'แผงหวย'คาด โยนภาระผู้ซื้อ แบกเพิ่มอากร


เพิ่มเพื่อน    

    แผงหวยบ่นอุบ ไม่เห็นด้วยปรับอากรแสตมป์เป็น 2% เชื่อผลร้ายตกที่คนซื้อสลาก เพราะถูกผลักภาระแน่ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล นายกฯ ผู้ค้าสลากเตรียมจี้ขุนคลังทบทวน ชี้หากปรับควรแค่ 1% หวั่นคนหันไปเล่นใต้ดิน
    เมื่อวันอาทิตย์ นายชัยวัฒน์ ระวีแสงสูรย์ นายกสมาคมผู้ค้าสลากออนไลน์และสลากกินแบ่งไทย เปิดเผยถึงกรณีกรมสรรพากรเตรียมแก้ไขร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ..... เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมอัตราอากรแสตมป์กรณีใบรับรางวัลสลากกินแบ่งของรัฐบาล โดยขึ้นค่าอากรแสตมป์จาก 0.5% เป็น 2% ของเงินรางวัล เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนเงินรางวัลที่ปรับเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันว่า เป็นอัตราที่สูงเกินไป เพราะขึ้นมามากถึง 400% และหากกฎหมายออกมาแบบนี้จริง ผู้ค้าที่รับขึ้นเงินรางวัลลอตเตอรี่ก็ต้องหักค่าดำเนินการเพิ่มตาม โดยอาจเก็บเพิ่มเป็น 4% ของเงินรางวัล หรือเลขท้าย 2 ตัว คิดเงินรางวัล 2,000 บาท ก็หักใบละ 80 บาท ซึ่งเพิ่มจากปัจจุบันที่คิดค่าขึ้นรางวัลเพียง 2% หรือหักเพียง 40 บาทเท่านั้น
“ปกติการรับซื้อรางวัลถือว่าเป็นการช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าที่ถูกรางวัล เพราะบางทีลูกค้าถูกรางวัลเล็ก เช่น เลขท้าย 2 ตัวไปขึ้น รางวัลเองก็ไม่สะดวก ไม่คุ้มค่าเดินทาง ผู้ค้าก็เลยต้องช่วยรับซื้อโดยคิดค่าดำเนินการเพิ่ม 1.50% ของรางวัล ซึ่งถือว่าไม่มาก เพราะหลังจากรับซื้อรางวัลแล้ว ผู้ค้าเองก็ต้องมีค่าเดินทางค่าเสียเวลาไปขึ้นรางวัล อีกทั้งต้องออกเงินรางวัลไปให้ก่อนด้วย ซึ่งการขึ้นค่าอากรนี้ ท้ายที่สุดผู้เดือดร้อนจะเป็นชาวบ้านที่ซื้อลอตเตอรี่ เพราะต้องเสียเงินรางวัลเพิ่ม” นายชัยวัฒน์กล่าว
ทั้งนี้ จากการสำรวจแผงค้าลอตเตอรี่รับขึ้นเงินรางวัลในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ต่างไม่เห็นด้วย และมองว่าการขึ้นค่าอากรแสตมป์ 2% เป็นอัตราที่สูงเกินไป และต่อไปอาจต้องขึ้นค่าดำเนินการขึ้นเงินรางวัลเพิ่มอีก จากปัจจุบันหัก 2% ไปเป็น 5-6% ซึ่งจะทำให้รางวัลเลขท้าย 2 ตัวอาจถูกหักเพิ่มไปถึงใบละ 100-120 บาท รางวัลเลขหน้าและเลขท้าย 3 ตัวขึ้นเป็นใบ 200-240 บาท โดยเฉพาะอำเภอที่ห่างไกลตัวเมืองอาจหักค่าขึ้นรางวัลสูงถึง 6% เนื่องจากมีค่ารถค่าเดินทางสูงกว่า ขณะที่แผงใหญ่ในตัวเมืองอาจหักที่ 4-5%
นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า ในวันที่ 23-24 เม.ย.นี้ จะทำหนังสือถึงนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เพื่อแสดงความเห็นคัดค้าน และเสนอให้รัฐบาลทบทวนการปรับปรุงร่างดังกล่าว โดยจะยื่นข้อเสนอ 2 ข้อ คือ 1.ให้รัฐบาลพิจารณาลดการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐที่ซ้ำซ้อน เนื่องจากปกติการขายลอตเตอรี่ของรัฐบาลก็มีกำไรนำรายได้เข้าแผ่นดินสูงอยู่แล้ว โดยจ่ายรางวัลแค่ 60% ของยอดขายทั้งหมด จึงไม่ควรเก็บรายได้จากอากรแสตมป์กับผู้ถูกรางวัลอีก และ 2.หากรัฐมีความจำเป็นต้องการเพิ่มการเก็บรายได้จากอากรแสตมป์ ก็ควรเก็บเพิ่มจาก 0.5% เป็น 1% ไม่ใช่ 2% ซึ่งถือว่ามากเกินไป
นายชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า จากการศึกษากฎหมายพบว่า ในอดีตสาเหตุที่รัฐบาลเก็บค่าอากรแสตมป์กับผู้ถูกรางวัลลอตเตอรี่เพียง 0.5% เพราะไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ รวมถึงต้องการจูงใจให้คนมาซื้อลอตเตอรี่หรือสลากถูกกฎหมายมากขึ้น ดังนั้นการที่รัฐเพิ่มการเก็บอากร ก็เท่ากับเป็นการขัดเจตนารมณ์กฎหมายที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งจะไม่จูงใจให้คนหันมาซื้อลอตเตอรี่ และอาจกลับไปเล่นหวยใต้ดินแทน เพราะมีเงินรางวัลจูงใจกว่า แถมไม่ถูกหักเงินรางวัลด้วย
“ในการหารือกับสมาชิกผู้ค้ายืนยันว่าไม่เห็นด้วย และมองว่าเรื่องนี้เป็นการสร้างความไม่ชอบธรรมให้กับประชาชนผู้ซื้อสลากอย่างมาก เพราะปกติประชาชนต้องซื้อสลากแพงกว่า 80 บาทอยู่แล้ว แถมเมื่อถูกรางวัลก็โดนหักค่าอากรเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งไม่ควรทำ  อีกทั้งในแต่ละงวดก็มีกำไรส่งรายได้เข้ารัฐเยอะมาก  อย่างครึ่งปีแรก สำนักงานสลากฯ ส่งรายได้เกือบ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะเพียงพอแล้ว ไม่ต้องมาเรียกเก็บอากรซ้ำเติมประชาชนอีก” นายชัยวัฒน์กล่าว.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"