2 ก.ย.63 -สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ แถลงข่าวเปิดงาน “จัดงานทั่วไทยภูมิใจช่วยชาติ” กระตุ้นเศรษฐกิจทั่วประเทศ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธานในพิธี กล่าวว่า นโยบายรัฐบาลกับการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการไมซ์ไทย ดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจทสร้างความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ร่วมผลักดันให้การจัดประชุมและนิทรรศการเป็นวาระแห่งชาติ ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ภายหลังสถานการณ์โควิด -19 เพราะประเทศไทยได้วางแผนรับมือในสถานการณ์โควิด-19 จนดีขึ้น เปิดให้ผู้คนได้เดินทาง รวมถึงการวางมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยพัฒนายา วัคซีน อื่นๆ ตลอดจนให้ความรู้กับผู้ประกอบการถึงแนวทางการจัดงานไมซ์อย่างปลอดภัย กระตุ้นให้เกิดการจัดงานทั่วประเทศส่งเสริมเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด
"ประเทศไทยรองรับสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี แต่ยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ก็หวังว่าหลายธุรกิจจะก้าวผ่านวิกฤตไปได้ หลังจากที่คล้ายล็อคมาตรการต่างๆ ทำให้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็จะสามารถทำให้เกิดธุรกิจการประชุม สัมนาหรือไมซ์ขึ้น ได้ เพราะต้องยอมรับว่า เรามีความสามารถและศักยภาพในการจัดงานสัมมนา ประชุมหรือนิทรรศการ อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อม ทั้งแหล่งท่องเที่ยว อาหาร ผู้คน และบริการ และสำคัญคือสาธารณสุข ที่แพทย์ พยาบาล บุคลากร เจ้าหน้าที่ต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโควิด-19 ได้พิสูจน์ฝีมือ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไข้ในการรักษา และเดินหน้าพัฒนาวิจัยวัคซีน ยา ต่างๆ ดังนั้นเราจึงต้องสร้างความเข้มแข็งในประเทศ และแสดงความพร้อมในทุกภาค เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศ" รมว.สธ.กล่าว
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เผยว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบ จึงเป็นแนวคิดว่าจะทำอย่างไรให้การจัดงานและการประชุมดำเนินต่อไปได้ เพราะโรงแรมต่างๆ ในไทยพึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 30% เมื่อเทียบกับออสเตรเลียพึ่งนักท่องเที่ยวเพียง 10% ดังนั้น ตอนนี้ตลาดหลัก คือตลาดคนไทย แต่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชน ในการเข้าถึงอุตสาหกรรมไมซ์ในชุมชนและคนที่ตกงาน ส่วนสำคัญคือการเตรียมความพร้อม มาตรฐานสาธารณสุขเพื่อให้อยู่ในระดับปลอดภัย และให้การสนับสนุนการจัดงานที่ต้องพบปะกันในแบบ New Normal
ผอ.ทีเส็บ กล่าวต่อว่า ส่วนแผนการให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มย่อยก่อน โดยทีเส็บได้ทำงานร่วมกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ซึ่งทีเส็บ ได้เสนอการจัดงานในกลุ่มงานแสดงหรือนิทรรศการ โดยในเดือนกันยายน มีแผนการจัดงานอาเซียน อินเตอร์แมท, ไทยแฟกซ์ ที่ภาคเอกชนยังยืดหยัดจัดงานตามมาตรการสาธารณสุข และอีกส่วนหากประเทศไทยการ์ดยังไม่ตก ก็จะนำกลุ่ม Special Arrangement ที่ไม่ต้องกักตัว 14 วัน ในการเข้าประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และต้องมีข้อปฏิบัติ อาทิ ต้องมีใบตรวจโควิด-19 ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย 3 วัน และเมื่อเข้าไทยกักตัว 6-8 ชั่วโมง ในโรงแรมที่เป็นโรงแรมสถานที่กักตัว(ASQ) พร้อมกับรับการตรวจ RT-PCR รวมทั้งต้องลงทะเบียนใน แอปพลิเคชัน "หมอชนะ "เพื่อให้ติดตามได้ ที่สำคัญต้องเซ็นยินยอมที่จะอยู่ภายใต้กฎระเบียบของไทย
สำหรับ ในการติดตามต่างชาติกลุ่มนี้ จะมีการอบรมเจ้าหน้าที่ขึ้นโดยเฉพาะ เราจะอบรมในวันที่ 10 กันยายน 2563 และแน่นอนว่าในทีมเจ้าหน้าที่ติดตาม จะมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข รวมอยู่ด้วย 2 คน ข้อเสนอดังกล่าวขณะนี้อยู่ในการประเมินของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (สปค.) และหากผ่านก็จะเข้าสู่การเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี
"ที่เราจะต้องดำเนินการอย่างรัดกุม เพราะอาจจะเป็นแนวทางในการจัดงานต่างๆได้ แต่ส่วนสำคัญคือ การสร้างความมั่นใจ ในส่วนการจัดงานแบบอื่นๆ จะครอบคลุมทุกรูปแบบทั้งการจัดงานในรูปแบบปกติ (Face to Face), การจัดงานรูปแบบปกติร่วมกับออนไลน์ (Hybrid Event) และการจัดงานออนไลน์ (Virtual Event) มุ่งทำการตลาดล่วงหน้าเน้นการรักษางานเดิมที่เคยจัดอยู่ให้ยังคงจัดในประเทศไทย (Existing Shows) รวมถึงการดึงงานใหม่ (New Shows) ให้กระจายไปยังเมืองไมซ์ซิตี้และเมืองไมซ์ที่มีศักยภาพ "ผอ.ทีเส็บกล่าว
ส่วนการจัดงานทั่วไทยภูมิใจช่วยชาติ ขณะนี้ มีการยืนยันจัดงานไม่ต่ำกว่า 10 งานต่อหนึ่ง บริษัท ภายในเดือนธันวาคม 2563 และใช้แพ็กเกจ ประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่า ซึ่งมีรายนาม บริษัท ทั้งสิ้น 5 หน่วยงาน ได้แก่ บริษัท โตโยต้าแก่นนคร จำกัด , หอการค้าจังหวัดขอนแก่น, โรงแรมเดอะเปียโนรีสอร์ทเขาใหญ่มิวสิคเคิลรีสอร์ท, บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และโรงแรมบุรีศรีภูบูติกโฮเต็ล นอกจากนี้กิจกรรมภายในงานเปิดตัว ประกอบด้วย ไมซ์มาร์ท (MICE Mart) เวทีเจรจาซื้อขายธุรกิจการจัดงานไมซ์ระหว่างผู้ขายจำนวน 120 ราย จากผู้ประกอบการโรงแรมสายการบิน บริษัท จัดงานจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และผู้ซื้อจำนวนไม่ต่ำกว่า 300 ราย จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ . สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์กรมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวเสริมว่า ในการส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วน ร่วมจัดประชุมสัมนาและนิทรรศการ กระจายการจัดงานไปทั่วทุกภูมิภาค สำหรับอุตสาหกรรมไมซ์นับว่ามีความสำคัญกับเศรษฐกิจไทย โดยในปี 2562 ภาวะปกติ ประเทศไทยมียอดพื้นที่จัดแสดงสินค้านานาชาติเป็นอันที่ 1 ของอาเซียน และอันดับที่ 27 ของโลก ทั้งนี้ยังเป็นประเทศที่มีแนวโน้มการจัดประชุมโดยใช้นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์เป็นอันดับ 4 ของอาเชียแปซิฟิก สร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 2 แสนล้านบาท/ปี กลยุทธ์อีกอย่างที่สำคัญคือ การนำการประชุมและงานแสดงสินค้ามาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำของรายได้ในระหว่างภูมิภาค และไมซ์ซิตี้ที่ผ่านมาตราฐานเพิ่มขึ้นในปีนี้อีก 2 จังหวัด คือ นครราชสีมา ที่มีบรรยากาศที่ผ่อนคลายและอาหารรสจัดจ้าน ซึ่งได้ครอบคลุมไปยังชุมชนบ้านสามัคคี ชุมชนปักธงชัย ชุมชนจะโปะ ชุมชนประโดก ชุมชนบ้านโนนสูง และ สงขลา เมืองพหุวัฒนธรรม และเป็นศูนย์กลางทั้งการค้า การศึกษา และราชการ คลอบคลุมเพื่อชุมชนคลองแห-หนองทราย ชุมชนสมิงหม้อ ชุมชนโบราณสีหยัง เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ ให้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
สำหรับ 7 แพ็กเกจพิเศษของทีเส็บ ตลาดในประเทศจัดให้ 3 แพ็กเกจ ได้แก่ 1. ประชุมเมืองไทยปลอดภัยกว่า แพ็กเกจสำหรับการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล luusin (Meetings & Incentives) 2. ประชุมเมืองไทยร่วมใจขับเคลื่อนชาติ แพ็กเกจสำหรับการจัดประชุมภายในประเทศ (Conventions) 3. งานแสดงสินค้าในประเทศนำเศรษฐกิจไทยไปไกลกว่า แพ็กเกจสำหรับการจัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศ (Domestic Exhibitions) ด้านตลาดต่างประเทศใน 4 กลุ่มตลาดประกอบด้วย 1. Ease Up แพ็กเกจสำหรับการจัดประชุมและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลนานาชาติ (Meetings & Incentives) 2. Convene Plus แพ็กเกจการจัดงานประชุมนานาชาติ (Conventions) 3. Re-Energizing แพ็กเกจการจัดงานแสดงสินค้า (Exhibitions) 4. Thailand Power Up แพ็กเกจสนับสนุนการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติ (Mega Events & World Festivals)
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |