1 ก.ย.2563 นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือน ก.ย. 2563 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 9,336-9,595 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.16-3.97% เนื่องจากขาดแคลนข้าวระดับคุณภาพ 5% ในตลาดโลก จากการที่ประเทศจีนและอินเดียประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างรุนแรง และการระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรงที่สุดในทวีปเอเชีย อีกทั้งประเทศเวียดนามก็ประสบปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 จึงเกิดการกักตุนข้าวในประเทศ
ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 14,531-14,636 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.32-1.05% เนื่องจากความกังวลผลผลิตข้าวในฤดูถัดไปอาจลดลงจากภาวะฝนตกหนักในแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 7.59-7.63 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.00-1.50% เนื่องจากมี ฝนตกชุกต่อเนื่อง เกษตรกรจึงชะลอการเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง
ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 41.50 – 42.25 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.36 – 2.18% เนื่องจากความต้องการใช้ยางพาราภายในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากมาตรการภาครัฐ ประกอบกับเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงจึงส่งผลดีต่อความต้องการใช้ยางพารา, มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 1.73-1.78 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.58 – 3.49% เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูกาลผลิต ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการลานมันเส้น และสุกร ราคาอยู่ที่ 78.08–79.26 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.64–2.17% เนื่องจากประเทศที่บริโภคสุกรรายใหญ่ของโลกประสบปัญหาการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร จึงมีคำสั่งซื้อเพื่อนำเข้าสุกรจากไทยเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่า
ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 15,376-15,377 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน 0.38-0.40% เนื่องจากผู้ประกอบการระบายผลผลิต ข้าวเหนียวในสต็อกคงค้างของปีก่อนออกสู่ตลาดเพื่อรองรับผลผลิตฤดูกาลใหม่, น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 12.70-12.77 เซนต์/ปอนด์ (8.80-8.85 บาท/กก.) ลดลงจากเดือนก่อน 0.50-1.00% เนื่องจากคาดการณ์ว่าผลผลิตน้ำตาลทางภาคกลาง-ใต้ของประเทศบราซิล ในปี 2563/64 เพิ่มขึ้น
ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 3.35-3.45 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 3.09 – 5.90% เนื่องจากสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศยังอยู่ในระดับสูง และกุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 139.00–140.00 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 0.71–1.42% เนื่องจากสถานการณ์ราคากุ้งในตลาดโลกลดลง เป็นปัจจัยกดดันให้ราคากุ้งในประเทศลดลงด้วย โดยคาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 20,000 ตัน ขณะที่ความต้องการบริโภคในประเทศชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |