี่แหละ

      นั่นคือ คนจีน จะกินทุเรียนกันชนิด เป็น "อนุสรณ์มงคลชีวิต" ก็ซัก ๑๐-๒๐ ปีมานี่กระมัง

      ประเด็นที่ผมจะพูดก็คือ.........

      คนไทยอยู่กับทุเรียนมาเท่าชีวิต เมื่อจะกินทุเรียน วิธีที่ใช้และทำกันมาตลอด คือการ "ผ่า" ตามแนวร่องหนาม

      ที่เรียกว่า "ฉีกทุเรียน"

      ตราบปัจจุบันยันอนาคตกาล คนไทยก็ยังผ่าหรือฉีกทุเรียนเป็นบ้าง ไม่เป็นบ้าง!

      แต่กับคนจีน คนไทย "ฉีกทุเรียน" ให้กิน ไม่กี่สิบปี

      ทุกวันนี้ "ไม่ต้องแล้ว"..........

      คนจีน ไม่เคยคุยว่าเขาฉลาด-เขาเก่ง เขาเป็นชาติมหาอำนาจ บอกแต่ว่า เขาต้องพัฒนา

      ดังนั้น คนจีนจะไม่เอาสมองไปคิดในเรื่องตอดนิด-ตอดหน่อย ไม่ทอดตัวลงต่ำ ด้วยเห็นใครดีเกินหน้าเป็นไม่ได้

      ต้องประดิษฐ์คิด-ประดิษฐ์คำ ไปย่ำเหยียบ ว่าที่คนอื่นทำ นั่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ใช่

      ตรงกันข้าม........

      คนจีน เห็นตรงไหน-ใครดี เขาจะจำและเก็บไปทำ ไปเลียนแบบในขั้นต้น

      คิดสร้างสรรค์พัฒนา "ต่อยอด" แข่งขันและแซงกันขึ้นไปเรื่อยๆ!

      ๒๓๖ ปี คนไทยยัง "ฉีกทุเรียน" มือแหกอยู่นี่ไง

      ในขณะที่คนจีน กินทุเรียนไม่กี่ปี..........

      วันนี้ คิด-ประดิษฐ์สร้าง "เครื่องมือ" ฉีกทุเรียนเรียบร้อย

      จับตูดตั้ง "แหกพรวด" ด้วยง่ามเหล็ก พูเล็ก-พูใหญ่ แบให้กิน ไม่เกินนาที!

      อย่าง EEC นี่เหมือนกัน............

      ตลอดเวลา ๑๐ ปีมานี้ นอกจากเผาบ้าน-เผาเมืองและกินบ้าน-กินเมืองแล้ว สิ่งที่เอาแต่บ่น-ก่นด่า(กันเอง) ก็คือ

      ประเทศล้าหลัง เศรษฐกิจไม่โต เวียดนาม-เขมร-ลาว กำลังจะแซงหน้าไทย

      ก็ ต่างๆ นานา.........

      คือคนส่วนหนึ่ง อยากพูดว่า "เพราะไม่มีทักษิณ เศรษฐกิจจึงแย่"

      เหตุผลที่รู้อยู่แก่ใจ แต่ตัวเองไม่กล้าพูดตรงๆ ก็คือ........

      แย่เพราะ......

      ทักษิณไม่อยู่ หากิน "นอกกฎหมาย...ยาก"

      โกงเอามาแบ่งกัน "ก็...ยาก"

      ใช้พวก-ใช้เส้น-ใช้อิทธิพล "ก็....ยาก"!

      แต่ถ้าใช้คุณภาพทรัพยากรมนุษย์จริงๆ มองตามเหตุปัจจัย จะรู้ว่า

      ที่ "เศรษฐกิจไทย" โตปีละร่วมสิบเปอร์เซ็นต์ หรือกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ ก่อนหน้านี้

      เป็นผลมาจาก...........

      "โครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก, การสร้างท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด และแหลมฉบัง"

      ที่ "พลเอกเปรม ติณสูลานนท์" สมัยเป็นนายกฯ ๘ ปี วางรากฐานเศรษฐกิจไว้ให้

      เรียกกันว่า ยุค "โชติช่วงชัชวาล" ของไทยนั่นแหละ!

      เรา "กินบุญ" จากรากฐานเศรษฐกิจที่ป๋าเปรมวางไว้ให้ "หมดแล้ว"

      จากปี ๒๕๒๔-๒๕ จนถึง ๒๕๕๐.........

      แทนที่นักการเมือง นักวิชาการ นักเศรษฐกิจ และทุกนัก ยกเว้น "สุนัข"

      จะใช้สมองอันเลอเลิศ ช่วยกัน "ประดิษฐ์คิด-ประดิษฐ์ทำ" เชิงสร้างสรรค์-พัฒนาอย่างจีน

      เพื่อเติมฟืน-เติมไฟ..........

      ให้เตาไฟเศรษฐกิจ "โชติช่วงชัชวาล" จากยุคป๋าเปรม ที่กำลังหรี่มอด ได้กลับทะยาน "โชติช่วงชัชวาล" ในทางต่อยอดขึ้นไปใหม่

      กลับหมกมุ่นแต่ประดิษฐ์เรื่อง-ประดิษฐ์คำ ไปในทางโทษ ทางทำลาย ฝ่ายนั้น-ฝ่ายนี้ ที่ทำให้ตัวเองเสียประโยชน์-เสียอำนาจ

      ว่าเป็นตัวการ-ต้นเหตุ..........

      ทำให้เศรษฐกิจไทย....ตายไม่ฟื้น!

      ๔ ปี ที่ผ่านมาภายใต้รัฐบาล คสช. การบริหารบางอย่างก็ไม่พบความสำเร็จ

      เคราะห์ดี ที่ตัวผู้นำ คือ "พลเอกประยุทธ์"

      ถึงไม่เยี่ยมอย่างที่คาด แต่การไม่ปรากฏ เรื่องโกง-เรื่องกิน เรื่องเอาครอบครัวมายุ่งงานบริหาร

      นั่นถือว่า "ยอด" กว่าทุกรัฐบาลในรอบทศวรรษแล้ว!

      แต่ในความสำเร็จบ้าง-ไม่สำเร็จบ้าง.........

      หักกลบลบหนี้แล้ว

      ด้วยแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่เรียกว่า โครงการ EEC บนการริเริ่มของพลเอกประยุทธ์

      ในความเห็นเฉพาะตัวผม "พลเอกประยุทธ์" เป็นผู้นำที่ "ยอดและเยี่ยม" แห่งยุค!

      ปฏิรูปด้านอื่น ไม่สำเร็จ.........

      แต่มุมานะ ผลักดัน โครงการ EEC คลอดและทำท่ารอดได้ขณะนี้ ถือเป็น "ความดี-ความชอบ" ยิ่งใหญ่

      เพราะ เศรษฐกิจและสังคมชาติ จะฟื้นและโตทะยานสู่อนาคตใหม่ได้หรือไม่?

      ฝากไว้ที่ EEC นี่แหละ!

      โครงการ "พัฒนาชายฝั่งทะเลตะวันออก" ของป๋าเปรม สร้างเศรษฐกิจไทยโตมาร่วม ๓๐ ปี

      เมื่อนายกฯ ประยุทธ์ "ต่อยอด" โครงการป๋าขึ้นไปด้วยโครงการ EEC จากปี ๒๕๖๑ นี้

      ย่างเข้าปี ๒๕๖๕ "คนไทย" ทุกคนจะเห็น "โชติช่วงชัชวาล" ที่หรี่มอด

      กลับ "โชนฉาน" ชัชวาลโชติ เศรษฐกิจไทยจะสว่างไสว โตแบบ ๒ หลัก อาจเห็นได้ ตลอด ๒๐ ปี ถ้าพวกเราคนไทย ยึดคำว่า

      "พัฒนา" คือ ส่วนรวม

      "อิจฉา" คือ ส่วนทำลาย!

      ถึงวันนี้แล้ว เท่าที่เป็นอยู่ นักเลือกตั้ง ยังคงนิยามคำว่า "การเมือง" หมายถึง "อำนาจ"

      การเลือกตั้ง คือกรรมวิธีทำให้ตนและพวกตนได้ครองอำนาจ

      แบบนี้ มันก็ยากคาดหมาย "ความต่อเนื่อง" ในโครงการ EEC

      ตรงนี้ "อันตราย" ที่สุด!

      ยิ่งฟังนักเลือกตั้งพูด เข้าไปมีอำนาจแล้วจะทำอะไร ที่ได้ยิน ก็.........

      ๑.ล้างแค้น คสช.

      ๒.ล้มโครงการรัฐบาล คสช.

      ๒.แก้รัฐธรรมนูญ

      ๓.จัดระบบศาลใหม่

      อย่างนี้ ถ้าผมเป็นนักลงทุน กับโครงการ EEC จะให้ตัดสินใจอย่างไร?

      ยิ่งวันๆ มีแต่สรรค์ประเด็น ประโคม......

      EEC เป็นโครงการ ขายแผ่นดิน, ยกแผ่นดินให้ต่างชาติ, ประเคนผลประโยชน์ให้กลุ่มทุน

      ถ้าคนไทย นักการเมือง และทุกนัก ห่วงชาติ-ห่วงประเทศกันแต่ความคิดแบบนี้

      ก็ลองบอกทีซิ นอกจากบ่นด่าและโทษว่า คสช.ทำเศรษฐกิจไม่ดี ทำเศรษฐกิจไม่ฟื้นแล้ว

      ที่ดีและที่ให้ฟื้นนั่นน่ะ มันต้องทำแบบไหน?

      เห็นโวยวายกันแต่ รัฐบาลดูด, รัฐบาลตกปลาในบ่อเพื่อน

      เรื่องนี้ ผมไม่สันทัดนัก

      รู้แต่ว่า ตอนเด็กๆ อยู่ในดงเหี้ย ทางปากลัดทะเล

      ก็เลยอยากบอก.............

      "การจับตัวเงิน-ตัวทอง เขาใช้ 'ของเน่า' เป็นเหยื่อล่อ"

      ธรรมดา ไม่แปลกเลย!


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"