นับเป็นการท้าทายปฏิรูปการเมืองมากโข เมื่อ "บิ๊กตู่" ถูกนักการเมืองรุมสกรัมว่า โชว์พลังดูดได้ไร้เทียมทาน ไม่แพ้ผู้นำรัฐประหารรุ่นพี่
    ว่าไปแล้ว นักการเมืองในพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาเจื้อยแจ้ว ความจำสั้น หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่า โคตรเหง้าศักราชของพรรคตัวเองนั้น....  
    คือนักดูดตัวพ่อ!
    ทักษิณ ชินวัตร ตั้งพรรคไทยรักไทย ด้วยการควบรวม ดูด "ซูปเปอร์" แล้วแต่จะเรียกกัน แต่มีความหมายเดียวคือ ซื้อตัว ส.ส.กันเป็นประวัติการณ์
    ซื้อตัวบุคคล
    ซื้อทั้งตระกูล
    ซื้อยกเขต
    ชื้อทั้งพรรค
    ทักษิณทำมาหมดแล้ว 
    ถามว่าต่างจากที่ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ทำอยู่ ณ เวลานี้ หรือไม่
    ก็ไม่ต่าง โดยเฉพาะตัวบุคคล
    หลายคนที่ทักษิณเคยดูด วันนี้พรรคสนับสนุน คสช.ดูดต่ออีกที
    ถ้าเป็นไอติม น้ำลายยังไม่แห้ง ก็ดูดกันต่อแล้ว
    ในมุมหนึ่ง...นี่คือวิถีของการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย ที่ยังต้องได้รับการพัฒนาอีกเป็นพะเรอเกวียน
    จะโทษใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ มันคือความล้มเหลว และล้าหลังทั้งองคาพยพ
    ทั้ง คสช. ทั้งพรรคการเมือง 
    และประชาชน
    วันนี้นักการเมืองใช้วาทกรรมสาดใส่กัน เอ็งชั่ว ข้าเลว ทีตัวเองดูดเป็นเรื่องถูกต้อง พอคนอื่นดูด ชี้หน้าด่า เลวบัดซบ 
    แต่สุดท้ายประชาชนก็เลือกนักการเมืองกลุ่มนี้เข้าสภา 
    ฉะนั้นถ้าจะถามหาปฏิรูปการเมือง คงจะหวังพึ่ง คสช.ยาก เพราะขณะนี้ทุกอย่างมันไหลลื่นลงร่อง
    ที่จริงถ้า คสช.บอกจะยุติบทบาทหลังเลือกตั้ง ทุกอย่างก็จบ ไม่ต้องหาฐานคะแนนมาสนับสนุน หลังเลือกตั้ง
    และที่จะจบไปเช่นกันคือความคาดหวังว่า จะเกิดการปฏิรูปการเมืองขึ้น 
    เพราะก่อนการรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ นักการเมืองแสดงให้เห็นแล้วว่าไร้ศักยภาพที่จะเป็นตัวนำในการปฏิรูปการเมือง 
    ซ้ำร้ายกลับเป็นต้นเหตุทำให้การเมืองล้มเหลวเสียเอง
    การเมืองวันนี้จึงยังเป็นการเมืองเก่า กับอีกพวกประกาศว่าตัวเองใหม่ถอดด้าม หลุดมาจากอารยธรรมยูโทเปีย 
    และนี่คือสิ่งที่ต้องเลือกในวันที่เข้าคูหาเลือกตั้งปีหน้า.