ต้องบอกว่าคณะรัฐบาลชุดที่ 63 หรือ “ประยุทธ์ 2/2” ช่างเป็นคณะรัฐมนตรีที่มีอายุการบริหารราชการแสนสั้นเสียเหลือเกิน เพราะ มีอายุยังไม่ถึงเดือนดีก็จำเป็นต้องมี “ประยุทธ์ 2/3” เสียแล้ว จากผลพวงการลาออกของ “ปรีดี ดาวฉาย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยให้เหตุผลในเรื่องของอาการป่วยไข้ แต่ก็มีกระสาย “เกาเหลา” กับ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.การคลัง มาเป็นยาแดงสอดแทรก ...๐

แต่ ดูเหมือนรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างพร้อมใจออกมาการันตีว่าเกิดจากเส้นเลือดตีบ แต่ยังไม่ถึงขั้นสโตรก ไล่มาตั้งแต่ “พล.อ.ประยุทธ์” “พล.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ, “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ, “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน, “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ไม่เว้นแม้แต่ “ดอน ปรมัตถ์วินัย” รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ ก็ออกมายืนยันว่า “ป่วยไข้” พร้อมทั้งยก “ชินโซ อาเบะ” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ป่วยแล้วก็ลาออกมาเทียบเคียงด้วย นี่เรียกว่ารองนายกฯ แทบจะยกออกมาทั้งกระบิในการการันตีเหตุผลการลาออกของ “ปรีดี” โดยเหลือเพียง “จุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์คนเดียวเท่านั้น ...๐

เมื่อมีคนไปก็ย่อมมีคนมา แต่ ดูเหมือนโผของ “ขุนคลัง” คนที่ 54 ครานี้กลับมีความหลากหลายมากกว่าครั้งนายปรีดีเสียอีก เพราะมีตั้งแต่ “วีรพงษ์ รามางกูร” อดีตรองนายกฯ อดีต รมว.การคลัง, ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการ ธปท. ที่มีโผตั้งแต่ประยุทธ์ 2/2 และถึงขั้นมีชื่อ “สุชาติ ธาดาธำรงเวช” อดีต รมว.การคลัง พรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่ “กรณ์ จาติกวณิช” ขุนคลังในยุคประชาธิปัตย์ ที่ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคกล้า ...๐

แต่ดูเหมือนชื่อที่เรียกว่า มาแรงที่สุดคือ “ไพรินทร์ ชูโชติถาวร” อดีต รมช.คมนาคม อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งในการปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/2 ก็มีชื่อ “ไพรินทร์” คั่วเก้าอี้ รมว.พลังงานมาแล้ว ซึ่งไพรินทร์เองก็ต้องบอกว่าสนิทสนมกับลูงตู่ และที่สำคัญเคยทำงานเข้าขากันมาแล้ว ขณะที่ “สันติ” เองก็แบะท่ารอเสียบขึ้นเป็น “วายุภักษ์ 1” อย่างไม่มีกั๊ก โดยร่ายถึงประสบการณ์การทำงานในฐานะรัฐมนตรีช่วยและรัฐมนตรีว่าการในยุคเพื่อไทยซะด้วย ซึ่งหากเป็นไปตามโผนี้ ที่มีเสียงเล่าอ้างว่าได้รับแรงหนุนจาก “ลุงป้อม” ก็ จะมีการผลักดันให้ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” รมช.แรงงาน โยกมาเป็น รมช.การคลังตามโผประยุทธ์ 2/2 ที่สำคัญยังจะทำให้มีโควตารัฐมนตรีเพิ่มมาอีก 1 เก้าอี้ด้วย ...๐

หากโผ “บิ๊กป้อม” ได้รับไฟเขียวจากน้องตู่จริง บอกได้ทันทีว่าตลาดหุ้นได้แดงเถือกแน่นอน เพราะ อย่าลืมว่า “ชาวแมลงเม่า” ยังติดตามติดใจในหุ้นปิกนิกที่มีเงาของ “สันติ” ทาบทาอยู่ อย่างไม่เสื่อมคลาย หากได้มาเป็นขุนคลังก็บอกได้คำเดียวว่า การแช่งชักหักกระดูกของพรรคฝ่ายค้านที่ว่าการลาออกของปรีดีเป็นการส่งสัญญาณพังพาบก็เริ่มมีเค้าลางจับต้องได้แล้ว ...๐

ในขณะที่ 7 พรรคเล็ก ซึ่งนำโดย “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทยก็โดดมาร่วมเสนอชื่อ “ขุนคลัง” คนใหม่ (หน้าเก่า) กับเขาด้วย โดยเสนอให้ “ลุงตู่” ควบเก้าอี้เสียเลย เพราะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอยู่แล้ว ส่วนเก้าอี้ “รมว.กลาโหม” นั้น ก็คืนให้กับ “ลุงป้อม” ควบเหมือนยุคประยุทธ์ 2/1 ให้สิ้นเรื่อง แหม! ไม่รู้ว่านี่เป็นข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหาขุนคลังหรือเอาใจ “ลุงป้อม” กันแน่จ๊ะ ...๐

เห็น “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน ชงที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. ที่มี “พล.อ.ประยุทธ์” นั่งหัวโต๊ะในมาตรการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษา 3 กลุ่ม คือ ปริญญาตรี, ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จำนวน 260,000 อัตรา ก็ ต้องปรบมือให้ แต่ชาวบ้านชาวช่องเขาฝากถาม “จับกัง 1” และ “จับกัง 2” อย่างอาจารย์แหม่มว่าแล้วการแก้ไขปัญหาเบิกเงินล่าช้าของสำนักงานประกันสังคมนั้นทำไปถึงไหนแล้วจ๊ะ หรือเพราะเห็นเป็นเงินเพียงหลักร้อยหลักพัน ทั่นรัฐมนตรีจึงไม่ได้ให้ความสนใจกัน อย่าลืมว่าเงิน 1 บาทในสายตาของแต่ละคนนั้นความสำคัญมันต่างกันนะพ่อคุณแม่คุณ ...๐

ทิ้งท้ายด้วย ข่าวเดือดร้อนของผู้โดยสารแอร์พอร์ตลิงก์ ลาดกระบังกันบ้าง เพราะยามดึกๆ นั้นบริเวณป้ายรถเมล์สาธารณะใต้มอเตอร์เวย์ มีรถแท็กซี่ไปจอดเรียงรอรับผู้โดยสาร จัดคิวกันเองเสร็จสรรพเหมือนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ทำให้รถประจำทางและรถสองแถวแดงไม่กล้ามาจอดรับ ซึ่งก็ทำให้ผู้โดยสารเบี้ยน้อยหอยน้อยต้องมายืนรอตรงทางรถไฟไม่กล้าไปนั่งรอที่ป้ายรถแทน งานนี้ก็ ต้องฝาก “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม รวมถึง สน.ลาดกระบังน่าจะเข้าตรวจสอบบ้างก็จะเป็นพระคุณแก่ผู้หาเช้ากินค่ำอย่างมากนะจ๊ะ ...๐

...ท.ศักดิ์